EP.14 เขากำลังปั่นหูกันใช่ไหม

1078 Words
ดาวินีเดินกลับเข้าออฟฟิศโดยไม่ได้สนใจกลุ่มสาวโรงงานที่จับกลุ่มกันเมาท์เรื่องของเธอเลยสักนิด ไม่ใช่ว่าไม่ถือสาในคำพูดแต่เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้ยินคำเหล่านั้นเลยมากกว่า เพราะในความคิดของเธอนั้นจดจ้องอยู่เพียงเจ้าของรถที่เพิ่งวิ่งจากไปเท่านั้น และสิ่งที่เธอต้องทำอย่างเร่งด่วน! นั้นคือ หาเบอร์โทรศัพท์ของเขาและเบอร์โทรวีระยุทธให้ได้ไวที่สุด ซึ่งที่หมายนั้นคือโต๊ะทำงานของมยุรีนั่นเอง จะมีอะไรที่คนสอดรู้สอดเห็นอย่างมยุรีจะไม่รู้ โดยเฉพาะกฤปมัยนั้นก็แทบจะทำให้มยุรีดิ้นตายเพราะความหล่อของเขาไม่ใช่เหรอ ดาวินีมองมือตัวเองที่สั่นเล็กน้อยเพราะกำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รับรู้ ข้อเสียของเธอที่พยายามจะกดให้ลดน้อยลงก็คือ เวลาตื่นเต้นมือไม้มักจะสั่นจนควบคุมไม่อยู่ทุกครั้งและไอ้กิริยานี้ที่ทำให้เธอเป็นคนโกหกได้ไม่เนียน ไม่ใช่ว่าเป็นคนชอบโกหก ทว่าในชีวิตการทำงานบางครั้งการโกหกหรือการไม่พูดความจริงบ้างก็จะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวเองมากกว่าที่จะดื้อแพ่งตรงฉินจนทำให้ต้องระเห็จหางานใหม่อยู่บ่อยครั้งและครั้งนี้เธอจะผ่านมันไปได้หรือไม่ “ไอ้ดินนี่มันคงอยากจะนอนจมดินจริงๆ มั้ง แส่แหย่ขาเข้ามาไม่เลือก แม่ง! เห็นกูยอมหน่อยมันเลยกล้าผยอง” ไพโรจน์ยืนจังก้าตามองออกไปด้านนอกกระจก สิ่งที่เห็นนั้นคือ กฤปมัยกำลังสั่งพนักงานขับรถโฟล์คลิฟต์ให้เคลื่อนย้ายวัตถุดิบที่มีปัญหาเรื่องสนิมทั้งหมดออกมาเรียงไว้ที่ลานด้านหน้าโรงงาน เพื่อเตรียมให้พนักงาน QA. มาตรวจสอบสนิมก่อนส่งตัด “คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะผู้จัดการ ก็ลูกค้าเขาเป็นคนแจ้งปัญหามานี่คะ คุณดินก็คงจะต้องทำตามระเบียบ” ดวงตาวาววาบเพ่งมองไปที่ชายหนุ่มร่างสูงด้านล่าง ยามที่เขาเดินไปเดินมาช่วงขายาวๆ นั้นดูแข็งแกร่งมากมายเสียจนเธออดไม่ได้ที่จะเม้มปากด้วยความมันเขี้ยว และเสื้อเชิ้ตที่พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอกเผยให้เห็นความแข็งแรงที่ทำให้เธอจินตนาการไปถึงยามต้องใช้งาน...มันจะให้ความรู้สึกเข้มแข็งและอดทนได้มากแค่ไหน “ระเบียบบ้าบออะไรล่ะ มันสั่งให้กูยกเลิกซื้อที่นั่นทั้งหมด” “ก็ผู้จัดการคะ คุณดินเขาก็แค่...” มยุรียังคงชะเง้อมองกฤปมัยอย่างคนละเมอ โดยไม่ได้มองไพโรจน์ที่จ้องสังเกตกิริยาเธออยู่นานแล้ว “ยุรี! ไอ้ดินนั่นมันมาเป็นผัวเธอตั้งแต่เมื่อไร นี่! ผัวยืนอยู่นี่ แล่เข้าข้างกันดีนัก ทำไม! หรือไปนอนแผ่ให้มันเอามาแล้ว คนหนุ่มมันถึงใจกว่าฉันใช่มั้ย!” ฝ่ามือกระชากเส้นผมหยิกฟูแสนจะเซ็กซี่จนเธอหน้าหงายโดยไม่สนใจเสียงร้องใส่จริต ก่อนจะลากเธอให้มากองอยู่แทบเท้าโดยที่ฝ่ามือยังขยุ้มเส้นผมแน่นไม่ยอมปล่อย “ว้าย! คุณโรจน์ขา...ยุรีเจ็บนะคะ ยุรีก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้าก็เท่านั้น โธ่! ยุรีก็อยู่กับคุณโรจน์ทุกวันจะไปหาใครได้ ปล่อยนะคะ ยุรีเจ็บ นะคะ...ผัวขา...” ปากบอกว่าเจ็บทว่าแววตากลับท้าทายเหมือนจะเชิญชวนให้เขากระทำให้หนักหนามากขึ้น โดยเพราะใบหน้าที่บรรจงคลอเคลียอยู่บริเวณหว่างขาของเขา สังเกตเห็นสิ่งที่ต้องการนั้นพองโตมากขึ้นจนเธออยากที่จะกระชากอะไรๆ ที่ขวางทางนั้นออกให้หมด “เจ็บก็จัดการกับมันสิ ยุรี...” “อาหารว่างยามบ่ายนะคะ” ปากพูดทว่ามือจัดการเปิดเผยสิ่งมีชีวิตที่ตอดรับกับสัมผัสมือ ก่อนริมฝีปากสีแดงสดที่เขาชอบให้เธอทาจะสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างที่กำลังตื่นตัวรับความอ่อนนุ่มของเรียวลิ้นอย่างเต็มที่ “อืม...เดี๋ยวเย็นนี้จะพาไปกินอาหารญี่ปุ่น หวังว่าเธอคงจะชอบ” “อืม...ค่ะ ยุรีชอบ...อืม...” มยุรียิ้มอย่างเข้าใจในความหมาย ทว่าสิ่งที่เธออยากลองมากกว่านั้นกลับเป็นอาหารฝรั่งที่ใฝ่ฝันอยากให้ไพโรจน์พาเธอไปกินสักที แต่นั่นมันก็เป็นเพียงความใฝ่ฝัน แต่ตอนนี้เธอกำลังจินตนาการไปว่าอาหารไทยที่เธอกำลังตั้งหน้าตั้งตากินอยู่นี้มีผู้จัดการ QA. หนุ่มหล่อเป็นคนปรุงไม่ใช่นายไพโรจน์หมีควายตัวใหญ่ที่เธอเบื่อจนอยากจะคายทิ้งเสียเดี๋ยวนี้ “อืม...เก่งมากยุรี ฉันจะมีรางวัลให้ อืม...ยุรี...อืม...ยุรี...” เสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากห้องผู้จัดการที่เรียกมยุรีเข้าไปในนั้นตั้งนานสองนานทำให้ดาวินีรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้องมากยิ่งขึ้น คนทั้งสองกำลัง...เธอไม่ได้ไร้เดียงสาแน่ๆ แน่ใจได้เลยว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน ‘เขาอาจจะปั่นหูให้กันก็ได้ บ้า! น่ะแก ไอ้ดี้เอ๊ย! เมื่อไรเรื่องบ้าๆ นี่จะจบลงนะ หรือว่าแกต้องหางานทำใหม่อีกหน’ แม้จะคิดอย่างนั้นแต่ใบหน้าหล่อๆ ของใครบางคนที่แวบเข้ามาในความคิดก็ทำให้หัวคิ้วต้องขมวดเข้าหากัน เสียงไพโรจน์ที่ออกจะคั่งแค้นกฤปมัยอยู่มากนั้น เธอจะเก็บเอาไว้หรือบอกให้เขารู้ตัวดี เสียงรถโฟล์คลิฟต์ที่วิ่งวนไปมานั้นบ่งบอกว่าเขายังขนวัตถุดิบออกไปตรวจเช็กได้ไม่หมด ในฐานะที่เธอเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อเธอควรจะออกไปดูใช่ไหม แต่ ถ้าเธอไปแล้วใครจะเฝ้าห้องล่ะ เผื่อใครเข้ามาเจอหรือมาได้ยินเสียงสองคนนั้นกำลังบรรเลงกิจกามกันอยู่มันจะเป็นเรื่องไหมนะ และถ้าเธอไม่ออกไปดูเขาเลย เขาจะหาว่าฝ่ายจัดซื้อไม่มีน้ำใจหรือเปล่า “เฮ้อ!” ดาวินีถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นหยิบหมวกสำหรับใส่ในโรงงานขึ้นมาสวม พร้อมทั้งกระชับแฟ้มเอกสารที่ค้นข้อมูลผู้จำหน่ายตามที่เขาโทรมาแจ้งก่อนหน้านี้และเธอก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วขึ้นแนบอก ก่อนจะกดล็อกประตูห้องจากด้านในและเดินออกไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD