บทที่ 1 ชีวิตคู่

1363 Words
เช้าวันต่อมา... เป็นอีกคืนที่หญิงสาวไม่สามารถข่มตานอนหลับได้ เธอมีความกังวลตลอดเวลาว่าคนเป็นสามีจะแอบไปเลี้ยงเด็กทิ้งไว้ที่ไหน เป็นเวลาสองปีในการที่เราสองคนแต่งงานกันมา ไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา แต่ทว่าเขากลับทำตัวปกติเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร ที่สำคัญไม่ยอมเปิดตัวเธอออกสื่อ และให้ทุกคนรู้ว่าพิมพ์ชนกต้องการความเป็นส่วนตัว ทั้งที่อยากเปิดตัวจะแย่ "คุณหนูตื่นได้แล้วค่ะ ถึงเวลาที่คุณวินจะตื่นแล้วค่ะ" "คุณวินเหรอ..." หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็รีบขยับตัวลุกขึ้นลงมาจากเตียงนอน ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำชำระร่างกายของตัวเองให้เสร็จ จากนั้นก็หยิบชุดไปรเวทสบายตัวมาสวมใส่ เช็คความเรียบร้อย จากนั้นก็รีบเดินไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องชายหนุ่มชอบเข้าไปนอนอยู่ในนั้น แทบจะนับครั้งเลยด้วยซ้ำกับการที่ใช้ชีวิตแต่งงานอยู่ด้วยกันมาสองปี ชายหนุ่มชอบอ้างว่าทำงานแล้วก็จะเข้าไปไปนอนอีกห้องหนึ่งแทนที่จะเข้ามาอยู่กับเธอ ก๊อก ๆ "เข้ามาสิ" และเมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงจากคนข้างในเอ่ยอนุญาตก็ค่อย ๆ บิดลูกบิดก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มตื่นนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าน่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ นั่นเท่ากับว่าเธอตื่นช้ากว่าที่เคย "ตื่นเร็วจังเลยค่ะ พิมพ์กำลังจะเข้ามาเตรียมชุดให้" "ไม่เป็นไรหรอกผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลงไปกินข้าวเถอะอีกเดี๋ยวจะต้องไปประชุมกับพนักงานช่วงเช้า ส่วนตอนเย็นคุณไม่ต้องรอนะ วันนี้ผมจะไปปาร์ตี้กับทีมงาน ฉลองที่ได้รับรางวัลช่องยอดเยี่ยมแห่งปี" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับหยิบเอกสารมาถือไว้ในมือก่อนจะเดินออกไปจากห้องนั้น พิมพ์ชนกได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินตามออกไปรบเร้าขอไปปาร์ตี้คืนนี้กับเขา การที่ปล่อยให้ชัชวินไปดื่มแอลกอฮอล์กับบรรดาลูกน้อง ไหนจะมีนักแสดงทั้งนางเอกและนางร้ายมีแต่คนสวยทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าเขาเกิดหน้ามืดแล้วไปต่อกับผู้หญิงพวกนั้นเธอคงจะรู้สึกไม่โอเค จึงคิดว่าถ้าเกิดตามไปด้วยชายหนุ่มก็น่าจะพอไว้หน้าคนเป็นเมียบ้าง "ขอพิมพ์ไปด้วยได้ไหมคะ ตั้งแต่แต่งงานกับคุณมาก็ไม่เคยได้ออกงานเลย อีกอย่างช่องของคุณก็ได้รับรางวัลสี่ปีซ้อน พิมพ์เองก็ยังไม่เคยไปร่วมแสดงความยินดีเลยสักครั้งเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้ขอพิมพ์ไปด้วยนะคะ" เธอพยายามตื๊อขอไปด้วยกับชายหนุ่ม แต่ทว่าเขากลับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เหมือนไม่ได้อยากให้เธอเข้าไปมีส่วนร่วมในงานคืนนี้ "ผมว่าคุณอย่าไปเลย ไม่สบายไม่ใช่หรือไง เอาเวลาไปรักษาตัวดีกว่า ไปปาร์ตี้มีแต่สิ่งอโคจร ทั้งกลิ่นบุหรี่ ไหนจะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปหมด ผมว่าคุณอยู่ที่บ้านเนี่ยแหละ ผมไม่อยากเป็นห่วง" ในน้ำเสียงของชัชวินดูเหมือนจะเป็นห่วงหญิงสาวอยู่ในที แต่ทว่าความเป็นจริงแล้วเขาไม่อยากจะให้หญิงสาวตามติดชีวิตเหมือนไม่ให้อิสระ ทุกวันนี้เธอดูระแวงกับความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคน ทำไมจะไม่รู้ว่าพิมพ์ชนกส่งคนตามดูการใช้ชีวิตของเขาอยู่ตลอด คงกลัวว่าเขาจะเลี้ยงผู้หญิงไว้ข้างนอกละมั้ง "แต่ว่า..." "วันนี้คุณหมอนัดไม่ใช่เหรอ" "ใช่ค่ะ พิมพ์อยากให้คุณไปด้วยจัง แต่ก็รู้ค่ะว่าคุณต้องทำงานหนักเพื่อครอบครัว ไม่เป็นไรค่ะถ้าคุณหมอมีความคืบหน้าอะไรเพิ่มเติม เดี๋ยวพิมพ์จะมาบอกคุณนะคะ" เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในห้องอาหารขนาดใหญ่ ส่วนพิมพ์ชนกเดินไปนั่งเคียงข้างกับเขา คอยเอาอกเอาใจสามีตักของอร่อยที่ชอบให้กิน แต่ดูเหมือนว่าชัชวินจะไม่ได้อินกับสิ่งที่เธอทำให้เลยแม้แต่น้อย ทั้งสองคนนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกันประมาณ 20 นาที ชายหนุ่มไม่ได้รับประทานอาหารมากนัก เน้นดื่มกาแฟแล้วก็ขนมปังนิดหน่อยจากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อสูทที่พาดตรงขอบเก้าอี้ติดมือไปด้วย "ดูแลคุณพิมพ์ชนกด้วยนะ ผมไปทำงานก่อน" "เดินทางปลอดภัยค่ะ" หญิงสาวมองตามชายหนุ่มไปจนลับสายตา และเมื่อเขาเดินไปพ้นประตูไป เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง กำมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดและท่าทีดูเป็นกังวล "พี่ซินเห็นไหมว่าคุณวินเปลี่ยนไป เค้าจะต้องเลี้ยงผู้หญิงไว้ข้างนอกแน่เลย มีงานปาร์ตี้ทั้งทีแทนที่จะชวนพิมพ์ไป ถ้าเป็นแบบนี้ผู้หญิงคนอื่นจะต้องมาแย่งคุณวินไปจากพิมพ์แน่" "ใจเย็นก่อนนะคะคุณหนู พี่ิซินว่าตอนนี้เราไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่าค่ะ บางทีเราอาจจะได้รับข่าวดี พี่ซินเชื่อนะคะว่าคุณหนูจะหายดี ถึงตอนนั้นครอบครัวก็จะกลับมาเป็นครอบครัวจริง ๆ" "ก็ขอให้มันเป็นแบบนั้นค่ะ เพราะถ้าเกิดว่าครบสามปียังไม่หาย คุณวินทิ้งพิมพ์แน่" พิมพ์ชนกเริ่มรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานะความสัมพันธ์ครอบครัว เขามีเงื่อนไขให้เธอถ้าครบสามปีแล้วยังไม่สามารถทำหน้าที่ภรรยาได้ เราสองคนจะต้องแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเอง และเขาจะให้เงินเธอไปตั้งตัวเป็นค่าเสียเวลาสำหรับที่ผ่านมาเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท เงินเพียงแค่นั้นถ้าเทียบกับฐานะอันร่ำรวยของเขา มันเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น และเธอจะไม่ยอมเสียเค้าไปแน่ หลังจากที่เธอรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับพี่เลี้ยง คุณหมอนัดช่วงเช้าเวลาประมาณ 9 โมง ทำการตรวจร่างกายตามปกติแต่ดูเหมือนว่าไม่มีท่าทีจะดีขึ้นเลย "หมอว่าอย่าพึ่งกังวลอะไรเลยนะครับ ยิ่งคุณพิมพ์ชนกเครียดมันจะไม่หายนะครับ บางส่วนมันเกิดจากอาการวิตกกังวลแล้วก็เครียดมากจนเกินไป หมอว่าผ่อนคลายทำใจให้สงบจะดีกว่า" "คุณหมอก็พูดได้นี่คะ ไม่ลองมาเป็นพิมพ์ดูล่ะ ใช้ชีวิตลำบากแค่ไหน พิมพ์อยากหายค่ะคุณหมอทำยังไงก็ได้ให้พิมพ์หายดี จ่ายไม่อั้นค่ะขอให้มันหาย" เธอเอ่ยออกมาด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะควบคุมไม่อยู่ จนพี่เลี้ยงต้องจับไหล่และส่ายหน้าเพื่อให้เธอควบคุมสติ ภาพลักษณ์ของนายหญิงแห่งช่อง 99 ยังไงก็ต้องแสนดีที่สุด จะแสดงกิริยาแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด "ใจเย็นก่อนนะครับคุณพิมพ์ชนก หมอพยายามช่วยอย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พยายามอย่าเครียดแล้วก็ดูแลตัวเองให้มาก กินยาตามที่หมอสั่งแค่นี้ก็พอแล้ว แล้วเดี๋ยวเดือนหน้าหมอจะนัดมาคุยกันอีกทีหนึ่ง ตกลงตามนี้นะครับ" "ค่ะ ขอโทษที่แสดงกิริยาไม่ดีค่ะ" เหมือนเธอจะเริ่มรู้สึกตัวว่าแสดงกิริยาที่ไม่ดีออกมา คุณหมอเองยิ้มออกมาไม่ได้ว่าอะไร ใครเป็นแบบนี้ก็ต้องเครียดกันทั้งนั้นคนเป็นหมอรู้ดีที่สุด ฉะนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือคอยให้กำลังใจและพยายามหาวิธีรักษาคนไข้ให้หายดี "ไม่เป็นไรครับหมอเอาใจช่วย คุณพิมพ์ชนกจะต้องหายดีแน่" "ก็ขอให้เป็นแบบนั้นค่ะ พิมพ์อยากหายสักที"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD