แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทำเอาร่างสูงบนเตียงขยับตัวพลิกหนี แต่ทว่าก็ต้องครางออกมาด้วยความเจ็บเมื่อร่างกายเจ็บช้ำไปทุกสัดส่วน
'เหนือฟ้า' ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองสิ่งแรกที่ตัวเขาเห็นคือเพดานสีขาว ไล่ระดับลงมาเจอทีวีขนาดกลางตั้งเด่นตรงหน้า ก่อนที่จะพลันไปเห็นร่างเล็กของผู้หญิงปริศนากำลังก้มๆ เงยๆ ทำอะไรสักอย่างในครัว
"ตื่นแล้วเหรอ" มีนาเงยหน้าขึ้นมองพร้อมรีบเดินเข้ามาดูชายหนุ่มที่พยายามลุกขึ้นนั่งพิงพนักโซฟา ดวงตาคู่คมจ้องมองเธอด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ
"นายเป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า"
เสียงหวานเอ่ยถามอีกครั้ง หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มพรางยื่นมือเล็กไปสัมผัสรอยช้ำบนใบหน้าคมคายเบาๆ
"เธอเป็นใคร" เสียงทุ้มพูดแทรกออกมา เขาขยับตัวออกห่างคนตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปดูกองเสื้อผ้าของตัวเองข้างโซฟา
"ฉันต้องถามนายมากกว่า อยู่ๆ ก็มานอนสลบอยู่หน้าบ้านฉัน"
"เอ่อ พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อย"
"อืม นายไปยืมคนพวกนั้นมาเท่าไหร่ล่ะ เขาถึงตามมากระทืบได้ เมื่อคืนฉันเห็นมีปืนด้วยนะ"
"ยืมอะไร"
"ก็ยืมเงินไง ไปกู้เงินนอกระบบมาใช่ไหมถึงโดนพวกนั้นตามมาทวงเงิน"
เหนือฟ้าคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยความงุนงง หลังถูกเธอกล่าวหาว่ามาเฟียทรงอำนาจที่รวยระดับโลกอย่างเขาเป็นยาจกหนีหนี้
"ไม่ได้ติดหนี้"
"ไม่ต้องอายหรอก ขยันทำมาหากินแล้วเอาเงินไปใช้คืนเขาเถอะ"
"เธอช่วยฉันไว้ใช่ไหม"
ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ล้มเลิกการพูดปฏิเสธแล้วให้เธอเข้าใจตามที่คาดเดาแบบนั้น เพราะเขาไม่ใช่พวกที่ชอบเล่าเบื้องหลังของตัวเองให้ใครฟังเช่นกัน ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าเหนือฟ้ายิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นเท่าตัว
"อืมใช่"
"ขอบใจมาก แล้วชื่ออะไร"
"ฉันชื่อมีนา นายล่ะ"
"เหนือฟ้า"
"บ้านอยู่ไหนเหรอ มีญาติหรือคนรู้จักไหม"
"ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม"
มีนาพยักหน้าตอบกลับ หันหลังรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองยื่นให้คนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะพยายามลุกขึ้นแล้วเดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก
"หมิง นี่ฉันเอง"
[เฮีย! ผมตามหาเฮียทั้งคืน]
"กูปลอดภัยแล้ว" ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อยหลังได้ยินเสียงร้อนรนของปลายสาย
[แล้วตอนนี้เฮียอยู่ไหน พวกไอ้ไทก้ามันล่าเฮียไม่ปล่อยแน่]
"มึงปล่อยข่าวไปหน่อยว่ากูหายตัวไป หรือบอกว่ากูตายไปแล้วก็ได้"
[เฮียจะทำอะไร]
"กูจะกำจัดมันให้สิ้นซากสักที แม่งเสือกยุ่งกับกูมากเกินไปแล้ว"
[ครับเฮีย]
เหนือฟ้าวางสายคนเป็นน้องชายเสร็จ ก็รีบสาวเท้าเอาโทรศัพท์มาคืนให้เจ้าของร่างบอบบางที่ยืนกวนแป้งในกะละมังขนาดกลางตรงหน้า
"ว่าไงคุณ ญาติจะมารับตอนไหน"
"ฉันคงกลับบ้านไม่ได้ พวกมันไปดักรอที่หน้าบ้าน"
ชายหนุ่มพูดโป้ปดออกไป นับเป็นเรื่องดีที่หญิงสาวเข้าใจแบบนั้นหากเธอรับรู้ว่าเขาเป็นถึงมาเฟียตัวอันตราย คงไม่มีทางที่จะยื่นมือออกมาช่วยอย่างแน่นอน
"อ้าว แล้วจะทำไงล่ะ"
"ขอหลบที่นี่ก่อนได้ไหม"
"จะบ้าเหรอ บ้านฉันไม่ใช่วัดนะที่อยู่ๆ จะมาขออยู่"
"พวกมันฆ่าฉันแน่ ถ้าฉันกลับไป"
"ก็เลยลากฉันมาตายด้วยงั้นสิ" มีนาพูดเถียงด้วยน้ำเสียงของความ ไม่สบอารมณ์ เธอวางมือที่กวนแป้งบนโต๊ะลงพร้อมใช้สายตาจ้องเขม็งร่างสูง
"ฉันไม่มีที่ไป" เหนือฟ้าทรุดนั่งบนเก้าอี้ มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นกุมศรีษะตัวเองที่อยู่ๆ ก็เจ็บแปลบขึ้นมา
"นายเจ็บแผลเหรอ"
"ช่วยหน่อยนะ สัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเดือดร้อน"
เหนือฟ้าได้จังหวะเห็นสายตาใจอ่อนของหญิงสาวก็ปล่อยมือที่กุมศีรษะตัวเองออก ก่อนจะหันมาจับมือเล็กเพื่อขอความช่วยเหลือ
"ฉันเป็นผู้หญิงนะ อยู่ๆ จะให้ผู้ชายมาอยู่ด้วยคงไม่ดีแน่"
"สัญญาด้วยชีวิตเลยว่าจะไม่ทำอะไรเธอ"
"แต่ว่า"
"ฉันคงไม่กล้าทำอะไรคนที่ช่วยชีวิตหรอกนะ"
"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ"
มีนาต้องสะดุ้งตกใจอย่างหวาดระแวงเมื่ออยู่ๆ ร่างสูงที่เอาแต่จับมือเธอรีบเดินไปที่โซฟา เขาหยิบเสื้อเชิ้ตบนพื้นขึ้นมาถือไว้ มือหนาพยายามหาของด้านในด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"อันนี้คือสร้อยที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิด"
หญิงสาวเอียงคอมองสร้อยคอขนาดกลางในมือของชายหนุ่ม ก่อนจะเพ่งมองจี้รูปนกอินทรีย์ซึ่งคล้ายกับรอยสักของเขาอย่างสนใจ เพชรเม็ดเล็กถึงกระนั้นกลับสว่างวาบขึ้นมา
"สร้อยทำจากทองคำขาว จี้ฝังเพชรไดมอน ฉันยกให้เธอ"
"นี่นายเห็นฉันโง่เหรอ ตัวเองติดหนี้ขนาดนั้นจะมีของมีมูลค่าแบบนี้ได้ยังไง" ร่างบอบบางยืนกอดอกพร้อหรี่ตามมองของตรงหน้าอย่างจับผิด
"ก็บอกว่าของติดตัวมาตั้งแต่เกิด คิดว่าจะกล้าขายเหรอ"
"งั้นกล้าเอามายกให้ฉันทำไม"
"ถ้าเธอยอมให้ฉันอยู่ที่นี่ ฉันให้เธอก็ได้"
มีนาขมวดคิ้วขึ้นอย่างใช้ความคิด ทั้งน้ำเสียงและหน้าตาจริงจังของชายหนุ่มไม่มีวี่แววโกหก
"ถ้าไม่เชื่อ จะเอาไปตรวจก็ได้นะ"
"ฉันเอาไปตรวจแน่"
หญิงสาวรีบฉวยสร้อยเส้นนั้นมาถือไว้ในมือ หากเป็นอย่างที่คนตรงหน้าบอกกล่าว แสดงว่าของชิ้นนี้ต้องมีมูลค่ามากไม่ใช่น้อย
"ตกลงให้อยู่ใช่ไหม" เหนือฟ้าถามย้ำอีกครั้ง แม้เขาจะนึกเสียดายกับสร้อยเส้นนั้นมากแค่ไหนก็ตาม
"อืม แต่อย่าลืมสัญญาล่ะ คอยดูนะถ้าเอาไปตรวจแล้วพบว่าเป็นของปลอม ฉันจะเป็นคนไปตามเจ้าหนี้นายมาลากตัวนายแน่"
ชายหนุ่มเค้นเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความขบขำกับประโยคขู่เช่นนั้น มาเฟียทรงอำนาจที่ใครๆ ก็ต่างพากันไม่กล้าเข้าใกล้อย่างเขา ต้องมาถูกตราหน้าว่าเป็นลูกหนี้ที่เจ้าหนี้ตามทวงเงินจนได้
.
.
.