1 คนคุ้ยเคย

1142 Words
เสียงตะโกนโหวกเหวกของพ่อค้าแม่ค้าดังขึ้นเป็นระยะ ร้องเรียกลูกค้าที่เดินสัญจรผ่านไปมา ทำให้บรรยากาศยามเย็นของตลาดคึกคักคราคร่ำไปด้วยผู้คน ตลอดแนวริมฟุตบาท แต่มีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนนิ่งไม่สนใจผู้คนที่เดินผ่านไปมา มีเพียงสายตากวาดมองออกไปทั่วแนวถนน จากจุดที่เขายืนอยู่ใกล้บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ มีคนเข้าออกตลอดเวลา แต่เขาไม่สนใจยังคงยืนนิ่ง และมองไปรอบบริเวณ สลับกับก้มหน้าลงมองหน้าจอโทรศัพท์ในมือ ขณะกำลังก้มหน้าให้ความสนใจอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ปรากฏว่ามีบางอย่างพุ่งเข้ามากระแทกด้านหลัง ด้วยสัญชาตญาณเขาจึงเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็ยื่นมือออกไปโดยอัตโนมัติคว้าเอาร่างที่ทำท่าจะล้มลงไป ฉุดดึงขึ้นมาด้วยเรี่ยวแรงปกติของเขา แต่ไม่ปกติสำหรับคนอื่น เพราะร่างนั้นถึงกับกระแทกเข้ามาที่แผงอกหนาอย่างจัง “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยคำขอโทษออกไปทันที เมื่อเห็นชัดว่าร่างนั้นเป็นผู้หญิง หญิงสาวตกใจจนหน้าซีด หลับตาปี๋ มือคว้ากอดเอวเขาไว้แน่น กลัวว่าตัวเองจะล้มลงไปขายหน้าผู้คนแถวนั้น แต่พอรู้ว่าตัวเองปลอดภัยไม่บาดเจ็บหรือล้มลงไปกระแทกพื้นอย่างที่กลัว ก็ลืมตาขึ้น แต่สายตากลับมองเห็นเพียงเสื้อยืดสีเข้ม แถมยังเผลอสูดเอากลิ่นกายของชายหนุ่มพลเมืองดีเข้าไปเต็มปอด รู้ตัวอีกทีก็รีบดีดตัวออกห่าง “อุ๊ย!! ขอโทษค่ะ” สองขารีบยืนตั้งหลัก พอทรงตัวได้แล้ว หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานหยดไปให้คนที่ช่วยเหลือเธอไว้ ไม่ให้ล้มลงไปเจ็บตัว แต่คำขอบคุณก็ต้องค้างอยู่แค่ริมฝีปาก “ขอบ...” กรรณิการ์อ้าปากค้าง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อมองเห็นใบหน้าชัดๆ ของผู้ชายที่ยืนห่างจากเธอแค่เพียงหนึ่งช่วงแขน ใบหน้านี้ สายตาแบบนี้ แม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหนเธอก็จำได้แม่น และไม่เคยลืม ผู้ชายหน้าตาหล่อ ขาว สายตาคมดุ จริงจัง ทรงผมเนี้ยบ เสื้อผ้าเรียบร้อย สายตาของเธอมองสำรวจเขาจนทั่วร่าง ใช่แล้ว ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากพี่คนนั้น คนที่เธอหาญกล้าเข้าไปพิสูจน์ตัวตน จนโดนแทะเล็มไปทั้งตัว บางทีอาจจะลามไปถึงหัวใจด้วย ถึงทำให้จดจำได้อย่างแม่นยำมาจนถึงทุกวันนี้ โชคดีครั้งนั้นเขามีความเป็นลูกผู้ชายพอไม่รังแกเธอ ความดีส่วนนี้จึงทำให้กรรณิการ์จดจำฝังใจ หลังจากผ่านค่ำคืนนั้นมา เธอพยายามมองหาเขาทั่วไร่ส้มภูลม แต่ไม่เคยเจอ เขาหายไปไม่มีใครพบเห็น ไร้ร่องรอย ราวกับ ไม่เคยมีตัวตนอยู่จริง ผ่านมานานนับปี จู่ ๆ ก็บังเอิญมาพบกัน จะไม่ให้เธอรู้สึกช็อคได้อย่างไร หัวใจหญิงสาวเต้นแรงราวกับจะกระดอนออกมานอกอก มือเย็นเฉียบ ใบหน้าซีดจากนั้นก็ขึ้นสีแดงระเรื่อสลับไปมา ราวกับกำลังโดยไข้หนักรุมเร้า “เจ็บหรือเปล่า” ราเชนเอ่ยถาม เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่จ้องหน้าเขานิ่งและไม่พูดอะไรออกมา ราเชนลอบพิจารณาหญิงสาวตรงหน้า ดวงตากลมโต ใบหน้าเรียว ผิวขาว รูปร่างสูงเพรียว เมื่อยืนใกล้กันความสูงเธอแค่ไหล่เขาเท่านั้น แต่สิ่งที่ดึงดูดให้ราเชนสนใจกลับเป็นรอยยิ้มและกลิ่นกายสาวลอยมาแตะจมูก กลิ่นหอมอ่อน ๆ แบบนี้เขาเคยนอนสูดดมมาทั้งคืน คุ้นชิน และจำมันได้ดี ภาพความหลังระหว่างเธอกับเขาเมื่อครั้งอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัวของราเชน ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมา ส่งให้ใบหน้าหล่อขาวนั้นกลับยิ่งดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้น จนกรรณิการ์เผลอจ้องมองอยู่นาน จนทำตัวไม่ถูก “มะ..ไม่เจ็บค่ะ” กรรณิการ์รีบก้มลงไปเก็บของที่ร่วงหล่นลงเต็มพื้น พร้อมกับชายหนุ่มเอื้อมมือลงไปช่วยหยิบ ทำให้มือของทั้งสองคนสัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าของหญิงสาว เมื่อยามเผลอจ้องประสานนิ่งกับดวงตาคมคู่นั้น แขนขาเธออ่อนจนแทบจะนั่งแหมะลงไปกับพื้น หากมือใหญ่ไม่คว้าแขนเธอเอาไว้ “ไหนบอกว่าไม่เจ็บ ทำไมจะล้ม” สายตาเขากวาดมองทั่วร่างกายสาว แสดงความเป็นห่วง แต่อีกคนกลับยิ่งสะบัดร้อนสะบัดหนาว “ก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีแผล น้องไม่สบายหรือเปล่า” “ปะ...เปล่าค่ะ สงสัยอากาศมันร้อนรู้สึกหน้ามืดนิดหน่อย” เธอรีบเอ่ยออกมา เพื่อให้เขาหมดความสนใจกับอาการทางกายของเธอ “อืม ... แล้วจะไปไหนทำไมรีบร้อนแบบนี้” ชายหนุ่มเอ่ยถามออกมา “ไม่ได้รีบร้อนค่ะ พอดี... มัวแต่ดูว่าได้ของครบไหม ไม่ทันมองทาง ก็... ก็เลยพลาด” หญิงสาวกล่าวอ้อมแอ้มออกมาอย่างคนรู้ตัวว่าเดินไม่ระวังจริง “คราวหน้าก็ระวังหน่อย” “ขอบคุณค่ะ ถ้างั้นขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวทำท่าจะผละจากไปทันที “เดี๋ยว!!” อีกฝ่ายจับแขนไว้ทัน ทำให้หญิงสาวที่พยายามก้มหลบหน้าหลบตา ถึงกลับเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง “มีอะไรคะ?” “จะไปส่ง พักที่ไหน” “ห๊า!!” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ อีกฝ่ายไม่สนใจน้ำเสียงที่ร้องออกมาด้วยความตกใจของหญิงสาวแม้แต่น้อย กลับยื่นหน้าลงมาใกล้แล้วเอ่ยปากถามช้าๆ ชัดๆ อีกครั้ง “พักที่ไหน?” “พักคอนโด ไม่ไกลค่ะ .. หนู .. เอ๊ย..พลอยนั่งรถสองแถวแป๊บเดียวไม่ถึงห้านาทีก็ถึงหน้าคอนโด ไม่รบกวนพี่ดีกว่า”หญิงสาวกล่าวปฏิเสธอออกมาอย่างเร็ว เธอกับเขาบังเอิญกลับมาเจอกันอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจำเธอได้ไหม ทำไมไม่เห็นถามไถ่หรือทักทายให้ชื่นใจบ้าง แต่จะให้เอ่ยปากถามก่อนก็กลัวหน้าแตก หากอีกฝ่ายบอกว่าจำเธอไม่ได้ สู้ไม่ถามออกไปดีกว่า แต่พอเขาบอกจะไปส่งทำไมเธอต้องลนลานขนาดนี้ ชายหนุ่มไม่สนใจ ยื่นมือออกไปรับของในมือเธอมาถือไว้เอง และกุมมือเล็กไว้ไม่ยอมปล่อย กระตุกเตือนเบา ๆ ให้กรรณิการ์เดินตามเขา ราเชนพาหญิงสาวเดินหลบหลีกผู้คนที่เดินสวนไปมา บางครั้งช้าบางครั้งเร็วจนเธอต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งตาม 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD