FOREVER รักนิรันดร์ 6

1921 Words
FOREVER รักนิรันดร์ 6 “ไปถ่ายรูปกันตรงนั้นดีไหม?” ไอริสชี้ไปยังริมหาดที่มีชุดโต๊ะเก้าอี้และร่มสนามกางอยู่ ระหว่างที่เดินไปเราสองคนก็หัวเราะคิกคักยามได้คุยกันถึงมื้อเย็นที่จะขับรถออกไปซื้อด้วยกันที่ตลาด “ต้องสนุกแน่เลยล่ะ” ไอริสที่ชอบเรื่องแบบนี้หันมาหัวเราะกับฉัน ก่อนจะเงียบเสียงไปเมื่อเห็นว่าชุดโต๊ะเก้าอี้ที่เราเล็งไว้นั้นมีกลุ่มคนเดินเข้าไปถึงพร้อม ๆ กับตัวเอง “อ้าว น้องเอม นั่งด้วยกันได้นะคะมีโต๊ะว่างเยอะเลยค่ะ” พี่แอนเอ่ยบอกกับฉันและไอริส กลุ่มคนที่เดินมาถึงโต๊ะพร้อมกับฉันคือกลุ่มลูกค้าพ่อนั่นแหละ ส่วนพ่อน่ะเหรอตอนนี้คงจะอ้อนแม่อยู่ที่ห้องพักนั่นแหละ คลั่งรักไม่มีเปลี่ยนก็พ่อฉันนี่แหละ “ขอนั่งด้วยนะคะ ตรงนี้มุมได้พอดีเลยค่ะ” ฉันเอ่ยบอกกับพี่แอนและไม่ลืมที่จะหันไปขออนุญาตเจ้านายพี่แอนด้วย “ขอนั่งด้วยนะคะ” เอ่ยบอกกับคนตรงหน้าที่กำลังจ้องฉันด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา จะมองว่าดุก็ได้เลยนะสายตาแบบนั้นน่ะ “ครับ” อีกฝ่ายบอกสั้น ๆ ฉันจึงดึงมือของไอริสไปที่ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่อยู่ริมสุดวางของแล้วก็หยิบกล้องขึ้นมาจากนั้นเราทั้งสองคนก็เดินไปถ่ายรูปตามชายหาด โขดหิน สักพักก็ชวนกันถอดเสื้อคลุมแบบตาข่ายและเปลี่ยนกันถ่ายเป็นชุดว่ายน้ำสลับกันไปมาพร้อมกับช่วยกันออกท่าทางไปด้วย “มานี่พี่ถ่ายให้” เสียงของพี่ซัมเมอร์เอ่ยบอกกับเรา เมื่อหันไปมองก็เห็นว่ามีหนุ่ม ๆ อีกสี่คนกำลังเดินเข้ามาใกล้เราสองสาว กลายเป็นว่าอุ่นใจและความสุขนั้นช่วยถ่ายรูปให้ฉันที่หาดจนกระทั่งฉันพอใจ เมื่อมีแสงพระอาทิตย์ตกยามเย็น เราก็ถ่ายรูปรวมด้วยกันโดยมีพี่แอนอาสาถ่ายให้ก่อนที่เราจะนั่งพักด้วยกันต่อที่เก้าอี้ของทางที่พัก “เย็นนี้สั่งจากทางโรงแรมเลยไหม?” พี่ซัมเมอร์ถามขึ้นมา มือก็ยื่นไปหยิบผ้าผืนเล็กมาคลุมตัวให้น้องสาวตัวเองที่กำลังก้มหน้าเช็กรูปอยู่ในกล้อง “หนูกับไอริสอยากไปเดินดูของที่ตลาดค่ะ ว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปด้วยกัน” ฉันรีบบอกพี่ซัมเมอร์ พร้อมกับขยับลุกนั่งดี ๆ เมื่อก่อนหน้านี้นั่งเอนหลังพิงกับเก้าอี้ เห็นดังนั้นอุ่นใจก็หยิบผ้ามาคลุมตักให้ฉันทันที ส่วนท่อนบนก็ยังสวมชุดว่ายน้ำอยู่ดังเดิม ไม่ได้รู้สึกเขินอายลูกค้าพ่อหรือผู้ช่วยเขาเลยสักนิด และเหมือนเขาก็ไม่ได้สนใจฉันด้วยนะเพราะเขาเอาแต่ก้มหน้าดูอะไรบางอย่างผ่านหน้าจอไอแพด “งั้นพี่จะเช่ารถให้ แต่ไม่ให้ขับเองนะ” “พี่อุ่น แต่พี่มีประชุมงานกับฝั่งสเปนนี่ตอนเย็น” ความสุขเอ่ยเตือนอุ่นใจที่เหมือนจะห่วงฉันอยู่ไม่น้อย “เค้าไปได้ตัว ไปกับไอริสไง” เอ่ยบอกพี่ชายหวังให้ลดความเป็นห่วงลงสักนิด “แต่ไอมันก็ต้องประชุมกับพี่” “เอ่อ เอาแบบนี้ไหมครับ...” ผู้ช่วยของลูกค้าพ่อเอ่ยแทรกอย่างเกรงใจ เราทุกคนเงียบและหันไปมองด้วยความสงสัยไม่น้อย ที่จู่ ๆ กลุ่มคนที่เงียบมาตั้งแต่ต้นจะเอ่ยขึ้นมาแบบนี้ “เดี๋ยวผมเช่ารถกอล์ฟขับให้ดีไหมครับเจ้านายผมก็อยากไปเดินเล่นเหมือนกัน” “เอ่อ จะรบกวนไหมครับ” อุ่นใจถามกลับอย่างเกรงใจ แต่ว่าเราไปกันเองได้นะ พี่ซัมแล้วก็ความสุขก็ขับรถได้อะ “ไม่รบกวนเลยครับ คือผมตั้งใจจะออกไปซื้อเครื่องดื่มด้วยน่ะครับ” คุณผู้ช่วยผู้ชายเอ่ยบอกพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร เหลือบสายตามองไปที่เจ้านายเขากลับเห็นเพียงความนิ่งเงียบเท่านั้น “งั้นรบกวนด้วยครับ เดี๋ยวผมจัดการเช่ารถให้เองนะครับ” “ได้ครับ” “วันนี้ห้ามขับรถเอง ให้คนอื่นขับให้เค้าไม่ได้ไปด้วยนะเอม” อุ่นใจบอกกับฉันเสียงเข้ม “แต่...” “อิ่มเอมที่นี่ซนไม่ได้นะ” เอ่ยเตือนเสียงเข้มแบบนั้นฉันก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะ “อื้อ ไม่ซน แต่พรุ่งนี้ต้องพาไปนะ” “ครับพรุ่งนี้เค้าจะพาไป พี่ซัมเดี๋ยววันนี้ขับรถกอล์ฟพาสาว ๆ ไปนะครับพี่” “ได้เลย งั้นก็ไปเปลี่ยนชุดกันไหมจะได้ออกไปซื้อของกัน” พี่ซัมเมอร์ถามทั้งฉันและไอริส “ไปเลยก็ได้ค่ะ สวมเสื้อคลุมทับก็ไม่มีอะไรแล้ว มันเย็นแล้วอะจะได้รีบซื้อรีบกลับ” ไอริสเป็นคนตอบพี่ชายตัวเอง เมื่อตกลงกันได้อุ่นใจก็ไปติดต่อขอเช่ารถตากที่พักให้เรา เสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นมาประจำกันที่รถฉันนั่งรถคันเดียวกับพี่ซัมเมอร์โดยนั่งที่เบาะด้านหลังคู่กับไอริส ส่วนความสุขนั่งที่ด้านหน้า ใช้เวลาสักพักก็มาถึงตลอดเล็ก ๆ ของที่นี่ ที่เปิดทุกวัน แอบได้ยินมาว่าทุกวันอังคารร้านที่นี่จะปิดกันเสียส่วนใหญ่ นับว่าดีมาก ๆ ที่เรามาในช่วงวันที่ไม่ใช่วันอังคารน่ะ ทั้งอาหารทะเล อาหารพื้นบ้าน อาหารตามสั่งรวมถึงของกินเล่นมากมายถูกตั้งแผงขายเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ เราเลือกซื้ออาหารทะเลแล้วให้ที่ร้านย่างให้ รวมถึงเดินไปสั่งที่ร้านอาหารเป็นเมนูกับข้าวและขอให้ทางร้านไปส่งให้ที่โรงแรมพร้อมกับบวกค่าส่งให้ด้วย ฉันและไอริสเดินซื้อของกินเล่นเสียมากมายมีน้ำปั่นมีขนมหวานและหมูปิ้งด้วยนะ ระหว่างที่หนุ่ม ๆ รออาหารทะเลที่สั่งไว้ฉันจึงขอตัวเดินแยกออกมาที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อเลือกเครื่องดื่มและขนม “โอ๊ะ!” ระหว่างที่เดินเลือกของอยู่นั้นจู่ ๆ ฉันก็ก้าวถอยไปจนกับใครสักคนและกลายเป็นฉันที่ร้องตกใจเมื่อมีมือข้างหนึ่งยื่นมาดึงตะกร้าใส่เครื่องดื่มออกจากมือฉันไปเบา ๆ ด้วยความตกใจจึงเงยหน้าไปมองเจ้าของมือข้างนั้นเตรียมจะบริภาษแต่ก็ต้องชะงักค้างไปเมื่อเห็นว่าใครที่เป็นคนดึงตะกร้าไปถือ “คุณคามิล” เอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าที่ยังคงทำหน้านิ่ง ๆ ไร้อารมณ์ “คาลน์ เรียกว่าคาลน์” คนตรงหน้าย้ำกับฉันเสียงเข้ม แววตาคู่นั้นคล้ายกับกำลังไม่พอใจที่ฉันเรียกเขาด้วยคำว่าคามิล “คาลน์เหรอคะ?” “ใช่ ต่อไปให้เรียกว่าคาลน์” เอ่ยบอกสั้น ๆ “ค่ะ คุณคาลน์จะเอาอะไรไหมคะเดี๋ยวหนูหยิบให้” “ไม่มี...” คนตัวสูงหน้าหล่อข้างกายตอบกลับมาสั้น ๆ ฉันก็ไม่ได้เซ้าซี้ หยิบเครื่องดื่มที่หนุ่ม ๆ ฝากซื้อใส่ตะกร้าจนคิดว่าเพียงพอ ก่อนจะเดินไปเลือกไวน์จากตู้ด้านหลัง รวมถึงเครื่องดื่มหวาน ๆ อีกสองสามอย่าง “ของกินเล่นไม่ซื้อเหรอ?” คุณคามิลถามฉันหลังจากที่เงียบไปตั้งแต่ครั้งนั้น ตะกร้าเครื่องดื่มถูกยกไปไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงินแล้วสามตะกร้ารวมถึงเครื่องดื่มอีกหนึ่งลังที่ถูกยกไปวางรอคิวคิดเงิน “ลืมเลยค่ะ” ฉันลืมได้ยังไงกันนะ ได้ยินคำเตือนแบบนั้นก็ไม่รอช้ารีบเดินไปหยิบขนมมาใส่ตะกร้า ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ชอบรวมถึงซื้อของโปรดไอริสด้วย อย่างเม็ดมะม่วงหิมพานต์นี่ฉันซื้อไปทั้งหมดสี่ถุงใหญ่เลยค่ะ เราสองคนชอบมากหนุ่ม ๆ เองก็ชอบเช่นเดียวกัน เวลาดื่มจะต้องมีสิ่งนี้จริง ๆ เมื่อคิดเงินเสร็จพนักงานที่คิดเงินให้ก็เงยหน้ามองเราอย่างตกใจกับราคาสินค้าที่เราจะต้องจ่าย แต่ฉันก็ส่งยิ้มบาง ๆ ส่งให้พนักงานไป ฉันรีบเปิดกระเป๋าตั้งใจจะหยิบเงินส่งให้พนักงานแต่ก็ต้องชะงักค้างเมื่อเห้นว่าคุณคามิลยื่นบัตรเครดิตส่งให้พนักงานไปเสียแล้ว “จ่ายให้ได้” เขาบอกกับฉันเสียงเบา และไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ตั้งแต่เจอกับคนตรงหน้าเรียกได้ว่าแทบจะนับประโยคที่พูดคุยกันได้เลยนะคะ เขาพูดน้อยมากจริง ๆ “ขอบคุณค่ะ” เหมือนทริปนี้จะมีคนเลี้ยงเพิ่มแล้วสิ คิกคิก ขนมและน้ำหวานต่าง ๆ ที่ซื้อวันนี้เราไม่ได้กินกันหมดในวันเดียวหรอกนะ แต่เครื่องดื่มของหนุ่ม ๆ ที่ซื้อมาคิดว่าคืนนี้น่าจะหมดหรือเผลอ ๆ อาจจะไม่พอก็ได้ แต่ไวน์ของพ่อฉันซื้อให้แล้วเพียงพอแน่นอน สี่ขวดเลยนะ ส่วนคุณคามิลและผู้ช่วยเขาน่าจะดื่มไวน์เหมือนกับพ่อนั่นแหละ แต่ถ้าจะดื่มเบียร์หรือเหล้าก็มีให้ค่ะ เพียงพอต่อทุกคนแน่นอน “อา รถพี่เต็มไปด้วยของเลยอะ” พี่ซัมเมอร์พึมพำเสียงเบาเมื่อเห็นว่าของที่ซื้อมาและมื้อเย็นของเราถูกจัดวางเสียเต็มรถกอล์ฟ “งั้นเชิญคุณอิ่มเอมที่รถเราได้ครับ” “เอ่อ...” “อย่างน้อยก็ให้คุณไอริสและคุณความสุขดูของนะครับเดี๋ยวของจะกลิ้งตกหมดนะครับ” คุณผู้ช่วยผู้ชายเอ่ยเตือน “ถ้าอย่างนั้นตัวนั่งอีกคันนะ เดี๋ยวเค้านั่งกับพี่ซัม” “ได้ เดี๋ยวคันของเค้าจะอยู่ด้านหน้า” ฉันบอกน้องชาย “ตัว นี่น้ำมะพร้าวปั่น อร่อยซื้อมาให้อีกแก้ว” ไอริสส่งแก้วน้ำแก้วใหม่มาให้ฉัน โดยที่เจ้าตัวก็มีในมืออยู่หนึ่งแก้ว ทั้งที่ตอนที่มาถึงตอนแรกเรากินแตงโมปั่นกันไปแล้ว “ขอบใจนะ เจอกันที่โรงแรม” รถกอล์ฟคันของพี่ซัมเมอร์ขับอยู่ด้านหน้า ส่วนคันของคุณคามิลและผู้ช่วยของเขาขับตามอยู่ด้านหลัง และเหมือนพี่ผู้ช่วยจะขับช้ามากกว่าปกติด้วยนะ ทางกลับที่พักก็ไม่ได้ชันอะไรแต่ทำไมถึงได้ขับช้ากันขนาดนี้ “ว่าแต่คุณเอมดื่มไหมครับเนี่ย” พี่ผู้ช่วยที่ทำหน้าที่ขับรถเอ่ยถามฉันเสียงเบา เพื่อไม่ทำให้บรรยากาศระหว่างเราเงียบจนเกินไป “ดื่มค่ะ” “ว้าว เต็มที่ทุกอย่างเลยนะครับ” “ใช่ค่ะ หนูรู้สึกว่าเกิดมาทั้งทีต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่ะ อยากกินอะไรก็จะกิน อยากเที่ยวก็จะไป เหมือนในหัวมีสิ่งที่อยากทำเยอะแยะเต็มไปหมดเลยค่ะ” ฉันตอบพี่ผู้ช่วยเสียยาวเหยียด “หึ” กระทั่งเสียงคนข้าง ๆ หัวเราะในลำคอเบา ๆ นั่น ทำให้หันไปมองอย่างสงสัยก็เห็นว่าเขากำลังมองฉันพร้อมกับยกยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยิ้ม! คุณคามิลยิ้มเป็นด้วย พระเจ้า ไม่อยากจะเชื่อเลยให้ตายสิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD