“ก็มีคนงานช่วยคุมนั่นแหละ แต่พี่เองกลัวว่างานจะไม่เรียบร้อยก็เลยลงไปดูด้วยตัวเองดีกว่า เลยได้รู้ปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น แบบนี้ก็ดีเหมือนกันคนงานเขาก็จะได้มีขวัญกำลังใจ เขาจะได้ไม่คิดว่าเราทอดทิ้งพวกเขาในเวลาที่เจ็บป่วยไข้ไม่สบาย...อืม...วันนี้อากาศร้อนมากเลยเดี๋ยวพี่ขออาบน้ำก่อนนะ”
พูดจบเขาก็หายเข้าไปในห้องน้ำเป็นเวลาแค่ 10 นาทีก่อนที่จะกลับออกมา จเด็จไม่เสียเวลาในการแบน้ำนานเพราะแต่ละวันเขามีงานมากมายรออยู่ คืนนี้เขาสวมเสื้อยืดคอกลมและกางเกงแพรแต่พอเปิดประตูห้องน้ำจเด็จก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อเพียงกมลยืนรอเขาอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำก่อนแล้ว
“เพียง...มีอะไรอย่างนั้นเเหรอ?”
“พี่เด็ดคะ เพียงแค่อยากจะบอกว่าคืนนี้เพียงอยากให้พี่เด็จไปนอนที่ห้องของนิ่มนะคะ”
“ว่ายังไงนะ...จะให้พี่ไปนอนที่ห้องนิ่มอย่างนั้นเเหรอ?”
เสด็จย่นคิ้วเข้าหากัน เขาเดินออกมาแล้ววางผ้าขนหนูไว้บนราวตากผ้าก่อนหันกลับมายังภรรยาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“มันจะไม่เร็วไปหน่อยเเหรอเพียง...นิ่มเขาเพิ่งไม่อยู่ที่ปางไม้ได้ไม่ทันจะ 2-3 วันแล้วนี่จะให้พี่ไปนอนห้องเดียวกับเขาอย่างนั้นเเหรอ?”
“อย่าเพิ่งฉุนเฉียวสิคะพี่เด็จ...ที่เพียงเสนอให้พี่เด็จไปนอนห้องเดียวกับนิ่มเพราะว่าอยากจะให้พี่เด็จได้รู้สึกชินกับการที่จะต้องอยู่ใกล้ชิดกับน้องสาวของเพียงก็เท่านั้น พี่เด็จอาจจะยังไม่ต้องทำอะไรก่อนก็ได้นะคะ เพียงก็ไม่ได้บังคับว่าพี่เด็จจะต้องทำให้นิ่มท้องภายในอาทิตย์สองอาทิตย์นี้ซะหน่อย”
“แต่นี่มันเร็วเกินไป เพียงทำแบบนี้คิดถึงใจพี่บ้างสิ เพียงคิดหรือเปล่าว่าพี่จะพร้อมไหม”
“ไม่จำเป็นต้องใช้ความพร้อมอะไรเหรอกค่ะและเพียงก็เข้าใจว่าเรื่องนี้มันจะเป็นยังไง แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่พี่เด็จนะคะ เพียงอยากจะให้พี่เด็จรู้สึกคุ้นชินให้มากที่สุดกับการที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับนิ่มพี่เด็จก็เห็นแล้วไม่ใช่เเหรอคะว่านิ่มเขาเป็นเด็กที่ว่าง่าย ไม่ว่าจะพูดอะไรนิ่มเขาก็จะรับฟังทุกอย่างเพียงแค่ให้พี่เด็จได้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดเขาให้มากที่สุด คิดง่าย ๆ ว่าแค่เปลี่ยนที่นอนเท่านั้นเอง”
“พี่ถามจริง ๆ เถอะนะ เพียงไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเเหรอที่ไล่ให้ผัวไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้”
“นี่เป็นคำขอร้องค่ะไม่ใช่เพียงจะไล่หรือว่าบีบบังคับ แต่ถ้าพี่เด็จรู้สึกว่าไม่สบายใจและไม่สามารถที่จะทำได้เพียงก็ไม่บังคับพี่เด็จเหรอกนะคะ”
“เพียง...”
จเด็จรั้งแขนของภรรยาไว้ก่อนที่เธอจะผละห่างจากเขา เพียงกมลหันกลับมายังสามีของเธอ เขาจ้องหน้าเธอนิ่ง
“ถ้าเพียงต้องการให้พี่ทำแบบนั้นจริง ๆ พี่ก็จะทำ แต่พี่แค่อยากรู้เท่านั้นว่าลึกลึกแล้วเพียงมีความสุขหรือเปล่าที่ให้พี่ทำแบบนี้”
เขาตั้งคำถามแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเพียงกมลรู้สึกอย่างไรจากประกายตาแวววาวที่ส่องออกมาบนใบหน้าซูบเซียวนั้น เธอไม่ตอบเขาและนิ่งอยู่ชั่วอึดใจก่อนที่จะค่อย ๆ หันหลังให้และผละห่างไปโดยที่จเด็จก็ไม่ได้รั้งเธอเอาไว้และเขาเองก็ตัดสินใจออกจากห้องนั้นเพื่อที่จะลงไปยังชั้นล่าง ที่ห้องของนภัทสรีย์ พ่อเลี้ยงหนุ่มหยุดยืนที่หน้าประตู เขาทำใจอยู่นานมากทีเดียวกว่าที่จะตัดสินใจเคาะประตูสักครู่ประตูห้องก็ถูกเปิดออก นภัทสรีย์ยืนนิ่งจังงัง เธอมีสีหน้ามึนงงเมื่อเห็นพี่เขยยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง เขาไม่ได้ยืนอยู่อย่างเดียวแต่ยังหอบหมอนและที่นอนไว้กับตัวเขาด้วย
“พี่เด็จ...มีอะไรเเหรอคะ แล้วนี่จะเอาหมอนกับที่นอนไปไหนคะ?”
“พี่ก็จะมานอนห้องนี้ตามคำสั่งของเมียพี่ยังไงล่ะ”
“ว่ายังไงนะคะ!...พี่เด็จจะมานอนที่ห้องนี้เเหรอคะ?”
บทที่ 8
“ใช่...ก็พี่สาวของนิ่มเขาบอกให้พี่มานอนที่ห้องนี้ แล้วนี่จะให้พี่เข้าไปได้หรือยัง”
“คะ...ค่ะ....เข้ามาสิคะ”
นภัทสรีย์ไม่ปฏิเสธเพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไงเมื่อในเวลานั้นทั้งมึนงงและแปลกใจแต่ก็ไม่อาจแสดงความสงสัยอะไรออกมาได้ และเมื่อปิดประตูห้อง พอหันกลับไปก็เห็นจเด็จปูเบาะที่เขานำมาด้วยไว้ข้างเตียงและวางหมอนลงแต่ดูเหมือนว่าเขาจะลืมอะไรบางอย่าง เมื่อเขานั่งลงนภัทสรีย์เดินตามเข้าไป
“พี่เด็จเอาแค่หมอนเบาะรองนอนมาเท่านั้นเเหรอคะ?”
“พี่ก็เอามาแค่นี้ จะให้พี่เอาอะไรมามากกว่านี้ล่ะ”
“แล้วพี่เด็จไม่ได้เอาผ้าห่มมาด้วยเเหรอคะ?”
พอนภัทสรีย์ถามเช่นนั้นจเด็จก็ทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้แต่พ่อเขาทำท่าจะลุกขึ้นเธอก็รีบบอกว่า
“ไม่เป็นไรเหรอกค่ะ พี่เด็จไม่ต้องกลับไปเอาที่ห้องก็ได้เดี๋ยวเอาผ้าห่มของนิ่มห่มไปก่อนก็ได้ค่ะ”
“แล้วนิ่มจะห่มอะไรในเมื่อผ้าห่มมีแค่ผืนเดียว”
“เวลานอนนิ่มไม่ค่อยห่มผ้าค่ะ นิ่มจะขี้ร้อนและห้องนี้ก็ไม่มีแอร์ด้วย นิ่มเปิดพัดลมนอนได้ค่ะ”
“นิ่มเอาไว้ห่มเถอะ ผ้าห่มมันมีผืนเดียวถ้าพี่เอามาห่มซะมันดูเหมือนพี่เห็นแก่ตัวยังไงก็ไม่รู้”