มิตรภาพยามคับขันมักไม่จีรัง

1119 Words
ก่อนจะเปลี่ยนใจ บ่นพึมพำ “องครักษ์ไปไหนหมด ถ้าเป็นคนร้ายเรามิตายไปแล้วหรือ” ระรินอกสั่นขวัญหายก่อนจะเดินแบบเร็วรี่ไปยังอ่างอาบน้ำ ระฆังช่วยชีวิตไว้ทันพอดี เป็ง เป็ง “พระองค์ เกิดเหตุอะไรหรือ กระหม่อมได้ยินเสียงเอะอะ” ฮาฟซา องครักษ์หุ่นล่ำหล่อร้าย เข้ามาขัดจังหวะระรินมองคนนู้นทีคนนี้ที “เจ้าระวิน ลุงบุญสมตามหาเจ้าอยู่” เสียงทุ้มนุ่มหู พูดพลางพยักหน้าไล่ส่ง ระรินรีบเดินตัวลีบออกไปทันที นึกขอบคุณองครักษ์หนุ่มหล่อ “อย่าเพิ่งให้มันไปให้มันเตรียมน้ำให้เราก่อน” เสียงเกรี้ยวกราด “ไม่เป็นไรกระหม่อม ประเดี๋ยวกระหม่อมจะเตรียมถวายเอง มันได้เวลารับประทานอาหารเย็นแล้ว ประเดี๋ยวจะไม่ทันเวลาพาลจะอด” องครักษ์หนุ่มออกตัวแทน ด้วยทราบอารมณ์ของผู้เป็นนายได้ดี ระรินเดินผ่านประตูออกมาช้าช้า ด้วยกลัวว่าคำสั่งจะเปลี่ยนแปลง แต่เงียบไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดใดอ๋อหรือว่าจะเป็นคู่จิ้นกันหนอ เหมือนกับจะเกรงใจท่านองครักษ์ใหญ่ชอบกล “เกือบซวยอีกแล้วซี่เจ้าระวิน ไม่ดูตาม้าตาเรือ คราวหลังถ้าจะเข้าไปต้องส่งเสียงให้องค์ฟีรอสท่านก่อนไม่ใช่แอบเข้าไปอย่างนั้นทรงกริ้วมากรู้ไหม ดีที่ท่านฮาฟซาเข้าไปพอดี” เสียงลุงบุญสมบอกเล่าเรื่องที่เธอควรปฏิบัติ “ไป๊ ไปกินข้าวกัน กินได้ไหมอาหารที่นี่มีแต่อาหารมุสลิมเดี๋ยวอยู่ไปนานๆ ลุงจะพาไปเดินตลาด” เธอซาบซึ้งในความห่วงใยจนเกือบจะร้องไห้ อย่างน้อยคนบ้านเดียวกันก็ไม่ทิ้งกัน “ทำไม องค์ฟีรอสท่านอารมณ์ร้ายจังล่ะลุง” ลุงบุญสมจุ๊ปาก “ห้ามนินทา หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง เป็นบางเรื่องที่ท่าน ขี้โมโห บางเรื่องก็แสนจะดี*___*” ตรงไหนหนอ ระรินคิดในใจ จะมีดีดีบ้างไหม หน้าตาที่แสดงว่าไม่เชื่อของระรินปิดไม่มิด “เดี๋ยวอยู่ไปนานๆ ก็รู้เองแหละว่าองค์ฟีรอสท่านดีที่สุดในวังนี้ไม่เหมือนองค์อื่น พวกเรารักท่านทุกคน” “............” ระรินกินอาหารมุสลิมอย่างเงื่องหงอยอาหารที่มีแต่อาหารเลี่ยนๆ คิดถึงอาหารไทยรสจัดที่บ้านจับใจ หนุ่มอีกคนที่ถูกคัดเลือกให้มาทำงานในวังพร้อมกัน มองดูระรินจากที่ไกลไกลก่อนจะขยับเข้าใกล้ “ระวิน นายเคยเข้าไปในห้องบรรทมขององค์ฟีรอสแล้วใช่ไหม” ระรินพยักหน้าแทนคำตอบ “คือ คือว่าเราอยากขอร้องนาย “ตากลมโตของระรินเบิกกว้าง “เราเห็นนาย กล้าดี คืออีกอย่างเรา.... กลัวองค์ฟีรอส ลุงบุญสมบอกให้มาตกลงกันเอาเอง” ระรินยิ่งสงสัยหนัก “เรื่องอะไร” “คือเรามีหน้าที่.. ถวาย.. ปรนนิบัติ ...แบบ... แบบว่าประมาณว่าทำที่หลับที่นอน เออตรวจตราที่บรรทม ประมาณว่าที่ นอนหมอนมุ้งให้องค์ฟีรอส แต่เราอยากขอเปลี่ยนกับนาย เราจะทำหน้าที่แทนทุกอย่างข้างนอกนี่ยกเว้นในห้องบรรทมจะได้ไหม” จนได้ไหมล่ะระรินคิดในใจ แล้วไอ้ที่ยิ้มร่าดีใจตอนถูกเลือกกับเสียงหัวเราะที่หัวเราะเยาะเธอเมื่อขอสละสิทธิ์ นี่มันใช่คนเดียวกันไหมที่แบบนี้ไอ้คนนั้นไปไหนเสียล่ะ ระรินถอนหายใจยาวเหยียด “เราทำแทนทุกอย่างเลย ทุกอย่างจริงจริงนายทำแค่สองอย่างได้ไหมเพื่อน” โอ้ ระรินกลายไปมีเพื่อนตั้งกะเมื่อไหร่ “หรือจะให้เราแบ่งค่าจ้างส่วนของเราให้นายก็ได้นะ” ไปกันใหญ่เลย ระรินรู้ดีว่ามาอยู่ที่นี่ค่าจ้างสูงสิบ งานสบายที่อยู่ที่กินก็ดี ต่างจากพวกที่อยู่ข้างนอกที่ต้องดิ้นรน แต่เธอก็ไม่อยากได้ของใคร แม้จะคิดว่าจะพยายามเก็บเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะได้กลับบ้านไปเรียนต่อถ้าหากไม่ถูกจับได้เสียก่อน “ไม่เป็นไร เราไปเองก็ได้” ไอ้หนุ่มขี้กลัว เผลอตัวคว้ามือระรินขึ้นมากุมไว้ด้วยความดีใจระรินชักมือออกด้วยความตกใจเหมือนกัน สายตาคมกริบของฮาฟซาจ้องมองแบบจับผิดจากมุมหนึ่ง “ดีใจจริงจริงเลยเพื่อนยาก เริ่มคืนนี้เลยนะเพื่อน” แหวะระรินอยากจะบ้าตาย นี่นายกะจะไม่เข้าไปเจอองค์ฟีรอสเลยหรืออย่างไร เฮ้อ! ยามเย็นที่แสนจะวุ่นวายผ่านไปเสียทีระรินยืนอยู่ที่ระเบียงยาวทอดไปสู่ห้องบรรทม องครักษ์หลายคนประจำตามจุดต่างๆ ระรินมองคนนู้นทีคนนี้ทีพลางทอดสายตาไปสู่ดวงจันทร์ดวงกลมใหญ่ ที่ต่างจากดวงจันทร์ที่เธอเคยเห็นเพราะมีขนาดใหญ่กว่า ความสวยงามก็มากกว่า เสียงฝีเท้าจากด้านหลัง ทำเอาระรินสะดุ้ง “ตกใจ หรือ” ฮาฟซา เดินมาจากทางห้องพักขององครักษ์ที่อยู่ติดกันกับห้องบรรทม ระรินพยักหน้า สายตาคมกริบยังมีแววจับผิด ระรินหลบตาก้มหน้า ฮาฟซายิ่งเขม่นมองอย่างค้นคว้า ด้วยว่ารูปหน้าที่งดงามอย่างหาที่ติไม่ได้ของระริน ความหวานที่ฉาบทาอยู่ไม่อาจปิดบังได้ “มายืนเหม่ออะไรอยู่ที่นี่ ยังไม่พักผ่อนอีกหรือ” เสียงทุ้มนุ่มหูเจือไว้ด้วยความห่วงใยกลายกลาย “มารอถวายการรับใช้ใน ห้องบรรทมขอรับท่านฮาฟซา” แม้จะดัดเสียงให้ห้าวหาญเพียงใด ก็ไม่อาจกลบความหวานของน้ำเสียงได้ ระรินกระแอมเบาเบา “อ้าวหน้าที่ของเจ้ารึ ตามจริงต้องผลัดกันสองคนกับเจ้าประพันธ์ไม่ใช่รึ” ฮาฟซาเหมือนจะรู้รายละเอียดในงานของ เด็กรับใช้เป็นอย่างดี “ประพันธ์บอกว่าลุงบุญสมให้ตกลงกันเอาเองขอรับ” แววตาอ่อนโยนด้วยความเห็นอกเห็นใจ ฉายออกมาเพียงแวบเดียวก็หายไป “เหนื่อยแย่” “ขารับปากว่าจะทำอย่างอื่นแทนขอรับ” ฮาฟซาเลิกคิ้วทำท่าตกใจ ทำให้ใบหน้าคมยิ่งน่ามองยามผ่อนคลาย “เจ้านี่กล้าหาญไม่น้อย ใครใครก็กลัวองค์ฟีรอสส่วนเจ้าช่างกล้า” ทำอย่างไรได้ระรินคิดตกกระไดพลอยโจนแล้วนี่ “องค์ฟีรอส ท่านใจดีจะตายไป คนมาใหม่ใหม่กลัวท่าน ทุกคนแต่อยู่ไป นานนาน เดี๋ยวก็รัก แต่อย่าไปทำให้ท่านโกรธหรือขัดใจ ถ้ามีเรื่องให้ช่วย บอกเราได้ทุกเวลา ^_____^” รอยยิ้มหวานถ้าเป็นเวลาอื่นระรินอาจใจละลายไปแล้วแต่ขณะนี้ไม่มีแก่ใจจริงจริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD