สองวันต่อมา
@ผับ CK
หญิงสาวหน้าตาเรียวสวยสดใสปล่อยผมลอนยาวสีควันบุหรี่ถึงกลางหลัง สวมใส่เสื้อสายเดี่ยวเอวลอยสีดำ เผยผิวขาวเรียบเนียนน่าสัมผัส และ หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินขนาด แทบล้นทะลักออกมานอกร่มผ้า พร้อมทั้งกระโปรงพลีทสั้นสีดำโชว์เรียวขาเล็กอย่างเซ็กซี่ ผสมผสานกับความน่ารักตามสไตล์สาวไซซ์มินิ เดินบนรองเท้าส้นสูงห้านิ้วเข้ามาในผับท่ามกลางเสียงเพลงที่กระหึ่ม จนหัวใจดวงน้อยเต้นตูมตามไปตามจังหวะของเสียงเพลง
“ช้าสุดไรสุดนะคะแม่คนสวย”
มิลนิกส์ยิ้มเยาะมุมปากพลางไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระกับประโยคกระแนะกระแหนแกมประชดของเพื่อนชายคนสนิทที่จิตใจเป็นหญิง เธอวางกระเป๋าสะพายข้างบนโต๊ะกระจก หย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ข้างกับเพื่อนสาว
“สวัสดีครับพี่มิล”
“ไหนว่าไม่ว่างไงพาร์ท?” พยักหน้ารับน้องรหัสผู้มีใบหน้าหล่อคมเข้มเป็นถึงเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์แล้วกล่าวถาม พลางยื่นมือรับแก้วน้ำสีอำพันจากเพื่อนสาวคนสนิท
“เพื่อนมันยกเลิกงานกลุ่มน่ะครับ”
“อ๋อ” มือบางแกว่งแก้วน้ำสีอำพันในมือเบา ๆ ก่อนยกขึ้นจิบลิ้มลองรสชาติ
“พาร์ทถ้าวันนี้พี่เมาขับรถไม่ไหวไปส่งพี่ที่ห้องด้วยนะ” บิว หรือ บิวตี้เพื่อนชายใจเป็นหญิง กล่าวด้วยท่าทางมีจริตพลางขยิบตาพร้อมส่งจูบให้น้องรหัสของเพื่อนสาวอย่างยั่วยวนขำ ๆ
“ขับไม่ไหวก็คลานไปสิยะไอ้บิว”
“เดี๋ยวแม่ตบปากให้อีสา ไอ้บ้านมึงน่ะสิ! กูออกจะสวยใสขนาดนี้” บิวตี้แหวใส่เพื่อนสาว ก่อนทำท่าสะบัดบ๊อบประกอบประโยคสุดท้าย สร้างรอยยิ้มขบขันให้ทั้ง มิลนิกส์ สาวิตรี และ พาร์ทหนุ่มหล่อหนึ่งเดียวในโต๊ะ
“แหวะ! หลงตัวเอง” สาวิตรีว่าพลางเบ้ปากหมั่นไส้อย่างทีเล่นทีจริง
“ไอ้ยูกับพี่สรันไปไหน?”
“จีบสาวอยู่โต๊ะนู้นค่ะ” สาวิตรีชี้นิ้วให้มิลนิกส์มองตามไปยังกลุ่มสาวสวยที่นั่งอยู่โต๊ะไม่ใกล้ไม่ไกลจากโต๊ะของพวกเธอ
“แล้วพาร์ทไม่ไปกับสองคนนั่นเหรอ”
“ไม่อะครับ ผมมีแค่พี่มิลในสายตาคนเดียวก็พอแล้วครับ” พาร์ทมีสีหน้ายิ้มแย้มจับจ้องมองมิลนิกส์แววตาหวานฉ่ำ คำพูดกระเซ้าเย้าแหย่ที่ดูขี้เล่นแต่กลับแฝงได้ด้วยความจริงใจ
“นี่น้องพาร์ทจ้ะ ไม่พูดจาเลี่ยน ๆ จีบอีมิลสักวันจะได้ไหมจ๊ะ” บิวตี้เบ้ปากมองบนแล้วพูดเน้นเสียงหนัก ๆ อย่างหมั่นไส้
“อิจฉา?” สาวิตรีเลิกคิ้วถามบิวตี้อย่างยิ้ม ๆ
“ไม่ให้อิจฉาได้ยังไงล่ะ ตั้งแต่อีมิลเลิกกับไอ้พี่ซันชั่วนั่น น้องพาร์ทก็จีบมันทุกวัน กูเจ็บที่ใจ” บิวตี้ทำสีหน้าเจ็บปวด
“เสียใจด้วยนะบิวตี้เพื่อนรักผู้ชายเขาไม่เลือกแก” มิลนิกส์เห็นท่าทางของบิวตี้แล้วหมั่นไส้จึงพูดขึ้นอย่างต้องการกลั่นแกล้ง
“เยาะเย้ยกูนะอีมิล” บิวตี้ชี้หน้ามิลนิกส์อย่างเอาเรื่อง แต่มิลนิกส์กลับไหวไหล่ให้อย่างไม่เกรงกลัวพร้อมทั้งยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มเป็นแก้วที่สามอย่างสบายใจ
“ตายยากจริง ๆ” สาวิตรีเอ่ยขึ้น
“อะไรอีสา?” บิวตี้ถาม ก่อนที่สาวิตรีจะเลิกหน้าขึ้นให้เพื่อนมองไปตามสายตาเพื่อบอกคำตอบ
“พี่ซัน” มิลนิกส์ทำสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อเห็นแฟนเก่าที่เคยเลิกรากันไปสามเดือนก่อนเพราะความเจ้าชู้เอาไม่เลือก กำลังเดินถือแก้วเหล้าตรงมาที่โต๊ะเธอ
“เลิกแล้วยังตามมาวุ่นวายกับแกไม่เลิกอีก” บิวตี้พูดอย่างรู้สึกเหม็นขี้หน้าแฟนเก่าของเพื่อนสาว
“แต่งตัวโป้มากเลยนะมิล” ซันเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ามิลนิกส์
“ก็โสด จะแต่งตัวยังไงก็ได้ ไม่ได้หนักหัวใคร” มิลนิกส์เลิกคิ้วขึ้นสูงพูดตอกกลับแฟนเก่าไปด้วยสีหน้าเย้ยหยัน แล้วเอียงตัวควงแขนพาร์ทพลางซบไหล่แกร่งอย่างต้องการทำประชดแฟนเก่า
“ใช่ไหมพาร์ท?”
“ครับพี่มิล” พาร์ทเล่นไปตามน้ำของพี่รหัส ปราดตายิ้มเยาะใส่ซันพลางยักคิ้วอย่างเยาะเย้ย ทำเอาซันเลือดขึ้นหน้ากัดฟันแน่นจนเห็นเป็นสันกรามเด่นชัดทันทีอย่างหึงหวงแฟนเก่า
“ไม่คิดเลยนะ จะเจอมึงที่นี่ไอ้ซัน” ขณะเดียวกันสรันพี่รหัสของมิลนิกส์เดินเข้ามาพร้อมกับยู
“เมียใหม่รู้หรือเปล่าวะ ผัวมายุ่งกับเมียเก่าอะ”
“มึงไม่ต้องเสือกไอ้ยู!” ซันชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง
“พี่นั่นแหละไม่ต้องเสือกเข้ามาคุยกับมิล เลิกแล้วก็เลิกดิ รำคาญ!” มิลนิกส์ดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาประจันหน้ากับแฟนเก่า
“พี่ขอโอกาสอีกครั้งได้ไหมมิล พี่สัญญา....”
“เก็บคำสัญญาไว้พูดกับตัวเองเถอะพี่ซัน พูดให้ควายฟังไม่รู้ควายมันจะเชื่อคำพูดพี่หรือเปล่า”
“มิล~” ซันขานเรียกชื่อแฟนเก่าเสียงแผ่วเบาอย่างหมดสิ้นความหวังที่จะได้เธอกลับคืนมา
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ฉันไปด้วย” สาวิตรีลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตามมิลนิกส์ไปทางห้องน้ำ โดยมีสายตาของซันมองตามหลังมิลนิกส์ไปอย่างรู้สึกเสียหน้าอยู่ไม่น้อย
“...”
“นายดูสนใจเด็กคนนั้นเป็นพิเศษนะครับ” เทวาถามด้วยความสงสัย เมื่อผู้เป็นนายเอาแต่ยืนมองหญิงสาวร่างเล็กสุดกร่างที่เคยมีเรื่องกันเมื่อสองวันก่อนอยู่นาน ทั้งที่มีนัดประชุมสำคัญกับเพื่อนฝูงที่โกดังเก็บอาวุธ
“ลูกสาวมาเฟียใหญ่ หึ ผู้ชายเยอะซะด้วย” ภาคินยกยิ้มมุมปากราวกับคิดเรื่องตลกบางอย่างอยู่ในหัว โดยไม่แม้จะสนใจคำถามของลูกคนสนิท ก่อนล้วงมือออกจากกระเป๋ากางเกงสีดำสาวเท้าเดินลงบันได จากชั้นทำงานเจ้าของผับลงไปชั้นล่าง
“เหมือนอยู่คนเดียวเลยวะ” เทวาบ่นอุบอิบเดินตามหลังเจ้านายไปด้วยสีหน้าท้อแท้ใจ บ่อยครั้งที่ผู้เป็นนายปล่อยให้เขาพูดคุยอยู่ฝ่ายเดียว
“เป็นทำไมตอนนี้เนี่ย!” มิลนิกส์เดินเบียดเสียดฝ่าฝูงชนออกมาจากโซนห้องน้ำจนกระทั่งถึงตัวผับด้วยท่าทางรีบร้อน เนื่องจากประจำเดือนมากะหันทันทำให้เธอต้องรีบกลับไปจัดการตัวเองให้เร็วที่สุด
ปรึก!
“อ๊ะ!” เปล่งเสียงออกมาเบา ๆ พลางนิ่วหน้าทันทีที่หน้าผากมนชนเข้ากับกลางอกอันแข็งของใครบางคนอย่างจัง
“เซ่อซ่า”
มิลนิกส์แหงนคอมองตามน้ำเสียงทุ้มนิ่ง เจ้าของประโยคตำหนิพลางลูบหน้าผากปอย ๆ
“นาย!” ม่านตาเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึงจะได้เจอเจ้าของร่างสูงคู่กรณีเมื่อสองวันก่อน ซึ่งไอ้คนขี้เก๊กยังหลุบสายตาเย็นชาจ้องมาที่เธอนิ่ง ๆ ราวกับหุ่นโคนนิ่งไร้ชีวิตจิตใจ
“ขอโทษแล้วก็รีบหลีกทางไปซะน้อง” เทวาตะโกนบอกแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกึกก้องทั่วผับ
“ไม่ขอโทษ!เกลียด!” มิลนิกส์ตะเบ็งเสียงดังออกไปตามความรู้สึกตรง ๆ แล้วสาวเท้าหวังเดินเบี่ยงไปอีกทางทว่า…
หมับ!
“อะ…อื้อ~” ต้นแขนถูกกระชากจนเซถลาไปตามแรง ก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปของร่างสูงจะกระแทกลงบนริมฝีปากจิ้มลิ้มในวินาทีต่อมา ทำให้ดวงตาคู่สวยโตยิ่งกว่าไข่ห่าน ลำตัวและท้ายทอยถูกล็อกด้วยท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างอย่างหนาแน่น
?เทวาอ้าปากเบิกตากว้างช็อกกับภาพที่เห็น เจ้านายจูบกับผู้หญิงอย่างอุกอาจท่ามกลางสายตาหลายคู่ของสาธารณชน
ผลัก!
เพียะ!
ใบหน้าหล่อของภาคินหันไปตามแรงตบของมิลนิกส์ทันทีที่ผละริมฝีปากออก ทำให้แก้มสากเจ็บแปลบก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชาหนึบ เพราะฝ่ามืออันหนักของร่างเล็ก
“ทุเรศ!” ใช้หลังมือถูริมฝีปากตัวเองแรง ๆ หวังลบรอยจูบอันน่าเกลียดออก ไม่ใช่ว่าไม่เคยจูบ แต่จูบนี้เธอไม่ได้เต็มใจ
“หึ” ภาคินยิ้มเยาะมุมปากสะใจที่ได้เห็นเด็กอวดดีหน้าเสีย แลบลิ้นสากออกมาเลียริมฝีปากบนอย่างยียวน ล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกงพลางสาวเท้าเดินไปทันทีด้วยท่าทางอารมณ์ดี ทำเอามิลนิกส์ปรี๊ดแตก!
“อี๋! “กำหมัดแน่นมืออีกข้างถูริมฝีปากแรง ๆ อีกครั้งพร้อมส่งเสียงในปาก ท่าทางกระฟัดกระเฟียดด้วยความโมโห เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้นอกเหนือจากหัวร้อนอยู่ฝ่ายเดียว จนลืมความเร่งรีบของตัวเองไปชั่วขณะ ผู้คนละแวกนั้นที่ต่างเห็นเหตุการณ์ต่างซุบซิบนินทากันอย่างต่อเนื่อง
--------------------------
เจอกันก็ปะทะอารมณ์กันเลยเน่อ 55555