“จินจะกลับเลยไหม?”
“ยังอะ กะว่าจะเดินเล่นสักหน่อย ไม่อยากกลับไปเจอพี่เคียนติ” ฉันออกมาจากมหาลัยหลังจากที่นั่งเล่นอยู่จนถึงค่ำ ไอริชกำลังยืนรอพี่ชายตัวเองให้มารับ ไอริชอาศัยอยู่กับพี่ชายและครอบครัวอยู่ในคอนโดระดับกลาง ฉันถึงไม่พึ่งพาเพื่อนมากไง เพราะพี่ชายของไอริชเป็นคนหาเงินและฉันจะแบกหน้าไปขอเงินเขาใช้เหรอ?
“ฉันคุยกับพี่ไอซ์เรื่องงานให้แล้วนะ พี่ไอซ์บอกว่าจะลองหาๆ ให้... ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวฉันไลน์หาจินนะ”
“ขอบคุณนะริช ฝากขอบคุณพี่ไอซ์ด้วย ไม่อยากรบกวนพี่เคียนติให้เขาลำบากใจอะ เงินที่ให้มาเมื่อเช้าก็เยอะจนไม่กล้าใช้เลย”
“ก็เก็บเอาไว้ลงทะเบียนเทอมหน้าไง เอาเถอะน่า ถึงยังไงพี่เคียนติก็เป็นห่วงจินนะ ไม่งั้นคงไม่รีบไปรับมาอยู่ด้วยกันหรอก” ไอริชยิ้มให้ก่อนที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จะจอดลงตรงหน้า หมวกกันน็อคถูกถอดออกพร้อมใบหน้าหล่อตี๋ของพี่ไอซ์พี่ชายของไอริชที่อายุมากกว่าพี่รัม ก็อายุยี่สิบหกปี
“ไงจิน สบายดีนะ ริชบอกว่าเรากำลังหางานอยู่”
“ค่ะพี่ไอซ์ แต่พี่ก็รู้ว่าสภาพอย่างหนูไปสมัครที่ไหนเขาคงจะไล่ออกมา”
“หัดกินให้มันเยอะๆ สิ เป็นเพราะว่าเราผอมเกินไปไง แถมยังทำให้ร่างกายอ่อนแรงอีกต่างหาก” พี่ไอซ์ยกยิ้มและสวมหมวกกันน็อคตามเดิมขณะที่ไอริชขึ้นนั่งรถพี่ชาย “พี่จะหางานให้แล้วกัน ถ้าได้จะให้ริชโทรไปบอก”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ไปก่อนนะจิน กลับถึงห้องแล้วไลน์บอกด้วยนะ” ฉันพยักหน้ารับมองรถของไอริชที่ไกลออกไป ส่วนตัวฉันก็เดินเตร็ดเตร่ไปตามทาง มองสองข้างทางด้วยสายตาที่เหม่อลอย หยิบมือถือออกมาโทรหาพี่ชายตัวแสบแต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ “เฮ้อออ... ทำยังไงดีเนี่ย กลับไปก็ไม่อยากเจอภาพบาดใจ ไม่กลับก็ไม่รู้จะไปไหน!”
เมื่อสองเท้าเดินมาไกลมาหยุดที่หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เสียงเพลงดังกระหึ่มทำให้ฉันอยากจะก้าวเท้าเข้าไปด้านในถ้าไม่ติดตรงที่ว่าตัวเองดันสวมชุดนักศึกษามาด้วย
อยากเมา อยากเต้น อยากเหวี่ยงให้มันสุดๆ!
แต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้นล่ะ ที่แบบนี้ไม่เหมาะกับคนอย่างฉันสักนิด ฉันกระชับมือที่สะพายกระเป๋าก่อนจะหมุนตัวออกจากตรงนี้แต่ทว่าดันไปเจอเข้ากับภาพที่อุบาทว์
“เย้ย!”
“ใครวะ?!” ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเองขณะกำลังมองชายหญิงคู่หนึ่งกำลังสมสู่กันอย่างเมามัน ที่สำคัญดูเหมือนผู้ชายจะรู้แล้วว่ามีคนเห็น ฉันถอยหลังจะวิ่งออกจากตรงนี้แต่ทว่าร่างสูงที่กำลังรูดซิปกางเกงก็เดินออกมาจากข้างรถ
“หือ... ยัยแห้ง?”
“นะ นายสัตว์”
“เฮ้ย ว่าไรนะ!” ร่างสูงตรงเข้ามาบีบแขนฉันอีกครั้ง หญิงสาวที่โดนกระทำอย่างสาหัสจะเดินผ่านเราสองคนเข้าผับไป หมอนี่หรี่สายตามองฉัน “มาแถวนี้ทำไม ใช่ที่หรือไง?”
“กะ ก็เดินหลงมา กำลังจะกลับแต่ดันเห็น...”
“อะไร?”
“เห็นกำลังสมสู่กันอยู่ไง!”
“เหอะ แล้วเมื่อกี้เรียกอะไร ฟังไม่ชัดเลย อะไรสัตว์ๆ” ใบหน้าหล่อโน้มเข้ามาใกล้จนฉันเอนตัวหนีเขา ฝ่ามือแกร่งบีบต้นแขนฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเจ็บไปหมด กระดูกจะหักไหมเนี่ย?
“คือเรียกผิด จะเรียกซัส มันเผลอเรียกเป็นสัตว์อะ แหะๆ”
“แล้วไป พูดไม่เข้าหูอีกที โดนดีแน่”
“ปล่อยได้ยังอะ เจ็บนะ” ซัสมองต้นแขนฉันก่อนจะปล่อยออกไป ฉันลูบต้นแขนตัวเองเบาๆ รอยเก่ายังไม่จางเลยนะ รอยใหม่มาอีกแล้วเหรอเนี่ย?
“เพื่อนเธอเนี่ยเล่นตัวจังนะ แค่ยอมให้ฉันเคี้ยวเล่นแค่นี้ไม่ได้”
“เพื่อนฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นนะ โปรดเข้าใจด้วย... และจะหากินที่ไหนก็เรื่องของนาย แต่ต้องไม่ใช่กับเพื่อนฉันเข้าใจไหม!” ฉันแลบลิ้นใส่เขา ก่อนจะเดินชนไหล่เขาอยากแรง พูดอย่างกับตัวเองหล่อตายล่ะ! เออแต่ก็หล่อ แต่นิสัยแย่ก็บายนะ พวกเจ้าชู้ เลว ชั่วๆ แบบนี้ ชอบกันจริงเลยนะ ฉันไม่เห็นจะชอบตรงไหนเลย งั้นๆ ล่ะ
ฉันก็มาถึงห้องพี่เคียนติอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่อยากกลับมาแต่ที่นี่เป็นที่สุดท้ายและฉันจะต้องอยู่ไปจนกว่าพี่รัมจะกลับมารับฉัน ประตูห้องเปิดขึ้นเพราะพี่เคียนติให้คีย์การ์ดฉันไว้ สายตาของฉันโฟกัสไปรอบห้องก็ไม่เห็นใครอยู่เลย
โล่งใจ สงสัยคงไปทำงานล่ะมั้ง? ฉันไม่รู้ว่าพี่เคียนติทำงานอะไร แต่รู้อย่างเดียวว่าบ้านพี่เขารวยมาก จนแบบไม่ต้องทำอะไรก็มีกิน ฉันเข้าห้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสีขาวเอวลอยกับกางเกงขาสั้น ออกมาหยิบของออกจากระเป๋าสะพายแต่ทว่า...
“มะ ไม่มี! หายไปไหนอะ”