จากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้พิมพ์มาดาเกลียดน่านน้ำยิ่งนัก ยิ่งไม่ชอบอยู่แล้วยิ่งมาทำให้เกลียด และยิ่งยามอาบน้ำมาส่องกระจกทีไรเห็นปากตัวเองก็ต้องกัดเม้มปากแน่นทุกที เมื่อภาพที่ถูกคู่หมั้นปากดีขโมยจูบแรกไปแบบนั้น และยิ่งไปกว่านั้นเขาทำให้เธออับอายญาติผู้ใหญ่เมื่อเข้ามาในบ้านทุกคนต่างมองมาทางเธอในสภาพที่ดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง และลิปสติกเปรอะเปื้อนริมฝีปากจนต้องขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงประตูหน้าห้องดังขึ้นทำให้พิมพ์มาดาโยนความคิดก่อนหน้าทิ้ง แล้วเปลี่ยนมาเป็นยิ้มให้ตัวเองในกระจก ก่อนจะลุกเดินจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งไปยังประตูห้องแล้วเปิดออกรับแขก
“มีอะไรกับดาคะแม่อ่อน”
“ไม่มีอะไรหรอกลูก แม่เดินผ่านห้องลูกเห็นไฟเปิดอยู่เลยเคาะดู แล้วทำอะไรอยู่ ทำไมถึงยังไม่นอนลูก” ตองอ่อนถามลูกสาว
“พอดีดูบัญชีของร้านและของโรงงานเลยยังไม่นอน”
“พักผ่อนได้แล้วลูก เนี่ยก็ดึกมากแล้ว ตั้งแต่มาลูกไปช่วยงานที่โรงงานและร้านของเราไม่หยุดพักเลย”
“ก็มันคืองานของเรานี่คะ อีกอย่างดาไม่อยากว่างงาน แม่ก็รู้ว่าดาไม่ชอบอยู่นิ่ง”
“อย่ามัวแต่ทำงานแล้วเงยหน้าอีกทีเพื่อนแต่งงานมีผัวหมดแล้วนะลูก เนี่ยอายุของเราก็ใกล้คานทองเข้าไปทุกทีแล้วนะ”
“แม่อ่อนอยากให้ดาแต่งงานกับนายน่านหลานของคุณย่าระย้าเหมือนที่คุณยายต้องการเหรอคะ ถึงพูดแบบนี้”
“ทำไมล่ะลูก พ่อน่านก็ดูเป็นผู้ใหญ่และเอาการเอางาน แถมหน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักนิด”
“หึ! ขี้เหร่ค่ะแม่อ่อน ไม่เห็นหล่อเลย ยังไงหนูก็ไม่แต่งงานกับเขาหรอก หนูไม่รักเขาไม่ชอบด้วยและไม่มีวันชอบคนเถื่อนแบบนั้นด้วย” ยิ่งนึกถึงหน้าของน่านน้ำก็ยิ่งหงุดหงิด
“อือ แต่ยังไงก็หนีไม่พ้น เพราะคุณยายไม่ยอมแน่ ลูกก็รู้ว่าคุณยายไม่เคยผิดคำสัญญาและยิ่งกับเพื่อนรักด้วยแล้ว มีหรือจะยอมให้งานแต่งงานของลูกกับพ่อน่านยกเลิกไป”
“คุณแม่เลิกพูดเรื่องนี้เถอะค่ะ”
“งั้นแม่ไปนอนก่อนนะ ป่านนี้พ่อของเราคงหลับไปแล้วแหละ อย่าลืมนะลูกอายุของลูกมันไม่รอหรอกนะ พ่อน่านก็ไม่ได้แย่ แต่งๆ ไปเดี๋ยวก็รักกันเอง”
“มีแต่ยิ่งเกลียดน่ะสิคะแม่อ่อน ถ้าต้องแต่งงานกับนายนั่นจริงๆ ฝันดีนะคะแม่อ่อน”
“ฝันดีจ้ะลูก แม่ไปก่อนนะ เรื่องงานก็อย่าจริงจังให้มากนักเป็นผู้หญิงอย่าเก่งเกินชายมันไม่น่ารักรู้ไหมลูก”
“จะน่ารักหรือไม่น่ารักก็ขึ้นอยู่กับคนมองแล้วแม่อ่อน ไปได้แล้วค่ะลูกง่วงแล้ว ฮ้าว!” พูดจบก็ปิดปากหาว แสร้งทำท่าง่วงทันทีจนคนเป็นแม่ส่ายหน้าให้ด้วยความอ่อนใจ ก่อนจะเดินจากไป ตองอ่อนรู้ว่าพิมพ์มาดาน่ะดื้อแค่ไหน ดื้อพอๆ กับคนเป็นยายนั่นแหละ ก็ยายหลานเล่นถอดแบบนิสัยกันมาเป๊ะเลยทีเดียว
“คานทองเหรอ อีกตั้งสองปีถึงจะอายุสามสิบ ยังมีเวลา ไม่รู้จะให้รีบแต่งงานไปทำไม เผลอๆ พรุ่งนี้หรือไม่เร็วๆ นี้เราอาจจะเจอผู้ชายในสเปคก็ได้ใครจะไปรู้ แต่งงานกับนายน่านเหรอ ฝันไปเถอะ เกลียดนักไอ้คนถ่อยปากมอม” ว่าแล้วก็ปิดประตูเดินไปยังเตียงนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนพลิกตัวไปมาจนหลับไปในที่สุด