Chapter 13 แฟนหรือหุ่นยนต์ ห้ามทุกสิ่งอย่าง
ความรู้สึกอยากกลับบ้านหายไป ตอนนี้ฉันเริ่มอยากทำความรู้จักกับผู้ชายอีกคน ถ้าฉันตัดสินจากประวัติของเขาที่สำนักงานนักสืบส่งมาให้คงจะเหมือนปรักปรำเขามากเกินไป ฉันควรจะใช้ข้อมูลที่มีเริ่มต้นทำความรู้จักเขาด้วยตัวเอง
ถ้าจะนับจากประวัติที่ฉันได้จากสำนักงานนักสืบ ฉันใส่คะแนนเริ่มต้นให้คุณทวิชที่ 100 เพราะประวัติของเขาไม่มีจุดด่างพร้อยให้ฉันได้หักคะแนน แต่พอรู้ว่าเขาอาจจะเป็นสามีของเพื่อน คะแนนร้อยเต็มก็คงไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน
ส่วนหม่อมหลวงเพลย์บอยนั่นคะแนนของเขาติดลบไป 80 ผู้ชายอะไร...ไม่มีคุณสมบัติของความเป็นผู้นำครอบครัวที่ดีเลยสักนิด
“สำหรับผู้ชายอย่างคุณ -2000 ยังน้อยไปด้วยซ้ำ” ฉันบอกเมื่อนึกถึงบทสัมภาษณ์ที่แสนมั่นอกมั่นใจของเขา
ฉันกลับขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องพักของตัวเองในโรงแรม วันนี้จะทำตัวเป็นนักท่องราตรีไม่กลับบ้านสักวัน
ปลายรองเท้าส้นสูงของฉันถูกยื่นออกมานอกตัวรถ หลังจากที่ฉันใช้เวลา 1 ชั่วโมงสำหรับการอาบน้ำแต่งตัวและขับรถมาถึงที่นี่ ผับหรูในย่านทองหล่อซึ่งเป็นเป้าหมายของฉันในคืนนี้
ที่นี่เป็นผับของเพื่อนสนิทและหม่อมหลวงเทวานุพงศ์ก็มีหุ้นส่วนอยู่ แน่นอนว่าตำแหน่งหุ้นส่วนและนักท่องราตรีอย่างเขาคงจะใช้บริการสถานที่แห่งนี้มากกว่ากลับบ้าน หวังว่าฉันจะโชคดีได้เจอเขา
ตอนนี้อาจจะยังหัวค่ำเกินไปทำให้นักท่องเที่ยวในร้านค่อนข้างจะบางตา ฉันเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์และทิปให้เด็กก้อนใหญ่พอที่จะง้างปาก
“พี่รู้มาว่าคุณซันมาที่นี่ประจำ โต๊ะตรงไหนที่โดดเด่นมากพอที่เขาจะมองเห็นพี่ได้อย่างชัดเจน”
บาร์เทนเดอร์ส่งยิ้มตอบกลับให้ฉันพร้อมกับชี้มือไปยังตำแหน่ง “คุณซันมาที่นี่ทุกคืนเพราะเป็นหุ้นส่วนของที่นี่ ขอเพียงแค่พี่สวย อยู่ตรงไหนคุณซันก็เดินไปหาครับ”
‘แรง...’
“ถ้างั้นพี่นั่งตรงนี้ก็แล้วกัน” ฉันเลื่อนตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้บาร์ที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มของตัวเอง
“ขอมาการิต้า”
มาการิต้าถูกนำมาเสิร์ฟแก้วแล้วแก้วเล่า เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเป้าหมายของฉันจะเดินเข้ามาในร้าน นี่ชีวิตการเตรียมตัวสละโสดของฉันมันเฮงซวยขนาดนั้นเลยเหรอ
ฉันกระดกมาการิต้าแก้วที่ 5 ไปหมดรวดเดียวและชูนิ้วสั่งเพิ่มอีกหนึ่ง บาร์เทนเดอร์ที่รับทิปฉันไปคงรู้สึกละอายจึงทำหน้าที่ของผู้รับเงินให้มีประโยชน์มากขึ้น
“ผมว่าวันนี้คุณซันคงไม่เข้าร้านแล้วล่ะครับ พี่คงมาเก้อ อย่าดื่มเยอะเลยเดี๋ยวจะเมา”
“พี่โอเค” ฉันตอบทั้งที่ร่างกายเริ่มไม่โอเค
“พี่อยากเจอคุณซันทำไม”
“พี่อยากเป็นนางแบบ” ฉันตอบออกไปใจก็นึกขำตัวเอง ในร่างกายมีสิ่งที่จะพอจะเป็นแบบนั้นได้คือใบหน้าและส่วนสูง ส่วนรูปร่างอื่นที่จะเป็นคุณสมบัติของนางแบบไม่มีเลย
“คุณซันเป็นเสือผู้หญิงนะ การไต่เต้าเป็นนางแบบในสังกัดของคุณซันต้องเริ่มจากการปีนขึ้นขาเตียง”
“โห...น้องพูดตรงไปป่ะ” ฟังเสียงของฉันเริ่มไม่ปกติ หลังมาการิต้าแก้วที่ 5 เข้าไปอยู่ในสายเลือด
“ก็ผมเป็นห่วงพี่”
ฉันหยิบธนบัตรแบงค์พันส่งให้บาร์เทนเดอร์อีก 2 ใบ ไหนๆ ก็ไม่เจอเขา ก็ไม่ควรทำให้การมาที่นี่เสียประโยชน์เปล่าๆ
“แล้วถ้าพี่อยากขึ้นขาเตียงของเขา ต้องทำยังไงบ้างล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ ผู้หญิงคนไหนที่มาเที่ยวคนเดียวที่นี่ก็ถูกคุณซันเกี่ยวขึ้นเตียงเกือบหมดแหละ พี่คงยังไม่เคยเจอคุณซันน่ะสิ”
ฉันยกมือขึ้นป้องปากทำตาลุกวาว “ขนาดนั้นเลยหรอ แล้วผู้หญิงของคุณซันไม่หึงหวงตบตีแย่งชิงกันเองเหรอ”
“ไม่มีใครกล้าหรอกครับ คุณซันมีกฎเหล็กสำหรับผู้หญิงทุกคน ถ้าแสดงตัวคือจบ!”
“โหดมาก แล้วผู้หญิงพวกนั้นยอมเหรอ”
“ผมถึงบอกพี่ไงว่าคุณซันเป็นเสือผู้หญิง ทางที่ดีพี่อยู่ห่างๆ เขาดีกว่า”
“การเป็นนางแบบที่ผ่านเลนส์กล้องของคุณซันคือความฝันสูงสุดของพี่ ยังไงพี่ก็ต้องเจอเขา”
“ผมจะบอกเทคนิคให้ ถ้าพี่อยากให้คุณซันปั้นให้ดัง พี่ต้องทำตัวน่ารักอ่อนหวาน อย่าทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ไม่หึงหวง ไม่ก้าวก่าย และห้ามถามถึงวังสุรีรัตน์เด็ดขาด”
‘แฟนหรือหุ่นยนต์ ห้ามทุกสิ่งอย่าง’
“อ้าว! ทำไมอ่ะ”
“คุณซันจะบอกเลิกทันทีเมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนไหนตามสืบและรู้เรื่องประวัติของเขา”
“คือทำตัวเป็นตุ๊กตายางงี้เหรอ” ฉันบอกติดตลก ยิ่งได้รู้จักหม่อมหลวงคนนั้นฉันก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงที่จะเข้าใกล้เขา ฉันเกลียดผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงและไม่เป็นสุภาพบุรุษที่สุด
“ถ้าพี่ได้เจอคุณซันแล้วจะรู้เองแหละ แต่คุณซันชอบผู้หญิงประเภทเนื้อนมไข่นะพี่” บาร์เทนเดอร์ยิ้มทะเล้นและมองมาที่ฉัน
“มันก็ไม่แน่หรอกน่า” ฉันทำเป็นยิ้มตลก ทั้งที่ในใจกำลังโกรธแทบจะพ่นไฟ ทำไมจะไม่รู้ว่าหมอนั่นหลอกด่าฉัน พูดอะไรไม่สำนึกถึงเงินที่ฉันทิปไปสักนิด
“ผมก็จะรอดูเหมือนกัน พรุ่งนี้พี่จะมาหรือเปล่า”
“อะไร! นี่จะไล่กลับแล้วหรอ พี่ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะกลับ”
“กลับไปนอนเถอะพี่ เวลาขณะนี้คุณซันคงไม่มาแล้วแหละ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่
“OK” ฉันก็คิดว่าตัวเองควรจะกลับเพราะพรุ่งนี้ต้องขับรถไปที่เขาใหญ่ตอนเช้า คนที่คิดว่าตัวเองไม่เมา แต่พอลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไปกลับมีอาการเซจนต้องหาที่จับ
“คุณโอเคหรือเปล่าครับ” น้ำเสียงนุ่มกระซิบที่ข้างหู ฉันเพิ่งรู้ตัวว่ามือของฉันวางอยู่บนหน้าอกของเจ้าของเสียงนุ่ม ฉันรีบผละตัวเองออกจากเขา พยายามตั้งสติและยืนให้ตรงและกล่าวขอบคุณ
“ฉันโอเค ขอบคุณค่ะ”
ฉันไม่สนใจที่จะมองหน้าเขา ถ้าหากว่าไม่ได้ยินบาร์เทนเดอร์คนนั้นเรียกชื่อของเขาก่อน เหมือนเขาจงใจเรียกชื่อให้ฉันได้ยิน
“คุณซัน ทำไมวันนี้มาดึกจังครับ”
“แกเป็นเจ้านายฉันรึไงวะไอ้โจ๊ก”
“เปล่าครับ โจ๊กแค่แปลกใจที่เห็นคุณซันมาเวลานี้” คนตอบบอกเสียงหงอยๆ แอบเหลือบสายตามามองฉันเล็กน้อย แต่คนเดินเข้ามาใหม่กลับไม่ปรายหางตาแลแม้แต่นิด ฉันได้ยินเสียงลมหายใจของเขาพ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
“ฉันกลับวังมาน่ะสิ เอาเหล้ามาแก้เครียดซิ”
“ครับ” บาร์เทนเดอร์ที่ฉันเพิ่งรู้จักชื่อว่าโจ๊กรีบยื่นแก้วให้เจ้านายตามคำสั่งเหมือนรู้ใจ