ตอนที่ 9

1015 Words
                ขอบตาหวานและปลายจมูกรั้นๆ แดงระเรื่อที่เห็น ทำไมนะเขาถึงคิดว่าเธอเหมือนพึ่งจะผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ ทว่าเพราะแก้มเปล่งที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นอย่างกะทันหันต่อหน้าต่อตาเขานี้ สิ่งที่เขาคิดอาจจะไม่ใช่ก็ได้ รวมทั้งริมฝีปากที่เผยอค้างอย่างตะลึงมองเขาเช่นกันนั้นมันน่าจูบเสียจนทำให้เขาอดใจไม่ได้                 “อุ๊บ!..อื้อ..”                 ความอุ่นวาบฉกทาบประทับที่ริมฝีปากน้อยๆ นั้นในทันที ลลิลเบิกตาโตอย่างตกใจ ใบหน้าส่ายไปมาไม่ยอมขณะที่ฝ่ามือยันแผงอกเขาและดิ้นรนให้อ้อมแขนรัดนั้นคลายออก ทว่ายิ่งดิ้นเหมือนจะยิ่งเพิ่มความรุกเร้ามากยิ่งขึ้น ลิ้นชำนาญงานชอกชอนดันดูดความอ่อนเดียงสาอย่างจาบจ้วง ลลิลรู้สึกเหมือนโลกหมุนคว้างอยู่กลางอากาศเมื่อรับรู้ได้ว่าการหายใจกับอากาศที่ได้รับเริ่มจะไม่สัมพันธ์กัน                 “หึหึหึ.. ไก่ยังบินไม่เป็นเลยนี่ ท่าทางจะต้องสอนกันอีกนาน”                 ภคินรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษเมื่อประสบการณ์สอนสั่งให้รู้ว่า “ไก่หลง” ตัวนี้ช่างอ่อนเดียงสานัก “จูบแรก” ของเธอคือสิ่งที่เขาได้รับเป็นรางวัลยามเช้า ดวงตาคมเข้มทอดมองหญิงสาวในอ้อมกอดที่ดูเหมือนจะเป็นลมจนมือเท้าอ่อนแรงไปหมด ใบหน้าหล่อหันซ้ายหันขวาก่อนจะประคองเธอให้มานั่งบนโซฟาตัวยาวที่เขาใช้บริการเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา                 ลลิลกลายเป็นคนว่านอนสอนง่ายอย่างเหลือเชื่อเพราะความมึนๆ งงๆ ที่ได้รับทำให้ประสาทสั่งงานดูเหมือนจะเป็นอัมพาตชั่วคราว แต่เพียงสัมผัสได้ถึงเบาะนุ่มร่างบางก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาในทันที                 “บ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ปล่อย!”                 เสียงหวานแหววขึ้นในทันทีพยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากฝ่ามือแกร่งที่กระชับต้นแขนทั้งสองข้างไว้ ทว่ามันไม่เพียงไม่หลุดแต่เจ้าของฝ่ามือเหมือนจะยิ่งถูกใจที่เห็นแววพยศในดวงตาคู่สวย                 “ถ้าดิ้นหลุดจะให้รางวัล” เสียงทุ้มเอ่ยบอกขณะที่ยังเจือไว้ด้วยแววขำขันทั้งสีหน้าและแววตาไม่เว้นแม้แต่เสียงหัวเราะในลำคอ                 “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าไม่ปล่อยฉันจะร้องให้..แม่..ช่วย”                 คำพูดที่เหมือนจะไม่ต้องการเอ่ยคำว่า “แม่” ออกมา แม้จะทำให้ภคินรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในน้ำเสียงนั้น แต่ทว่าจะมีอะไรมากไปกว่าที่เธอจะไม่ต้องการเอ่ยคำนั้นออกมา “แม่เล้า” ก็ใครล่ะจะกล้า                 “หึ! แม่.. เรียกให้เต็มตำแหน่งก็ได้ฉันไม่ถือหรอก ว่าแต่..นี่จะมาทำประจำหรือว่าชั่วคราวล่ะ จะได้เรียกใช้ได้ถูก”                 สิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยออกมาแม้จะรู้สึกแปลกๆ ทั้งสีหน้า น้ำเสียงรวมทั้งความหมายแต่มันก็ไม่เท่าที่เขาเหมือนจะเป็นดูเป็นคนมีอำนาจในร้านอาหารแห่งนี้ หรือว่าเขาจะเป็นหุ้นส่วนอย่างที่แม่เคยบอกไว้ และดูเหมือนเขาจะคิดว่าเธอมาสมัครงาน                 “ว่าไงล่ะ จะมาทำประจำหรือว่ามาแค่ชั่วคราวจะได้บอกคุณดาถูก เวลา..เรียกใช้ หึหึหึ..”                 “เขารู้จักแม่ด้วย หรือจะเป็นหุ้นส่วนของแม่จริงๆ แต่ไอ้ที่เขาทำเมื่อกี้ไม่ชอบจริงๆ แล้วจะบอกแม่ยังไงดี จะมองหน้ากันติดไหมเนี๊ย”                 “จะ..มาฝึกงาน”                 ใบหน้าสวยหวานก้มต่ำกับลักษณะพูดไปกัดริมฝีปากล่างไปอย่างอึดอัดที่จะบอก มันให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ภคินกวาดสายตาสำรวจตรวจตราเรือนร่างงามตรงหน้าดั่งกำลังประเมินมองสินค้าว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่จะเสียไปหรือไม่                 “34.. 24.. 35.. 170.. ไม่น่าเกิน 50 อืม.. กำลังดี”                 “จะฝึกไปทำไม ทำไมไม่ทำจริงจังเสียเลยล่ะ หรือว่ามีที่ทำงานประจำที่เงินดีกว่าที่นี่แล้ว”                 เขายิ่งพูดก็ยิ่งทำให้เธองงมากขึ้น ฝ่ามือแกร่งที่คลายออกทำให้ลลิลเขยิบตัวครั้งเดียวร่างบางก็ไปอยู่จนชิดติดขอบเก้าอี้ ใจอยากจะออกให้ห่างกว่านั้นแต่ติดตรงที่ว่าเขาที่นั่งขวางปิดทางเข้าออกทำให้เธอไม่กล้า แม้จะเป็นยามเช้าแต่บรรยากาศด้านในกลับมืดทึบเพราะไม่มีประตูหรือหน้าต่างบานใดเลยที่เปิดออก                 “ถ้าเธอคิดที่จะฝึกงานที่นี่จริงๆ ฝึกกับฉันคนเดียวก็พอ รับรองหลักสูตรเร่งรัดจบแล้วหางานทำง่าย ที่ไหนๆ ก็รับเข้าหมด ทั้งหมดที่ฉันรู้ฉันเชี่ยวชาญจะสอนให้เธอทุกกระบวน... สนใจไหม”                 ลลิลมองผู้ชายตรงหน้าอย่างงงๆ มากยิ่งขึ้น ผู้ชายคนนี้กำลังพูดอะไรกับเธอ และงานที่เขาบอกจะให้ฝึกจะสอนให้มันเป็นงานจริงๆ หรือไม่ ทำไมเขาถึงได้มองเธอราวกับเป็นอาหารหวานอันโอชะอย่างนั้น                 “ว่าไง สนใจไหมล่ะ ฉันให้สองแสน กินอยู่เสร็จ เอ..ระยะฝึกงานกี่เดือนดีน้า.. อืม..4 เดือนล่ะกัน ตกลงไหม ถ้าตกลงฉันจะให้เลขามาทำสัญญาเดี๋ยวนี้เลย”                 “คะ!..คุณว่าอะไรนะ”                 สิ่งที่ได้ยินไม่ใช่ว่าเธอตาโตเพราะเงินก้อนที่เขาเสนอแต่เป็นเพราะสมองเริ่มประมวลถึงงานที่เขาเอ่ยมาตั้งแต่ต้นจนจบได้ตอนนี้เองว่ามันคืองานอะไรกันแน่                 “ทำไมล่ะ หรือว่ามันน้อยไป ฉันไม่เคยทุ่มให้ใครขนาดนี้เลยนะ เดือนละสามหมื่นสี่เดือนก็แสนสอง คอนโดอยู่ฟรีและอาหารสามมื้อ รวมทั้งเสื้อผ้าหน้าผมช้อปได้ไม่อั้น และพิเศษสำหรับเธอ..เวอร์จิ้นอย่างนี้เพิ่มให้อีกแปดหมื่น รวมเป็นสองแสนพอดี ตัดสินใจเร็วๆ ก็แล้วกัน เลือกเอาจะฝึกงานกับฉันคนเดียวหรือจะเลือกฝึก..กับทั้งหนุ่มและแก่”  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD