ตอนที่ 5 น้องไม่นุ่ง

2776 Words
@เช้าวันต่อมา ภูผาขับรถมาจอดที่ใต้คอนโดของนิชาดาในเวลาเจ็ดโมงตรงเป๊ะไม่ขาดไม่เกินเมื่อยกขึ้นดูเวลาบนข้อมือแล้ว เชื่อไหมว่าเขาตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อจะมาให้ทันเวลา เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะชิ่งหนีไปขึ้นรถสาธารณะก่อน ทั้งที่ปกติเขาตื่นเจ็ดโมงเช้ายังไปทำงานทันได้สบาย นิชาดาเดินออกมาพอดี แต่แล้วชุดที่เขาคิดว่าเธอจะใส่ ไอ้ชุดเดรสรัดรูปสุดเซ็กซี่ที่เขาปรารถนาผ้านิ่มๆ ไม่มี เป็นเพียงเสื้อเชิ้ตสีเข้มกว่าเมื่อวานกับกระโปรงทรงเอสีดำธรรมดาๆ เท่านั้น แถมวันนี้กระโปรงโคตรยาวกว่าเมื่อวานนี้อีก จะยาวไปไหนวะ! แบบนี้ถลกยากแน่นอน ภูผาส่ายหัวก่อนเดินลงจากรถไปไปรับ "สวัสดีค่ะ" นิชาดายกมือไหว้ผู้ใหญ่ และเขาเป็นถึงรองประธานบริษัทที่เธอกำลังจะเข้าไปทำงานด้วย ภูผาพยักหน้า วางมือลงที่เอวคอดแล้วพาอีกคนเดินไปขึ้นรถโดยมีเขาเป็นฝ่ายเปิดประตูให้ การกระทำที่รวดเร็วทำเอานิชาดาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวตกใจ หากแต่อย่างนั้นยอมเดินไปกับเขาด้วยกระทั่งเข้ามาอยู่ในรถ เขาก็เดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วมาอยู่หลังพวงมาลัย เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ ความใกล้ชิดจนเกินไปทำเอานิชาดากลั้นหายใจนานจนจะขาดอากาศหายใจ อีกแล้วนะ! เขาจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน ยังไม่ทันได้เริ่มงานเธอรู้สึกไม่อยากทำเสียแล้วสิ ภูผาขับรถออกมาจากซอยที่เธออยู่ยังไม่ถึงห้านาทีเขาจึงหันไปถาม "น้องนิดหิวมั้ยคะ ทานข้าวเช้ามาหรือยัง" หรือบางทีสมองเขาอาจจะขาดสารอาหารเพราะส่วนมากกินแต่เหล้า เช้าวันนี้จึงรู้สึกอยากกินข้าวกับน้องขึ้นมา "ไม่เป็นไรค่ะ ปกตินิดไม่ทานข้าวเช้า" เธอกลัวมันจะถ่วงเวลาเขาเปล่าๆ เดี๋ยวค่อยไปหาซื้อขนมปังรองท้อง เพราะที่บริษัทเขามีมินิมาร์ทและคาเฟ่น่ารักๆ สำหรับพนักงานอยู่ติดๆ กัน มีสวนร่มรื่น มีน้ำตกเล็กๆ น่ารักๆ เรียกได้ว่าเหมาะแก่การมานั่งผ่อนคลาย ดูว่าเป็นบริษัทที่ใส่ใจพนักงานดี "ได้ไงกันคะ หากต่อไปจะไปทำงานเราต้องทานข้าวเช้าทุกครั้ง ไม่งั้นสมองจะเอาสารอาหารจากที่ไหนมาคิดงาน" ว่าแล้วเขาก็เทียบร้านค้าเล็กๆ ที่ข้างทางเพื่อทานข้าวก่อน "ปะ ลงไปทานข้าวกันก่อนค่ะ" นิชาดาจำต้องลงจากรถเมื่อเขาว่าอย่างนั้น อีกอย่างเจ้าของรถเขาก็มารอรับที่ฝั่งของเธอแล้ว แต่บ้ามากคือเขาเดินโอบเอวเธอเข้าไปในร้าน แต่คนเยอะแบบนี้เธอไม่อยากให้ตกเป็นเป้าสายตาจึงยังนิ่ง นิชาดาเดินมานั่งลงเก้าอี้เขาก็เดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม มองบรรยากาศในร้านที่เป็นเพียงร้านอาหารธรรมดา ที่เธอสงสัยว่าเขาเป็นถึงรองประธานบริษัท บ้านเขารวยและมีแต่ผู้ดีขนาดนั้นเขาทานอาหารร้านข้างทางแบบนี้ได้ด้วยเหรอ "น้องนิดทานอะไรดีคะ" เขายังคงเรียกเธออย่างเป็นกันเอง หรือแท้จริงเขาเป็นคนอย่างนี้ด้วย ชอบเอาใจใส่ดูแลเทคแคร์หากสนิทสนม น้องอยากสนิทกับเขาไหมไม่รู้ แต่เขาน่ะยังต้องถามอีกเหรอ อยากสนิทโคตรๆ อยากสนิทตั้งแต่เมื่อวานแต่เทวดาไม่เป็นใจชอบแกล้งคนหล่อ "นิดเอาข้าวต้มค่ะ" นิชาดาหันบอกพนักงานที่เดินมารับออร์เดอร์ "ผมก็เอาข้าวต้มเหมือนน้องครับ" ภูผาหันไปเอ่ยกับพนักงานในร้านเช่นกัน น้องกินอะไรเขาก็กินแบบนั้น ง่ายๆ สบายๆ พอทั้งสองสั่งอาหารเสร็จก็นั่งรอ ระหว่างนั้นมีสายโทรเข้ามาถึงเรื่องที่ภูผาให้ลูกน้องอย่างโจไปจัดการ ได้รับคำตอบกลับมาทำเอาภูผายิ้มหวาน เรียกได้ว่าโคตรโล่งใจ เพราะเป็นเรื่องที่เขาคิดเอาไว้ในหัวว่าหากเขาจะเดินหน้ากับนิชาดาต่อมันคงไม่ผิดอย่างแน่นอน "ขอบใจมากโจ เดี๋ยวสิ้นปีนี้เอาโบนัสไปงามๆ" (คร๊าบบบนาย) และไม่ถึงห้านาทีข้าวต้มร้อนๆ สองถ้วยก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ข้าวต้มเช้านี้ท่าจะอร่อยน่าดู "แป๊บนะคะ พี่ขอถ่ายรูปแป๊บหนึ่งค่ะ" แล้วภูผาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป ไม่ใช่ถ้วยของตัวเองคนเดียวแต่ถ่ายติดกันสองถ้วย แถมติดมือเรียวขาวๆ ของนิชาดาไปด้วย ขนาดมือยังสวยแล้วไอ้นั่นจะขนาดไหนอยากรู้ไวๆ เสียแล้วสิ เสร็จแล้วจึงจัดการส่งลงไปในไลน์กลุ่มที่มีสมาชิกสี่คน อย่าง ไอ้อาจารย์กฤษ ไอ้ผู้ปกครองเคน ไอ้ซันคุณพ่อของน้องมายด์ และสุดท้าย ไอ้พี่ภูผาสุดหล่อของน้องนิดขา อย่างเขาโดยไม่ใส่คำอธิบาย เขาเห็นแล้วว่าข้อความมันขึ้นทันทีว่าอ่านแล้ว แต่เขารีบกดปิดหน้าจอแล้วหันมาสนใจถ้วยข้าวต้มต่อ ปล่อยให้พวกมันตีกันในกลุ่มไลน์ไปก่อน ว่างเมื่อไหร่เดี๋ยวเข้ามาดู นิชาดาคิดตามการกระทำของอีกฝ่ายอย่างรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ปกติจะมีแต่ผู้หญิงที่ชอบถ่ายรูปตอนกินข้าว แต่เห็นที่เขาทำแสดงว่าเขาคงชอบเล่นโซเชียลเป็นประจำ ซึ่งต่างจากเธอที่นานๆ ทีถึงจะไถหน้าจอ ทั้งสองคนกินไปสนทนากันไปด้วย นิชาดาพูดน้อยมากจึงทำให้ภูผารู้สึกว่าตัวเองพูดมากอยู่คนเดียว เขาว่ากันว่าผู้หญิงพูดน้อยนี่แหละเวลาอยู่บนเตียงเสียงหวานนัก เพราะพวกเธอมักถนอมน้ำเสียงหวานๆ เอาไว้ใช้ตอนคราง ทฤษฎีอะไร? ทฤษฎีส่วนตัวของเขาเนี่ย! "พี่จะให้น้องนิดไปเป็นผู้ช่วยของคุณวรรณนานะคะ ก็ตามที่เลขาพี่บอกนั่นแหละค่ะ" ภูผาบอกอย่างอารมณ์ดี โคตร..อารมณ์ดีเลย ผู้ช่วยคุณวรรณนาก็คือผู้ช่วยเขา หรือจะเขี่ยคุณวรรณนาไปที่อื่นแล้วให้นิชาดาอยู่คนเดียวแบบนี้ทางสะดวกแน่ แต่ถ้าทำแบบนั้นน้องนิดของเขาต้องทำงานหนักจนหัวฟูอยู่คนเดียว บางครั้งอาจจะไม่มีเวลาเข้ามาเจอเขาบ่อยๆ ก็ได้ ไม่เอาๆ เดี๋ยวเขาไปหาทางจัดการคุณเลขาอีกที "แล้วพี่ภูไม่กลัวนิดทำงานพี่เสียหายเหรอคะ" ยอมรับว่าที่เขาเอ่ยเมื่อวานเธอยังเก็บเอามาคิด แล้วยิ่งเธอได้กลับไปอีกครั้งในตำแหน่งที่เขาบอกเอาไว้แล้วว่าเธอไม่มีคุณสมบัติมากพอ "พี่แค่แกล้งแหย่น้องนิดเล่นเองค่ะ อีกอย่างพี่มารับน้องนิดทุกวันไม่มีทางไปสายหรอก ยกเว้นพี่จะพาน้องนิดแวะที่ไหนสักที่ก่อน" "ที่ไหนคะ" ภูผาปรายตาขึ้นมอง อ้าว..ประโยคสุดท้ายเขาเผลอเอ่ยออกไปเหรอวะเนี่ย แต่ลองโยนหินถามทางดูก่อนก็แล้วกันในเมื่อสองข้างทางมันอำนวยความสะดวกขนาดนี้ "โรงแรมมั้งคะ" ภูผาเอ่ยติดตลกก่อนตักข้าวต้มขึ้นทาน พอมีความเงียบเกิดขึ้นเขาจึงได้รู้ว่าตัวเองหลุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป "พี่ล้อเล่นน่า ปกติพี่ชอบคุยเล่นกับพนักงานแบบนี้แหละ เดี๋ยวน้องนิดก็ชินค่ะ" นิชาดาพยักหน้าบางๆ แต่ถามว่าเธอเบาใจลงไหม ไม่เลย ก็บอกแล้วเห็นหน้าเขามันมีแต่คำว่าหื่นกามลอยมา เธอจะเอาตัวรอดได้สักกี่วันกันนะน่ากลัวจริงๆ "ตามจริง..นิดก็ไปทันนะคะถ้าวันนั้นไม่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน นิดเสียเวลาตรงที่รอวินมอเตอร์ไซค์คันใหม่น่ะค่ะ แต่มันคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นทุกวัน" นิชาดารีบอธิบายเพราะไม่อยากเป็นภาระของใคร "งั้นกันไว้ดีกว่าแก้ดีไหมคะ นั่งรถของพี่สบายๆ ไม่ต้องรีบต้องร้อน เวลากลับพี่ก็จะไปส่งเราก่อน" "ตอนกลับต้องด้วยเหรอคะ" "ต้องสิคะ พี่ไปรับแล้วพี่ก็จะไปส่ง เพราะคุณปู่บอกให้พี่ดูแลเราเหมือนคนในครอบครัว ดูแลให้ดีเหมือนน้องเหมือนนุ่ง" แต่ถ้าน้องไม่นุ่งจะดูแลให้ดีกว่านี้อีก เขาอยากดูแลนิชาดาจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น อยากดูแลในฐานะอื่นที่ไม่ใช่พี่น้อง แล้วยิ่งมาได้ยินว่าเธออยู่ตัวคนเดียวไม่เหลือใครด้วย เผื่อวันไหนนิชาดาใจดีให้เขาไปนอนเป็นเพื่อนแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะยอมหรือเปล่านี่สิ ภูผาอมยิ้ม แต่พอเงยหน้าขึ้นกลับเห็นนิชาดามองเขาอยู่ก่อนแล้วจึงค่อยๆ หุบยิ้มลง ทั้งคู่นั่งทานกันไปอีกสักพักสนทนากันไปด้วย ทำให้นิชาดาเริ่มผ่อนคลายความกังวลลงไปได้บ้าง แต่น้อยจริงๆ แต่ที่เห็นก็คือเขาเป็นคนชอบถึงเนื้อถึงตัวจนเธอขี้เกียจห้าม แตะนั่นแตะนี่จนปล่อยวาง เขาน่าจะเป็นคนแบบนี้จริงๆ กระทั่งเราทั้งคู่มาถึงที่บริษัทเมื่อทานข้าวอิ่มกันแล้ว แต่ดีหน่อยที่เขาไม่เดินโอบเธอลงมาจากรถอีกไม่งั้นเธอคงทำตัวไม่ถูกแน่ เธอเดินตามเขาเข้ามาด้านในโดยเว้นระยะห่างเล็กน้อย เห็นผู้คนทำความเคารพเขาระหว่างที่เขาเดินผ่านด้วย ส่วนเธอก็เดินก้มๆ เงยๆ กระทั่งได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองมา "นิด!" หญิงสาวหันขวับไปมองตามเสียงเรียกทันที คิดว่าเป็นคนที่มาด้วยแต่กลับไม่ใช่ "อาร์ต!" นิชาดาเบิกตาโพลง ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าจะเจอเพื่อนในห้องเรียนเดียวกันสมัยเรียนที่กรุงเทพ "อาร์ตมาทำอะไรที่นี่" นิชาดาหยุดคุยทันที แน่นอนเจอเพื่อนสนิทแบบนี้มันก็ดีใจใช่ไหมล่ะ "อาร์ตทำงานที่นี่" "จริงเหรอ!" นิชาดาเบิกตาโพลงด้วยความดีใจอีกรอบ "ใช่ แล้วนิดล่ะ อย่าบอกนะ" "ใช่ นิดก็ทำงานที่นี่" นิชาดาพยักหน้ารัวๆ ทันทีราวกับคนทั้งสองรู้ใจกัน "ว้าว..แบบนี้พรหมลิขิตเสียแล้วสิ" นิชาดาดี๊ด๊า เธอเองก็ดีใจเหมือนกัน จึงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู อีกสิบห้านาทีจะถึงเวลาเริ่มงานจึงพอมีเวลาอยู่บ้าง "งั้นเราไปคุยกันตรงนู้นดีมั้ยอาร์ต" นิชาดาชี้ไปยังพื้นที่ว่างด้านข้าง เพราะที่ตรงนี้ขวางทางคนเดิน แล้วคนทั้งคู่จึงเดินไปด้วยกัน ขณะนั้นก็สนทนากันไปด้วย แต่นิชาดาคงลืมไป ลืมทั้งที่ไม่น่าลืม! ว่าไอ้คนที่มันตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปให้ทันก่อนรถติด ไหนจะพาเธอไปกินข้าวอีกเพราะกลัวอีกฝ่ายหิว มันยืนกัดฟันกรอดมองเธออยู่ที่หน้าลิฟต์ยังไม่เข้าไป เหอะ! ภูผาทำเสียงในลำคอออกมา ไม่รู้ว่าเขาควรรู้สึกแบบไหน แต่ที่แน่ๆ เขาไม่พอใจมากๆ เดินเข้าไปในลิฟต์อย่างหัวเสีย จิ้มนิ้วแรงๆ ไปที่ตัวเลขชั้นทำงานของตัวเองก่อนยืนกอดอกเอาสะโพกพักไปกับผนังลิฟต์ เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มคิดอะไรไปพลางๆ แล้วมันก็ไม่พ้นเรื่องที่นิชาดาทิ้งเขาไปหาไอ้นั่น! วรรณนายิ้มหวานให้ท่านรองประธานเมื่อมองเห็นอีกฝ่ายเดินมาแต่ไกล ทว่าเลขาสาวใหญ่ต้องค่อยๆ หุบยิ้มลงเมื่อเจอใบหน้าบึ้งตึงของผู้เป็นหัวหน้า อะไรอีกวะเนี่ย คุณวรรณนาคงไม่โดนหางเลขตั้งแต่เช้าหรอกนะ! พูดยังไม่ทันขาดคำกลับมีสายโทรเข้ามา แล้วก็เป็นเบอร์โต๊ะของท่านรองประธานอีกด้วย "ค่ะท่านรองขาาา..." เอ่ยรับเสียงหวานไปก่อนเผื่อท่านได้ฟังแล้วจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง..มั้ยนะ (โทรไปหานิชาดาแล้วบอกให้รีบขึ้นมาทำงานได้แล้ว) "คะ" วรรณนาทำหน้างงด้วยความแปลกใจ "ท่านรองหมายถึง.." (จะเอาไหมผู้ช่วย) "เอาค่ะๆ" วรรณนารีบตอบรับทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น ใจเต้นแรงแล้วคิดไปว่านิชาดาที่ท่านรองพูดถึงคงหมายถึงน้องนิด แต่อย่าบอกนะว่า.. "ท่านรองเรียกน้องนิดให้กลับมาทำงานเหรอคะ!" (อืม!) วรรณนาสะดุ้งเล็กน้อย อืมสั้นจัง ปกติครับอย่างนั้น ครับผมคุณวรรณนาอย่างนี้ ถึงเจ้านายเธอจะค่อนข้างจุกจิก ทว่าน้ำเสียงหว๊านหวาน สงสัยวันนี้จะลืมเติมน้ำตาล (โทรเสร็จเอางานเข้ามาให้ผมด้วย ด่วน!) ตู้ดๆ วรรณนาไม่รู้จะงงอะไรก่อนดี แต่เอาเถอะ ให้เธอโทรไปตามน้องนิดมาทำงาน อ๊าย!!! คุณวรรณนาของท่านรองจะมีผู้ช่วยแล้วโว้ย! ว่าแล้วก็ต่อสายหาเบอร์มือถือที่เธอเคยโทรติดต่อหาน้องเพื่อเรียกให้มาทำงาน ไม่นานก็ได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยตอบกลับมา (สวัสดีค่ะ) "น้องนิด พี่นาเองค่ะ" (คะ เอ่อ..พี่นาเหรอคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ) นิชาดาถามด้วยความแปลกใจ "ท่านรองให้โทรตามน้องนิดขึ้นมาทำงานค่ะ" (อะ..อ๋อ) นิชาดามองนาฬิกาบนข้อมือเหลืออีกห้านาที แต่ก็รีบตอบรับกลับไป (ได้ค่ะพี่นา เดี๋ยวนิดรีบขึ้นไปค่ะ) "หมายความว่าน้องนิดอยู่ที่บริษัทแล้วใช่ไหมคะ" วรรณนาเงี่ยหูฟังไม่คิดว่ามันจะปุบปับขนาดนี้ (ใช่ค่ะ) "อ้อ..โอเคค่ะ ขึ้นมาหาท่านรองนะคะ" โล่งใจแล้วโว้ย! (ค่ะ) พอวางสายจากพี่นาเสร็จเธอจึงบอกลาเพื่อน จับใจความได้ว่าอาร์ตเพิ่งเข้ามาทำงาน เธอนึกว่าเขาจะปักหลักที่กรุงเทพเสียแล้ว เราทั้งสองคนเป็นคนเชียงใหม่กันทั้งคู่ ตามจริงเธอกับเขาเราเคยคบกันมาก่อน ก่อนที่จะกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ด้วยอะไรหลายๆ อย่างในตอนนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของเราไม่คืบหน้า เพราะเรียนหนักกันทั้งคู่ ยิ่งมาห่างกันตอนฝึกงานเพราะอาร์ตเลือกฝึกที่กรุงเทพ และเธอกลับมาฝึกงานที่เชียงใหม่ ระยะเวลาสี่เดือนที่ไม่ค่อยได้คุยกัน และด้วยความสัมพันธ์ที่ยังพัฒนาไปไม่มากเท่าไหร่ทำให้เราทั้งคู่ตกลงกันว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนกันก่อนดีกว่า หากว่าในอนาคตเราทั้งสองคนยังไม่มีใครเราจะกลับมาศึกษาดูใจกันอีกครั้ง ยอมรับว่าได้กลับมาเจอกันแล้วมันดีใจมากๆ ไม่ใช่ว่าเธอรอคอยเขาขนาดนั้น แต่เขาคือผู้ชายคนหนึ่งที่ดีสุดๆ ในชีวิตของเธอ อาร์ตคือผู้ชายในอุดมคติของเธอ สุภาพ เรียบร้อย และเขาห่วงใยเธอเสมอ "งั้นเที่ยงนี้เราเจอกันดีมั้ย" อาร์ตเสนอ "ได้ๆ อาร์ตยังใช้เบอร์เดิมหรือเปล่า" เพราะเธอไม่เคยลบเบอร์ของเขาออกจากเครื่องเลย "เบอร์เดิม" อาร์ตตอบยิ้มๆ "โอเค งั้นเดี๋ยวนิดโทรหานะ แต่ตอนนี้นิดต้องไปทำงานก่อนหัวหน้าเรียกแล้ว" "เอ่อนิด" อาร์ตรีบคว้าแขนคนที่จะรีบเดินไปเอาไว้ก่อนเมื่อยังไม่ได้ถามข้อมูลเกี่ยวกับนิดเพิ่มเติม "ว่าไงอาร์ต" "นิดทำงานตำแหน่งอะไรนะ" เพราะนิชาดาเดินมากับรองประธานบริษัทเลยไม่ค่อยแน่ใจ "นิดเป็นผู้ช่วยเลขาท่านรองประธานน่ะ" "ว้าว เก่งจริง งั้นเดี๋ยวเจอกันนะ ไว้ค่อยคุยกัน" "ได้ๆ นิดไปนะ" "โอเค" แล้วอาร์ตก็ยืนมองตามหลังอีกฝ่ายจนนิชาดาหายเข้าไปในลิฟต์ เขาไม่คิดว่าจะเจอกับหญิงสาวอีกครั้ง ช่วงนั้นหลายๆ อย่างในชีวิตเขาไม่ลงตัว แต่ตอนนี้เขาอยากมีครอบครัวแล้ว อีกอย่างเราเคยคบกันมาก่อนไม่น่ายากหากเขาจะสานต่อกับเธออีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้นิชาดารู้สึกน้อยใจว่าเขาไม่มีเวลาให้เลย เพราะเขาอยู่ใกล้เธอแค่นี้เอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD