สองปีต่อมา…
ตึก
ตึก
เสียงสองเท้าสวยของร่างบางในชุดเดรสสีสวยมีเสื้อคลุมเดินตรงเข้าไปภายในร้านเหล้าชื่อดังท่ามกลางผู้คนมากมายที่ออกมาล่าท้าราตรีในวันศุกร์
“พี่แตมป์” ดวงตาสวยที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางราคาแพงหันมองตามเสียงเรียกคุ้นเคย ก่อนจะยกยิ้มออกมา
“เบย์” ร่างบางไม่รอช้าที่จะเดินตรงเข้าไปยังรุ่นน้องคนสนิทที่วันนี้เป็นวันเกิดของหญิงสาว
"สุขสันต์วันเกิด" แสตมป์เอ่ยพร้อมกับหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ยื่นให้กับเบย์ ร่างเล็กที่เห็นก็ยิ้มกว้างในทันที
“โอ๊ยพี่ มีของขวัญให้ด้วย” เรียวปากสวยเอ่ยพลางก้มลงมองยังของขวัญจากรุ่นพี่ด้วยความชอบใจตามประสา
“แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ?”
“วาวากำลังมาพี่ มากับพี่ธาม ตอนนี้ก็มีแค่พี่กับเบย์นี่แหละ”
“โอ๊ย ธามจอมลีลาจะตาย กำลังมาน่าจะหมายถึงอีกสามชั่วโมงถึง” เสียงหวานเอ่ยหลังจากที่รุ่นน้องเธอเอ่ยถึงเพื่อนสนิทและรุ่นพี่หนุ่มที่เป็นญาติของเธอ เบย์ที่ได้ยินจึงหัวเราะ
“พี่แตมป์ก็ว่าไป”
“เรื่องจริงเลย” หญิงสาวยืนยัน ก่อนที่สองคนจะระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานและเต็มไปด้วยความสนิทสนมอยู่ไม่น้อย เพราะแสตมป์คือรุ่นพี่ที่เบย์เคารพรักเป็นที่สุด เช่นเดียวกับแสตมป์ที่ก็รู้สึกเอ็นดูรุ่นน้องต่างคณะเป็นอย่างมาก สองคนเรียนกันคนละคณะแต่บังเอิญเจอและทำให้รู้จักกัน โดยแสตมป์เป็นรุ่นพี่ปีสี่คณะบริหาร แต่เบย์กับวาวาที่กำลังมานั้นเรียนอยู่การบินปีสอง ทว่าขณะที่สองคนกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่
“พี่แตมป์ เบย์~” เสียงหวานคุ้นเคยของใครบางคนเอ่ยทั้งสองดังขึ้น แสตมป์กับเบย์จึงหันไปมองตามเสียง
“โอ๊ะ มาไวแฮะ” แสตมป์เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อหลังจากที่หันไปเห็นวาวากับธามกำลังเดินเข้ามา
“อะ พี่แตมป์ใส่ร้ายพี่ธามเขานะ” เบย์ไม่รอช้าที่จะแกล้งแหย่กระซิบพูดกับรุ่นพี่ หญิงสาวที่ได้ยินเองยังคงแสดงสีหน้าเช่นเดิมพร้อมน้ำเสียงเอ่ยตอบกลับ
“นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตฉันเลยมั้ง ที่เห็นหมอนี่มานัดเกือบตรงเวลา”
“มองอะไร” ชายหนุ่มหน้านิ่งถามยังญาติของตัวเองเสียงเรียบหลังจากที่อีกคนเอาแต่จ้องมองหน้าเขาด้วยสายตาบางอย่าง
“นึกว่าฝันอยู่”
“อะไร”
“นายมาตามนัดเร็ว” คำตอบจากหญิงสาว ทำเอาหนุ่มวิศวะปีสี่ยืนนิ่ง ก่อนจะหันไปมองยังใบหน้าเรียวใสของแฟนสาวตัวเล็กที่รอยยิ้มหวานตาหยีฉายออกมาไม่หยุด
“มีคนเร่ง…งอแง” เสียงทุ้มเอ่ย ทำให้ร่างเล็กที่ได้ยินหันไปยู่หน้าใส่อีกคน ธามที่เห็นจึงยกมือขึ้นบีบเข้าที่แก้มนุ่มด้วยความหยอกล้อแม้ใบหน้าหล่อยังคงนิ่งเรียบอยู่เช่นเคย เบย์กับสแตมป์ที่นั่งอยู่ก็มองภาพตรงหน้านิ่งด้วยความคุ้นชินแต่ก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบพูดคุยกันสองคน
“ทีเมื่อก่อนละ ปากเก่ง ทำเป็นจะทิ้งน้อง”
“จริงค่ะ ได้แล้วจบ…เบย์ยังจำที่วาวาเล่าให้ฟังได้อยู่เลย”
“วลีเด็ด…สุดท้ายต้องมานั่งเป็นจงอางหวงไข่” แสตมป์พูดพร้อมกับลอบมองไปยังญาติตัวสูงของตัวเองที่จับร่างของแฟนตัวเล็กให้นั่งลงข้างกายแนบชิดติดกับเขา อีกทั้งยังคอยเอามือโอบแสดงความเป็นเจ้าของอยู่ตลอดราวกับจงหางหวงไข่ตามที่เรียวปากสวยเอ่ย ทว่ากว่าจะได้มาเป็นจงอางอย่างเช่นตอนนี้ คู่นี้ก็ผ่านเรื่องราวมากมายมาอยู่ไม่น้อย…
“พวกมันยังไม่ถึงอีกเหรอ” อยู่ ๆ ธามก็เอ่ยถามยังเพื่อนสนิทสองคนของเขาที่ถูกชวนมาในวันนี้ขึ้น แสตมป์ที่ถูกถามก็ส่ายหน้าตอบกลับ
“ไม่รู้เหมือนกัน” ทว่ายังไม่ทันที่เรียวปากสวยจะพูดอะไรต่อ
“เฮ้” เสียงทักทายขี้เล่นของใครบางคนก็ดังแทรกขึ้นมา ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างหันไปมองตามเสียง ก่อนจะเห็นร่างสูงดูดีของชายสองคนเดินเข้ามาใหม่
"ขอบคุณที่มากันนะคะ พี่ตงตง...พี่มาร์คัส" เบย์ยิ้มขอบคุณทักทายชายหนุ่มทั้งสอง ตงตงกับมาร์คัสที่ได้ยินก็ยกยิ้มเอ่ยอวยพรวันเกิดให้กับเจ้าของวันเกิด ก่อนที่ตงตงทำท่าจะนั่งลงยังที่นั่งด้านข้างแสตมป์ ทว่า...อยู่ ๆ มาร์คัสก็แทรกตัวเข้าไปล้มตัวนั่งลงข้างร่างสวยเสียเอง ทำให้ดวงตากลมจ้องมองยังใบหน้าหล่อร้าย
"ไม่อยากนั่งริม เดี๋ยวได้ชง" ปากหนารีบเอ่ยบอก ซึ่งแสตมป์ที่ได้ยินก็ตอบกลับท่าทีติดกวน
"ก็นั่งไปสิ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร"
"ไม่ได้ว่าก็จริง แต่ท่าทีแบบนี้...คืออะไรวะแตมป์?"
"อะไร"
"ก็ไอ้ท่าทีเหมือนกวนกัน"
"นายคิดมากไปเองหรือเปล่า"
"ไม่ ก็เห็นอยู่ว่าเธอ..."
"ก็นึกว่านั่งเพราะอยากอยู่ใกล้ฉัน"
"ทำไมฉันต้องอยากอยู่ใกล้เธอ" เพลย์บอยหนุ่มหันถามยังหญิงสาวด้านข้างท่าทีไม่ยอม ร่างสวยที่เห็นแบบนั้นจึงยกยิ้มกระซิบเอ่ย
"ก็เผื่อนายคิดถึง..."
"...ครั้งแรกของฉันไง"