มันไม่ใช่ความรัก

1833 Words
การซ้อมละครได้หยุดพักหนึ่งอาทิตย์ เพื่อที่จะให้เขื่อนและกัสได้หยุดสงบอารมณ์ไม่ให้เข้าถึงอารมณ์ไปมากกว่านี้ และอีกอย่างหนึ่งใกล้เวลาสอบแล้วด้วย ทางชมรมจึงถือโอกาสให้ทั้งสองได้มีเวลาในการเตรียมตัว ในส่วนของกัสก็หยุดการเขียนนิยายไปชั่วขณะ เพื่อที่จะได้มานั่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม ซึ่งแตกต่างจากเขื่อนยังคงไปทำงานตามเดิมไม่เปลื่ยนแปลง เพราะทางบ้านค่อนข้างขัดสนกว่ากัส เขาจึงจำเป็นต้องหารายได้พิเศษมาใช้ในการเรียน ยิ่งเมื่อสอบเสร็จภาระจะมาอีกมากมายโดยเฉพาะค่าเทอม กัสกำลังนั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่ในห้องอย่างเคร่งเครียด และเขื่อนก็เดินเข้ามาพอดี ซึ่งก็เป็นเวลาที่ดึกพอสมควร “ทำไมยังไม่นอนอีกเหรอกัส นี่ก็ดึกมากแล้วนะ” “นายก็เหมือนกันเขื่อน น่าจะเอาเวลามาอ่านหนังสือบ้าง มัวแต่ทำงานอยู่นั่นแหละ” “ไมได้หรอก ถ้าเราหยุดก็คงต้องหางานใหม่อีกนั่นแหละ ทนๆ เอา เราจะอ่านตอนว่างๆ หลังจากทำงาน” “มันจะมีสมาธิอะไรล่ะ” “เอาน่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ว่าแต่นายเถอะออกจากบทละครหรือยัง” เขื่อนถามด้วยความเป็นห่วง “หายแล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกดีไปมากๆ ไม่อินอะไรแล้ว” กัสวางหนังสือลงบนโต๊ะ “ไม่ต้องอินหรอก มันเป็นแค่การแสดงนายก็ปลงๆ ไปซะอย่างคิดอะไรมาก นี่อาจเป็นเพราะนายเขียนนิยายมากไปหรือเปล่า” “อือ อาจมีบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก” ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่เกี่ยวกับนิยายที่เขาเขียนสักเท่าไร แต่เป็นเพราะเขาแยกมีนกับพีคไม่ออก กัสเห็นเป็นคนเดียวกันตลอดเวลา “ดีแล้ว เดี๋ยวเราอาบน้ำก่อนนะ” “อือ แล้วใครมาส่งล่ะ” “พี่ที่ทำงานมาส่งนะ” “พี่พีคไม่ไปรับแล้วเหรอ ทุกทีเห็นมาด้วยกัน” กันเผลอพูดออกไปโดยไม่ทันได้คิด “นายรู้ได้ไง” เขื่อนมีท่าทีสงสัย “พอดีเราเปิดหน้าต่างรับลมเลยเห็นเข้าพอดี” “อ่อ ช่วงนี้พี่พีคเขาต้องอ่านหนังสือเหมือนพวกเรานั่นแหละ เลยไม่ค่อยมีเวลาไปรับเราสักเท่าไร” “แต่เมื่อก่อนไปรับทุกคืนใช่ไหม” “ใช่” เขื่อนตอบความจริงทุกอย่าง กัสได้ยินคำนี้แล้วเขารู้สึกปวดร้าวจิตใจยิ่งนัก แต่เขาก็เก็บความรู้สึกนี้ไว้ เพราะอย่างไงเขื่อนก็ยังเป็นเพื่อนของเขา แต่กัสก็อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ทั้งสองนั้นคืบหน้าไปถึงไหน “เรามีเรื่องจะถามนายสักเรื่องได้ไหม” “ได้ เรื่องอะไร” เขื่อนหันมามองกัสที่มีสีหน้าอันราบเรียบ “นายกับพี่พีคคบกันหรือเปล่า” “ทำไมนายถามเราอย่างนี้” เขื่อนรู้สึกงงพอสมควร แต่ก็พอจะเข้าใจเพราะเขาก็ดูกัสออกว่ากัสแอบชอบพีคอยู่เหมือนกัน “ไม่รู้อะไรหรอกแค่อยากรู้เฉยๆ เห็นนายกับพี่พีคไปไหนต่อไหนกันสองคนบ่อยๆ เราเป็นเพื่อนกันก็น่าจะบอกความจริงให้เพื่อนรู้บ้าง” “อ่อ ก็ไม่รู้นะ แต่พี่พีคเขาก็ดีกับเรานะรวมทั้งนายด้วยพี่พีคก็ดีด้วยไม่ใช่เหรอ” “อือ มันคนละอย่างกัน เรารู้ว่าพี่พีคไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับเราหรอก แต่กับนายเราพี่พีคคิดอย่างแน่นอน” “เหรอ ถ้านายคิดอย่างนั้นก็แสดงว่าพี่พีคจีบเรา” “แล้วนายมีความรู้สึกอย่างไงกับพี่พีคล่ะ” “เราน่ะเหรอ ก็มีบ้างพี่ ดี หล่อ ขนาดนั้น ใครอยู่ใกล้จะไม่ให้คิดได้อย่างไงล่ะ” “แล้วนายล่ะ คิดอย่างไงกับพี่พีค เพราะถ้าใครอยู่ใกล้พี่พีคก็ต้องหลงรักพี่เขาทั้งนั้นแหละ” “เราไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างนั้นหรอก” กัสพยายามเก็บความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในไม่ให้เขื่อนได้เห็น “เหรอ ก็ดีนะ เราจะได้ไม่ต้องมาแย่งผู้ชายคนเดียวกัน ถ้างั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ” “อือ” กัสรู้สึกแสลงใจกับคำพูดของเขื่อนอย่างมาก เพราะสิ่งที่เขาบอกเขื่อนไปนั้นตรงข้ามกับความรู้สึกของเขาอย่างสิ้นเชิง กัสนั้นอยากอยู่ใกล้ๆ พีคอย่างเป็นที่สุด แต่ดูเหมือนพีคจะรักษาระยะห่าง และเอนเอียงมีใจไปทางเขื่อนมากกว่า ซึ่งกัสรู้ข้อนี้ดีจึงทำให้ในตอนนี้กัสกำลังสับสนว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี วันเวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์กัสและเขื่อนก็สอบเสร็จ จึงเป็นช่วงเวลาปิดเทอมแรก กัสจึงมีเวลาที่จะเขียนนิยายได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเขื่อนนั้นได้ทำงานเต็มเวลาเพื่อหาเงินค่าเทอม หลังสอบเสร็จหนึ่งวันกัสจึงเริ่มต้นเขียนนิยายซึ่งเป็นเวลาเริ่มมืดและเงียบสงบ แต่แล้วความเงียบได้จางหายมีเสียงเคาะประตูเข้ามาแทนที ที่แรกกัสก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเป็นใคร เพราะถ้าเป็นเขื่อนเขาจะมีกุญแจห้องไขเข้ามาได้เลย กัสลังเลชั่วครู่ก่อนที่จะเปิดประตูออกไป และภาพตรงหน้าทำให้กัสตรงใจอย่างมาก เพราะเป็นคนที่เขาแอบรักมานาน “พี่พีคมาได้อย่างไงเนี่ย” “พี่เหงาๆ ไม่รู้จะไปไหนก็เลยมาที่นี้ เพื่อได้เจอน้องเขื่อนกับน้องกัส ให้พี่เข้าไปได้หรือยัง” “พี่เข้ามาเลย” กัสเดินนำหน้าพีคเข้ามาและให้นั่งเก้าอี้ใกล้ๆ โน๊ดบุ๊ค หลังจากนั้นกัสกำลังจะไปหยิบน้ำมาให้พีคได้ดื่ม “จะไปไหนกัส” “เอาน้ำให้พี่ไง” “ไม่ต้องกัสพี่เตรียมมาแล้ว” พีคเอาขวดเหล้าออกมาจากกระเป๋าสะพายของเขา สายตาของกัสมองไปยังขวดเหล้าและอดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมพีคถึงนำเหล้าออกมาเพื่อจะดื่ม “พี่พีคจะดื่มเหล้าเหรอ” กัสเดินเข้ามาใกล้ๆ พีค “อือ พี่กลุ้มใจนิดหน่อย” “ไม่หน่อยหรอกมั้งถือขวดเหล้ามาอย่างนี้” กัสนั่งลงข้างๆ พีค “ดื่มเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม” “กัสไม่ดื่มเหล้า” “ไม่เป็นไรถ้าอย่างงั้นนั่งเป็นเพื่อนพี่ก็แล้วกัน” “ได้ แต่กัสไม่เข้าใจ พี่พีคมีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอครับ” กัสมีสีหน้าที่สงสัย “ช่วงนี้เขื่อนไม่ค่อยมีเวลาให้พี่เลย เลิกงานก็ดึกกลางวันก็ไปทำงาน พี่อุตส่าห์ไปหาถึงที่ทำงานแต่ดันกลับมากับคนอื่น” พีคกระดกเหล้าดื่มหนึ่งอึกใหญ่ “อ่อ” กัสพยักหน้าแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา “กัสพอรู้ไหมว่าเป็นใครกันที่มาส่งเขื่อน” “อือ เห็นเขื่อนว่าเป็นพี่ที่ทำงาน” “พี่ที่ทำงานหรือแฟนกันแน่” พีคจ้องมองหน้ากัสด้วยความอยากรู้ “อันนี้กัสก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะกัสไม่เห็นบอกอะไรไม่ได้” กัสพยายามพูดให้คลุมเครือเพื่อให้พีคมีความคลางแคลงใจในตัวเขื่อน “ไม่ต้องมาโกหกพี่หรอก พี่ว่าต้องเป็นแฟนแน่ๆ” “กัสบอกไม่ได้ เพราะกัสไม่รู้อะไร” “ไม่ต้องมาโกหกพี่เลย เป็นเพื่อนกันก็ต้องปิดบังกันใช่ไหม” “กัสว่าพี่เมาแล้ว พอก่อนเถอะดีไหมดื่มเหล้าน่ะ” “พี่ยังไม่เมาสักหน่อย พี่จะรอเขื่อนอยู่ที่นี่ เมื่อกี้พี่ไปหาเขื่อนแล้วแต่ไม่เจอ” “ทำไมไม่โทรหาล่ะ” “ไม่โทรหรอก พี่อยากรู้ว่าเขื่อนจะกลับมาถึงห้องกี่ทุ่ม” “ตามใจพี่ นอนรอก็ได้บนเตียงน่ะ เพราะกัสดูแล้ว พีคคงจะไม่ไหวอย่างแน่นอน” “พี่ไหวอยู่นะ แต่พี่แปลกใจทำไมพี่ไม่ชอบกัสไปชอบเขื่อนทำไม กัสออกจะน่ารักนิสัยดีเรียบร้อย อยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหนสักเท่าไร แล้วกัสชอบพี่บ้างไหมสักหน่อยก็ยังดี” “กัสว่าพี่พีคเมาแล้วพูดไปเรื่อย” “พี่ไม่ได้พูดไปเรื่อยพี่พูดจริงๆ” กัสรู้ว่าพีคเริ่มเมาหนักขึ้นเขาจึงไม่สนใจคำพูดของพีคสักเท่าไร ถึงแม้ลึกๆ แล้วเขารักพีคอย่างมาก และอยากได้มาครอบครองแต่ก็กลัวผิดใจกับเขื่อน ถึงอย่างนั้นกัสก็ยังมีความหวังอยู่ว่าสักวันพีคจะชอบเขาบ้าง แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงเขาก็ไม่มีวันยอมอย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้พีคชอบเขื่อนไปแล้ว เขาจึงทำอะไรได้ไม่มากนอกจากแอบรักแอบอิจฉาอยู่อย่างเงียบๆ “พี่พีคเมามากแล้วพอเถอะ” กัสยื่นมือไปหยิบขวดเหล้าจากพีค แต่พีคดึงกลับ หนึ่งมือของทั้งสองคนต่างยื้อยึดฉุดกระชากขวดเหล้า ด้วยแรงของพีคที่มีมากกว่าจึงดึงขวดเหล้ากลับได้สำเร็จ แต่ก็หกใสเสื้อผ้าเขาจนเปียกไปหมด “กัสขอโทษ” กัสรู้ผิดทันทีที่แย่งเหล้าจากพีคทำให้เหล้าหกจนหมด “ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน” พีคลุกขึ้นถอดเสื้อออก “ห้องน้ำอยู่ไหนเนี่ยพี่จะไปล้างหน้าล้างตาล้างตัวซักหน่อย” กัสชี้มือไปทางห้องน้ำ พีคก็เดินไปทันทีส่วนกัสก็เก็บขวดเหล้า และทำความสะอาดพื้นห้องและเก้าอี้ที่พีคนั่งเมื่อครู่ เมื่อเขาทำความสะอาดเสร็จพีคก็ออกมาจากห้องน้ำในสถาพกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว “เสื้อกางเกงพี่เปียกเหล้าหมดเลย” “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวกัสจะซักให้ พอแห้งแล้วค่อยใส่กลับก็ได้” “ขอบใจมากนะ ความจริงไม่ต้องซักก็ได้” “ไม่เป็นไรหรอก เพราะกัสดูแล้วพี่คงขับรถกลับไปไม่ไหวหรอก ถึงไหวก็อันตรายนะถ้าเกิดเจอด่านขึ้นมามันจะยุ่ง พี่ก็นอนบนเตียงก่อนก็ได้ พอสร่างแล้วค่อยกลับป่านนั้นเสื้อกางเกงพี่ก็คงแห้งพอดี” “ก็ได้ พี่ก็รู้สึกมึนๆ เหมือนกัน” พีควางกางเกงทับไว้บนเสื้อของตัวเองที่ถอดไว้เมื่อครู่หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นไปนอนบนเตียง กัสหยิบเสื้อกางเกงของพีคเอาไปซักในเครื่องซักผ้า หลังจากนั้นก็เอามาพึ่งไว้นอกห้องแล้วนำพัดลมมาเป่าให้แห้ง หลังจากนั้นเขาเดินมายังเตียงนอนของเขาและเขื่อนที่ในตอนนี้ พีคได้ครอบครองไว้หมดแล้ว พีคนั้นนอนกางแข้งกางขาอย่างหมดสภาพ แต่สายตาของกัสไม่ได้มองเช่นนั้น เขาเริ่มมองตั้งแต่ศีรษะไล่ลงมาจนถึงใบหน้าอันคมสัน และต่อด้วยแผงอกที่มัดกล้าม ยาวไปถึงหน้าท้องมีกล้ามเป็นลอนและขนอ่อนๆ แล้วก็มองลงต่ำลงไปเรื่อยๆ จนกลางลำตัวที่พองนูน จนถึงต้นขาที่ใหญ่แข็งแกร่ง

Read on the App

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD