อยากมีเมีย

1842 Words
เมื่อยิวพาสองพ่อลูกขึ้นมายังบนเรือน ทั้งสามก็นั่งลงกับพื้นด้วยใจที่ระทึก ซึ่งในช่วงเวลานี้ต้องจัดการทุกอย่าง เขาจึงอึดสู้พูดเพื่อในสิ่งที่เขารับปากไว้แล้วว่าจะทำ ตามที่สองพ่อลูกต้องการในช่วงที่ผ่านมา “ลุง เอ่อ” ยิวอ้ำอึ่ง “ไม่ต้องเรียกลุงเรียกว่าพ่อกับแม่ได้แล้วโสภี เอ็งนี่กะไรไม่รู้ควมเลยรึ” อำมาตย์ใช้สายตาตักเตือนยิว “คือย่างนี้ค่ะพ่อ จอมเนี่ยไปน้องชายของหนู แบบว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คือ น้องหนูอยากเป็นทหาร หนูก็เลยอยากฝากเนื้อฝากตัวให้น้องด้วย” “ว่าไงวิศรุฒ” อำมาตย์วิษณุหันมามองบุตรชายของเขา “หน่วยก้านใช้ได้ เหมาะสำหรับเป็นทหาร ว่าแต่เอ็งมีฝีมือการต่อสู้อะไรบ้าง” “ข้า ต่อยมวยได้ ฟันดาบ ยิงธนู ขี่ม้า” จอมเอ่ยขึ้น “ลูกของข้าทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามารับใช้บ้านเมืองขอรับ” หัวหน้านำขบวนเอ่ยขึ้น “ดี ดีมาก” อำมาตย์วิษณุพูดเสียงหนักแน่น “ถ้าอย่างนั้นวันนี้เอ็งพร้อมไหม ข้าจะพาเอ็งเข้าไปในวังด้วย” “พร้อมขอรับ” จอมรับปากทันที “ดี มันต้องให้ได้อย่างนี้ถึงจะเป็นชายชาติทหาร” อำมาตย์วิษณุรู้สึกถูกชะตากับจอมอย่างมาก เช่นเดียวกับแม่ทัพวิศรุมก็พึงพอใจในตัวของจอม หลังจากสอบถามเรื่องราวต่างๆ จบสิ้น แม่ทัพวิศรุฒและอำมาตย์วิษณุก็พาจอมเข้าไปในวัง ส่วนพ่อของจอมก็ได้กลับไปยังที่พักของตัวเองด้วยใจที่สุขยิ่ง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นยิวก็ต้องอยู่กับแม่แม้นแม่ของวิศรุฒเพียงลำพังในเรือนหลังใหญ่โต ยิวนั่งอยู่เงียบๆ คนเดียวจนเริ่มหวั่นกลัวแม่แม้นขึ้นมาทันที เพราะสายตาและท่าทีของนางไม่สบอารมณ์ต่อตัวของเขาอย่างมาก ยิวจึงพยายามหาทางหลบหลีกให้พ้นจากที่นี่ “หนูขอตัวเข้าไปในห้องก่อนนะคะ” ยิวยกมือไหว้เพื่อเป็นการลา “เดี๋ยวก่อน” เสียงห้วนๆ ดังขึ้น “มีอะไรเหรอคะแม่” “อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดายปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น” แม่แม้นเสียงพูดที่ดูเย็นชา “หนูปั้นไม่เป็นหรอกค่ะวัวควาย แต่หนูก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นะคะ แต่หนูก็จะทำการบ้านให้ท่านแม่ทัพอยู่แล้วนี่คะ” “การบ้านอะไร หรือว่าเป็นงานเรือน อันนั้นมันหน้าที่ของบ่าวไพร่ แต่เมื่อหล่อนเข้ามาในเรือนนี้ ในฐานะลูกสะใภ้ก็ควรทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยไม่ใช่รึ” “ค่ะ แม่จะให้ทำอะไรก็บอกมาซิคะ” ยิวรู้สึกขบขันที่แม่แม้นไม่เข้าใจในความหมายทำการบ้าน “เอาล่ะ อย่างแรกเลยคือ” แม้แม้นยังพูดไม่จบก็ได้ยินเสียงหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันดังขึ้น “คุณพี่ วันนี้น้องพาสุจิตรามาหาคุณพี่ค่ะ” ปราณีเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อขึ้นมาถึงบนเรือนชานแล้วนั่งลงข้างๆ แม้แม้น “สวัสดีค่ะคุณป้า” สุจิตราคู่หมั้นคู่หมายท่านแม่ทัพวิศรุฒยกมือไว้แม่แม้นอย่างนอบน้อม ซึ่งเธอเป็นลูกสาวท่านอำมาตย์ไชยา “ถ้างั้นหนูขอตัวเข้าไปในห้องก่อนนะคะ” ยิวกำลังจะยกมือไหว้แม่แม้น “ใครเหรอคะหน้าไม่คุ้นเลยคุณพี่” ปราณีปาดสายตามองยิวอย่างมีเลศนัย “ก็ เอ่อ” แม่แม้นอ้ำอึ่ง “หนูเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒค่ะ” ยิวอดรนทนไม่ไหว เพราะสายตาสองแม่ลูกนั้นดูถูกเขาอย่างมาก “โสภี เข้าไปข้างในได้แล้ว” นางแม้นตวาดขึ้นทันที “ก็เมื่อกี้ยังไม่ให้เข้านิคะ” “ตอนนี้ข้าให้เอ็งเข้าไป ถ้าไม่เข้าไปข้าจะให้บ่าวผู้ชายเฆี่ยนเองให้หลังลายเลย” “ก็ได้ค่ะ หวัดดี” ยิวยกมือขึ้นไหว้เหนือหัว “เด็กคนนี้ไร้มารยาทจริงๆ แม่แม้นบ่นพึมพำ “เมียท่านแม่ทัพจริงๆ ด้วย ที่ข่าวลือก็เป็นความจริงสินะ” แม่ปราณีเอ่ยขึ้น “อย่าไปสนใจเลยก็เด็กชาวป่าชาวเขา จะมาสู้อะไรกับแม่สุจิตราได้ล่ะ งามทั้งหน้าตาและกิริยา ซึ่งคู่ควรเป็นเมียเอกท่านแม่ทัพลูกของพี่” “นางคนนี้ คุณพี่จะให้อยู่ในฐานะอะไรล่ะคะ” “เมียบ่าว คุณน้องไม่ต้องวิตกกังวลแต่อย่างใดหรอก” “จะไม่ให้วิตกได้อย่างไรกันล่ะคุณพี่ ดูท่าทางนางน่าจะเอาเรื่องอยู่” “เอาแบบนี้ พรุ่งนี้แม่ทัพวิศรุฒจะไปออกทัพ เราค่อยจัดการนางก็ไม่สายเกินไป” “คุณพี่หมายความว่าอย่างไงน้องไม่เข้าใจ” “ก็เฉกหัวมันออกไป” “ไม่ดีหรอก เฉกหัวออกไป เดี๋ยวมันกลับมาได้อีก น้องมีวิธีการที่ไม่ให้มันได้กลับ คุณพี่สนใจหรือเปล่า” “อย่าถึงกับฆ่าแกล้งกันนะ ถึงอย่างไงนางก็เป็นเมียบ่าวลูกวิศรุฒของพี่” แม่แม้นรู้สึกใจหาย “ไม่ใช่อย่างคุณพี่คิดหรอก เราก็แค่หาผัวให้นางใหม่แค่นั้น เพราะท่านแม่ทัพวิศรุฒคงไปออกศึกหลายเดือนอยู่นี่” “อือ เข้าท่าอยู่นะความคิดของน้องพี่ ตกลงเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พี่ให้น้องปราณีเป็นคนจัดการเรื่องนี้” “ได้เลยค่ะ คุณพี่” ทั้งสามคนเมื่อพูดเรื่องของยิวจบเสร็จสิ้น ก็พูดคุยเรื่องราวทั่วๆ ไปตามภาษาผู้หญิงที่เขาคุยกัน อย่างสนุกสนามและมีความสุข โดยปล่อยให้ยิวนั้นได้อยู่ลำพังเพียงคนเดียวในห้องนอนที่แสนเงียบสงัด ยิวเดี๋ยวนั่งเดี๋ยวนอนจนเบื่อหน่าย เพราะไม่มีอะไรให้ทำแม้แต่อย่างเดียว ถึงใจจะอยากออกไปข้างนอกห้องสักเพียงใด ด้วยความกลัวและไม่คุ้นเคยเขาจึงไม่สามารถทำใจออกไปพบปะผู้คนได้ในช่วงเวลานี้ เขาจึงได้แต่นอนนิ่งๆ นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยด้วยความกลัดกลุ้มอย่างไม่มีวันคลายทุกข์ได้ มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ยิวสงบได้ นั่นคือคิดถึงในที่จากมา ถ้าไม่ได้เข้ามาในนิยายเรื่องนี้ป่านนี้คงจะสนุกกับเพื่อนที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ แล้วไหนจะพ่อแม่พี่น้องอีกเขายิ่งคิดหดหู่ใจยิ่งนัก ยิวจึงล้มตัวลงนอนคิดฝันหวานเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา จนถึงเวลากินข้าวเขาก็ไม่ออกไปกินข้างนอก จนบ่าวรับใช้นำอาหารมาให้กินถึงห้องตามคำสั่งของแม่แม้น ถึงเธอจะไม่ชอบยิวสักเพียงใด แต่เธอก็ไม่ใจดำพอที่จะปล่อยให้ยิวอดหาร และอีกอย่างเธอกลัวท่านอำมาตย์กับวิศรุฒลูกชายสุดที่รักว่าให้ได้ เมื่อยิวกินข้าวเสร็จก็มืดค่ำพอดี เขาจึงนั่งรอการกลับมาของแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งยิวก็รออยู่พักใหญ่กว่าจะได้พบเจอ “ทำไมมาช้าจัง” ยิวเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อแม่ทัพวิศรุฒมาถึงที่ห้อง “มีเลี้ยงฉลองก่อนไปทำสงครามจากคนในวัง ข้าเลยกลับมาช้าเอ็งมีอะไรรึ” แม่ทัพวิศรุฒนั่งลงใกล้ๆ ยิว “เปล่า ไม่กลับมาซะทีก็อดเป็นห่วงไม่ได้” “เอ็งเป็นห่วงข้าด้วยรึ” “อ้าว พูดแปลก” “ข้ากับเอ็งไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย” “ก็เมียท่านแม่ทัพไง ใครๆ เขาก็รู้กันไปทั่วแล้ว” “เป็นแค่ในนาม แต่ข้ายังไม่เคยได้เอ็งเป็นเมียเลย นี่ก็น่าจะถึงเวลาที่เอ็งจะต้องบอกว่าซะที วเอ่อ” แม่ทัพวิศรุฒหยุดพูดทันที เพราะเขาไม่กล้าเอ่ยคำนี้ออกมา “อะไรพูดมาสิ” “ก็เองบอกว่าบ้านเมืองของเอ็งผู้ชายกับผู้ชายอยู่เป็นผัวเมียกัน ข้าก็อยากรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง” “เอ่อ อ่า” ยิวไม่รู้จะพูดอย่างไรดี และเขาคิดว่าคงจะปฏิเสธไม่ได้อย่างแน่นอนในคืนนี้ “เราจะเป็นผัวเมียกันซะที ก่อนออกไปสนามรบข้าก็อยากมีความสัมพันธ์กับเอ็ง” “เหรอ” ยิวคิดหนักอยู่พอสมควร ถึงแม้เขาจะไม่ได้ถือตัวอะไรมากมาย และก็เคยมีความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อน แต่ในเมื่อต้องมามีความสัมพันธ์ทางกายกับแม่ทัพวิศรุฒ ใจของเขาก็สับสนว่าจะทำอย่างไรดี แต่เท่าที่ดูยิวก็พอคาดเดาได้ว่าคงไม่พ้นคืนนี้อย่างแน่นอน “อยากลองเหรอ” “อือ ต้องทำอย่างไร” “นอนลงได้เลย” ยิวตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะมอบความสุขให้แก่ท่านแม่ทัพวิศรุฒ เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆ ที่มอบให้ ถึงแม้ในตอนนี้เขายังจะไม่ได้รู้สึกชอบท่านแม่ทัพวิศรุฒสักเท่าไร “ได้สิ” ยิวนั่งมองแม่ทัพวิศรุฒล้มตัวลงนอนบนเตียง แล้วใจของเขาก็หวั่นไหวอยู่พอสมควร ด้วยรูปร่างที่กำยำล่ำสันสมชายชาตรี ยิวจึงขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ แม่ทัพวิศรุฒ พร้อมเอื่อมมือไปจับท่อนเอ็นของเขา “หยุดนะ” แม่ทัพวิศรุฒลุกขึ้นนั่งทันที “อะไร” ยิวมีท่าทีตกใจเมื่อได้ยินเสียงห้วนๆ และดังขึ้น “เอ็งจะทำอะไร” “ก็ทำแบบผัวเมียทำกันไง นายอยากได้แบบนี้ไม่ใช่เหรอ” “คือ ข้า” แม่ทัพวิศรุฒอยากจะลองแต่ใจยังไม่กล้าพอ ถึงแม้ยิวจะหน้าตาคล้ายผู้หญิง ผิวพรรรณขาวนวลดั่งอิสตรี แต่เขาก็ยังทำใจไม่ได้ที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกับยิว ถึงแม้เขาจะรู้สึกชอบยิวขึ้นมาบ้างอย่างไม่รู้ตัว “อะไรพูดมาสิ” “เอ็งมานอนข้างๆ ข้าดีกว่า คืนนี้ข้าเมาอย่างหนัก ข้าง่วงนอนแล้ว” “ใช่ พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้าไม่ใช่เหรอ” “ใช่” “ถ้างั้นแค่นอนกอดกันก็พอ” ยิวล้มตัวลงนอนข้างๆ แม่ทัพวิศรุฒ พร้อมกับนอนตะแครงแล้วใช้มือโอบกอดอกให้ผ่ายผึงของแม่ทัพวิศรุฒ ที่เขาสัมผัสได้หัวใจนั้นเต้นแรงอยู่พอสมควร “พรุ่งนี้ข้าต้องไปชายแดน เอ็งอยู่คนเดียวได้ไหม” “ได้ ไม่มีปัญหา” “ดีมาก ข้าขอร้อยอย่าสร้างความลำบากใจให้พ่อกับแม่ข้า” “แน่นอน ข้าสัญญา” “สัญญากับข้าอีกอย่างได้ไหม” “อะไร” “อย่าหนีข้าไปไหนอีก” “โอ๊ย ข้าจะไปไหนได้อีกล่ะ ก็ต้องอยู่กับนายนั่นแหละ นายก็ด้วยเหมือนกันต้องรบให้ชนะ แล้วกลับมาอย่างปลอดภัย” คำพูดนี้ของยิวทำให้เขารู้สึกใจพอสมควร “ถ้าข้ากลับมาพร้อมชัยชนะ เอ็งจะมีอะไรให้ข้าบ้าง” “นายอยากได้อะไรเราให้ทุกอย่างเลย” “ถ้าอย่างงั้นข้าจะเอาเอ็งเป็นเมียหลังจากกลับมาจากชายแดน” “ตกลง” ยิวตกลงไปอย่างงั้น เพราะเขาคิดว่าจะต้องหาทางกลับไปยังที่เขาจากมาให้ได้ “ถ้างั้นนอนเถอะพรุ่งนี้ข้าต้องไปแต่เช้าตรู่” แม่ทัพวิศรุฒหลับตาทันทีเมื่อพูดจบ ยิวนอนมองหน้าแม่ทัพวิศรุฒพร้อมกับคิดถึงเหตุการณ์วันข้างหน้า เพราะเขากลัวจะมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับเขาอีกจนไม่เคยพบเจอกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD