“กูอยากได้เด็กเสิร์ฟคนที่ชื่อ...เพลงขวัญ”
“เพลงขวัญ!!”
แล้วทำไมไอ้ลีมันต้องทำหน้าตกใจแล้วพูดขึ้นมาเสียงดังแบบนี้ด้วยครับ
“ทำไมวะ..มึงตกใจอะไรอย่าบอกนะว่ามึงก็สนใจยัยเด็กนั้น”
“เปล่า!!”
มีพิรุธ!! ไอ้ห่าลีแม่งเลิกลั่กแปลกๆ ตอนตอบผมปกติไอ้ลีไม่ได้เป็นคนแบบนี้ครับผมว่ามันต้องคิดอะไรกับยัยเด็กที่ชื่อเพลงขวัญแน่ๆ
“กูให้มึงตอบอีกทีเพราะถ้ามึงคิดกูจะได้ไม่เอายัยเด็กนั้น”
“ผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องมันหรอกเฮีย”
“ก็ดี ถ้ามีงไม่คิดก็ไปจัดการมา”
ผมบอกมันออกไปก็บอกไปแล้วครับว่าคนอย่างผมอยากได้อะไรก็ต้องได้ถึงแม้ว่าเพลงขวัญจะไม่ใช่ดารานางแบบหรือไอดอลที่ผมเลี้ยงไว้เป็นแค่เด็กเสิร์ฟแต่เด็กนี้จัดว่าสวยเป็นคนสวยมากคนหนึ่งแล้วที่ผมอยากได้ก็เพราะยัยนี้พูดจาจองหองกับผม
“เฮีย..จะเลี้ยงเพลงขวัญไว้อีกคนเหรอวะ”
“อือ!!”
“แต่บ้านเต็มทุกหลังแล้วจะเอาเพลงขวัญไปไว้ที่ไหน”
พอไอ้ลีมันถามแบบนี้ผมก็นิ่งไปพักหนึ่งครับเพราะในหัวผมมีถาพเหตุการณ์บางอย่างผุดขึ้นมาเหตุการณ์ที่แม่งไม่น่าจดจำ
“มึงลืมไปแล้วเหรอว่ากูมีอยู่อีกหลัง”
ไอ้ลีทำหน้าตกใจขึ้นมาอีกรอบหลังจากที่ได้ยินผมพูดประโยคนี้ออกมาแล้วมันก็พูดประโยคนี้กับผม
“เฮีย..แต่บ้านหลังนั่นมัน!!”
“มันมีคนสองคนทำระยำไว้”
ผมพูดประโยคนี้ออกมากับไอ้ลีพร้อมกับค่อยๆ หลับตาลงช้าๆเพราะภาพเหตุการณ์เหี้ยๆวันนั้นมันยังติดตาผม
“เฮีย...โอเคเหรอที่จะเปิดบ้านหลังนั้นอีกครั้ง”
ผมรู้ครับว่าไอ้ลีมันเป็นห่วงความรู้สึกผมแต่คนอย่างผมไม่ใช่คนที่จะผูกตัวเองไว้กับอดีตนานๆครับ
“โอเคดิวะ!! กูแม่งไม่ได้จดจำเรื่องเหี้ยๆที่เกิดขึ้นที่นั้นแล้วว่ะ”
“แต่ว่า..”
“ทำไม!! มึงกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหรอไอ้ลี”
“เปล่า...ผมแค่เป็นห่วงเฮีย”
“ขนลุกชิบหายไอ้สัส...อยู่ดีๆ มาพูดซึ้งๆ มึงคิดไรกะกูปะเนี้ยะผู้หญิงก็ไม่ยอมเอาอย่าบอกนะว่ามึงเป็นน่ะ”
ผมก็แกล้งแหย่มันเล่นน่ะครับที่ผมพูดแบบนี้ออกไปไม่อยากให้บรรยากาศมันตึงเครียดผมรู้ว่ามันห่วงไอ้ลีอ่ะมันอยู่กับผมมาทุกช่วงเวลาของชีวิตผมเลยก็ว่าได้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้านหลังนั้นไอ้ลีมันรู้ดีว่าผมเจ็บปวดและแค้นใจกับเหตุการณ์นั้นแค่ไหน
“ผมถามอะไรอย่างดิเฮีย”
“ถามมาดิ๊”
“ทำไมต้องเป็นเพลงขวัญ”
ผมหรี่ตามองหน้าไอ้ลีอย่างไม่เข้าใจปกติถ้าผมอยากได้ผู้หญิงคนไหนไอ้ลีมันไม่ถามมากและซอกแซกแบบนี้หรือว่ามันจะชอบเพลงขวัญแล้วไม่กล้าบอกผมวะ
“ไหนมึงบอกไม่ชอบไม่ได้คิดอะไรกับเด็กนั้นไงทำหมถามกูซอกแซกแบบนี้ปกติมึงไม่เป็นแบบนี้นะไอ้ลี”
“ผมแค่แปลกใจปกติเฮียจัดแต่นางแบบ พริตตี้ ไม่ก็ไอดอลแต่เพลงขวัญไม่ใช่”
“กูไม่เคยถูกใครปฏิเสธ แล้วก็ไม่มีใครที่จะปฏิเสธกูได้ด้วย”
“เฮียพูดเหมือนเคยถูกเพลงขวัญปฏิเสธ!!”
ไอ้ห่าลีแม่ง!!มันจะถามอะไรผมเยอะแยะวะ
“ไม่ต้องถามมากมึงแค่ไปจัดการทำยังไงก็ได้ให้เด็กนั้นยอม...”
“ครับ!”
มันก็ยอมรับฟังคำสั่งผมครับแต่สีหน้าไอ้ลีแม่งโคตรไม่ปกติ
“แล้วเรื่องเด็กที่จะเอามาเดิมพันในงานมึงไปบอกนิดาให้หารึยัง”
“ว่าจะไปหานิดาวันนี้..งั้นผมขอตัวเลยนะเฮียไปหานิดาแล้วจะได้ไปจัดการเรื่องเพลงขวัญให้เฮีย”
พูดจบไอ้ล่มันก็กำลังจะลุกออกไปก่อนไปผมอยากบอกอะไรมันหน่อยครับ
“เดี๋ยวไอ้ลี”
“ครับ!!”
“ที่มึงบอกว่าไม่ได้คิดอะไรไม่ชอบยัยเด็กนั่นมึงยังยืนยันคำเดิมรึเปล่ากูให้มึงคิดอีกที”
“ครับ!! ไม่ได้คิดอะไร”
“ก็ดี...เพราะกูไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยถ้ามันจะเกิด คนที่จะทรยศกูต้องไม่ใช่มึง”
โมเดลลิ่งนิดา
“ไงเรามีใครติดต่อมายังที่ไปสมัครงานไว้”
“ยังเลยค่ะเพลงเริ่มท้อแล้ว”
ฉันพูดกับพี่นิดาออกไปตอนนี้ฉันอยู่ที่ออฟฟิศพี่นิดาน่ะค่ะเอางานที่พี่เขาจ้างให้ทำมาส่ง
“พี่ก็อยากช่วยเพลงนะแต่ตำแหน่งว่างออฟฟิศพี่ไม่มีเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่พี่นิดาจ้างเพลงทำงานพิเศษก็ช่วยเพลงได้เยอะแล้ว”
ฉันยิ้มแล้วพูดกับพี่นิดาออกไปฉันรู้ค่ะว่าพี่เขาเป็นห่วงและอยากช่วยฉันมากกว่านี้
“แล้วแม่อาการเป็นไงบ้าง”
“ก็ตามสภาพอะพี่อีกไม่กี่วันก็ต้องไปฟอกไตอีก”
“เฮ้อ!! ถ้าเป็นคนอื่นพี่คงจับเพลงให้รับงานละแต่นี่เป็นเพลงไง”
พี่นิดาถอนหายใจแล้วพูดประโยคนี้ออกมางานที่พี่เขาพูดก็คืองานที่สาวๆในสังกัดทำนั่นแหละค่ะ
“ทำไมถึงไม่อยากให้เพลงทำละเป็นเด็กเสี่ยมีคนเลี้ยงสบายจะตายบางทีเพลงอาจจะชอบก็ได้”
ฉันแกล้งพูดแหย่พี่นิดาออกไป
“หยุดเลยเรา!! อย่าแม้แต่จะคิดเป็นเด็กเสี่ยมีคนเลี้ยงสบายก็จริงแต่เราต้องตกอยู่ในสภาพไหนบ้างใครจะรู้เพลงไม่เหมาะที่จะทำอะไรแบบนี้หรอก”
“เพลงล้อเล่นค่ะ ไม่เคยคิดจะทำหรอก”
“ดีแล้ว!! เพราะเด็กดีอย่างเพลงมีค่าเกินกว่าที่จะทำงานแบบนี้”
พี่นิดาพูดแล้วก็ยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ อย่างเอ็นดูฉันรู้ค่ะว่าพี่เขาห่วงและหวังดีกับฉัน
“งั้นวันนี้เพลงกลับก่อนนะจะกลับไปทำเบเกอรี่ไปส่งร้านกาแฟพรุ่งนี้อีก”
“ขยันอะไรขนาดนี้เพลงมีเวลาพักบ้างไหมเรา”
“ถ้าพักแล้วไม่ได้เงินเพลงยอมไม่พักดีกว่าเดี๋ยวแม่ต้องเปลี่ยนยาอีกยาตัวนี้ราคาแพงกว่าตัวเดิมด้วยเพลงพักไม่ได้หรอก”
ฉันตอบพี่นิดาออกไปฉันทำขนมเป็นค่ะก็เลยทำเป็นอาชีพเสริมก็อย่างที่บอกค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ฉันแต่ละครั้งมันสูงมากๆ เลย
“อ่ะ!! นี่ค่าจ้างของเพลงขาดเหลืออะไรก็บอกพี่นะถ้าพี่พอจะช่วยเพลงได้”
พี่นิดายื่นซองเงินค่าจ้างให้ฉันแล้วพูดประโยคนี้ออกมา
“ขอบคุณค่ะ..งั้นเพลงไปก่อนนะ”
พูดจบฉันก็เดินออกจากห้องทำงานพี่นิดามา
“เธอ!!”
“คุณลี!!”
ทำไมโลกกลมจังคะฉันเจอเขาอีกแล้วคุณลีน่ะค่ะตอนนี้ฉันเจอเขาหน้าออฟฟิศพี่นิดา
“เธอมาทำอะไรที่นี่”
“เพลงเอางานมาส่งให้เจ้าของที่นี่น่ะค่ะ”
“งาน...เธอทำงานกับนิดาเหรอ”
คุณลีถามออกมาพร้อมกับมองหน้าฉันแปลกๆ เขาคงคิดว่าฉันรับงานเอ็นเตอร์เทนพวกนั้นสินะถึงได้มองแบบนี้
“พินิดาจ้างเพลงทำบัญชีให้น่ะค่ะ”
“อ่อ!!...อืม”
“งั้นเพลงขอตัวนะคะ”
“อืม!!”
ครืดๆ ครืดๆ
ในตอนที่ฉันกำลังเดินแยกกันกีบคุณลีเสียงสั่นเตือนมือถือฉันก็ดังขึ้น แม่นั่นเองที่โทรมา
“ฮัลโลค่ะแม่”
“หะ!! อะไรนะคะ แม่ใจเย็นๆ นะเพลงจะรีบไปแค่นี้นะคะ”
“มีอะไรรึเปล่าเพลงขวัญ”
“บ้าน...บ้านเพลงถูกไฟไหม้ค่ะ”