แค่อากับหลาน

1312 Words
หลายเดือนก่อน...  "พี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมก็พูดมาเลย" ผมถามพี่สงครามหลังจากที่เขาส่งซิกให้ผมให้เดินตามเขาออกมาผมก็เลยเดินตามมา ดูเหมือนเขามีเรื่องจะคุยกับผมแบบตามลำพังไม่ให้ใครรู้ ผมเดินตามพี่สงครามจนมาถึงสระน้ำเพราะตรงนี้มันเงียบไม่มีใครเดินผ่านเนื่องจากว่าตอนนี้มันดึกมากแล้ว อ่อผมลืมบอกไปว่าวันนี้เป็นวันเลี้ยงส่งสองแฝดนับรบกับขุนพลไปเรียนต่ออังกฤษของขวัญก็เลยจัดงานเลี้ยงแล้วก็ชวนผมกับยัยฟรังมาด้วย ผมยืนรอให้พี่สงครามพูดแต่เขาก็ไม่ยอมพูดสักทีเอาแต่ถอนหายใจอยู่นั่นจนผมรำคาญก็เลยถาม "กูจะถามมึงเกี่ยวกับเรื่องของลูกสาวกู" "พี่หมายถึงยัยข้าวเหรอ??" "แล้วมึงคิดว่ากูมีลูกสาวกี่คน ก็ต้องเป็นยัยข้าวไหมวะไอ้นี่ถามโง่ๆ" ผมลอบถอนหายใจก่อนจะถามกลับไป "พี่จะถามอะไรก็ถามมา" "กูมีคำถามที่อยากจะถามมึงมานานละแต่ไม่มีโอกาสสักที แต่มึงก็ต้องตอบกูตรงไปตรงมาห้ามโกหกเข้าใจไหม" "ถามมาสักทีเหอะ" "โอเค สิ่งที่กูอยากจะถามมึงก็คือว่ามึง....คิดอะไรกับยัยข้าวลูกสาวกูหรือเปล่า" "คิด??คิดอะไร" "ไอ้เหี้ยนี่มึงไม่เข้าใจที่กูถามเหรอ" "ใช่ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆพี่ถึงมาถามคำถามนี้กับผม" "เพราะกูเป็นผู้ชายแถมยังเกิดก่อนมึงมาตั้งห้าปีกูดูออกเวลาที่มึงมองน้องข้าวสายตาที่มึงมองมันไม่ใช่สายตาของอาที่มองหลานแต่มันเป็นสายตาของผู้ชายคนหนึ่งที่มองผู้หญิงคนหนึ่งมึงคิดอะไรเกินเลยกับลูกสาวกูใช่ไหมมึงรักลูกสาวกูใช่ไหมไอ้เฟยมึงตอบความจริงมาเดี๋ยวนี้" ".........." "ตอบดิเงียบทำซากไร" ที่ผมเงียบเพราะผมตั้งตัวไม่ทันไม่คิดว่าพี่สงครามจะถามตรงไปตรงมาแบบนี้อีกทั้งยังมองออกขนาดนั้นแแต่ผมไม่สามารถยอมรับได้ว่าผมเองก็รู้สึกกับข้าวไม่ต่างกันกับที่เธอรู้สึก ผมอายุขนาดนี้แล้วผ่านผู้หญิงมาก็เยอะทำไมผมจะไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ผมมีให้ขวัญข้าวมันคือความรู้สึกแบบไหนแบบอาหลานหรือแบบชู้สาวแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ต่างกันเกินไปไม่ว่าจะอายุการใช้ชีวิตนิสัยใจคอเราสองคนต่างกันมากผมอายุเท่าไหร่ข้าวอายุเท่าไหร่ถึงผมจะรู้สึกแต่มันก็ไม่สมควรไหมผมอายุตั้งสามสิบแปดแล้วยัยข้าวเพิ่งอายุสิบแปดอนาคตของเธอยังอีกไกลยังต้องเจอใครอีกเยอะได้เจอผู้ชายดีๆที่อายุพอๆกันกับเธอเข้ากันได้ไม่ใช่คนแก่แบบผม ในความรู้สึกของเธอผมอาจจะเป็นแค่ความผูกพันความเคยชินก็ได้ ผมยอมรับว่าผมกลัวกลัวว่าสักวันจะเสียเธอไปถ้าวันนึงเธอเจอคนที่ใช่สำหรับเธอจริงๆแล้วผมจะทำยังไงผมไม่อยากอกหักเสียใจตอนแก่หรอกนะ "เงียบทำไม หรือมึงจะปฏิเสธว่าที่กูพูดไม่ใช่เรื่องจริง" "ใช่มันไม่ใช่เรื่องจริงผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับลูกสาวพี่ ผมเห็นยัยข้าวมาตั้งแต่เด็กหรือจะตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้สำหรับยัยข้าวเธอเป็นได้แค่หลานสาวของผมเท่านั้นไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้" ผมจำเป็นต้องพูดแบบนั้นเพื่อให้พี่สงครามสบายใจเพราะคงไม่มีพ่อคนไหนอยากให้ลูกสาวของตัวเองมีคนรักอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตัวเอง "มึงแน่ใจนะ??" "อืมผมแน่ใจ" "แต่มึงดูออกมึงรู้ใช่ไหมว่ายัยข้าวรู้สึกยังไงกับมึง" ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ผมรู้สิทำไมจะไม่รู้เธอแสดงออกอย่างชัดเจนไม่มีปิดบังขนาดนั้นว่ารู้สึกกับผมยังไง "มึงยังดูออกแล้วมึงคิดว่าคนเป็นพ่ออย่างกูที่อยู่กับลูกทุกวันจะดูไม่ออกเหรอว่าลูกกูรักมึงแบบไหนอย่าว่าแต่กูเลยที่รู้ขนาดเจ้าแฝดยังรู้ทุกคนในบ้านก็รู้ถึงยัยข้าวจะไม่พูดไม่บอกก็ตาม เพราะแบบนี้กูถึงอยากรู้จากปากของมึงว่ารู้สึกยังไงกับลูกสาวกู แต่ในเมื่อมึงปฏิเสธว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับลูกสาวกูก็ไม่เป็นไร แต่กูมีเรื่องอยากจะขอร้องมึง" "พี่จะขอร้องอะไร" "กูอยากขอร้องมึงว่าต่อไปนี้มึงช่วยแสดงให้ยัยข้าวเห็นว่ามึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ ทำให้ลูกสาวกูตัดใจจากมึงให้ได้โดยเร็วที่สุดเพราะกูไม่อยากให้ลูกสาวถลำลึกมากไปกว่านี้กูทำใจไม่ได้ที่จะเห็นลูกสาวกูเสียใจยิ่งมึงเป็นรักครั้งแรก กูมั่นใจว่าลูกสาวของกุต้องผิดหวังเสียใจมากอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นมึงต้องทำให้ยัยข้าวเลิกรักมึงให้ได้ กูขอร้องมึงแค่นี้แล่ะ" "ได้ผมจะทำตามที่พี่บอกก็แล้วกัน พี่มีเรื่องจะคุยกับผมแค่นี้ใช่ไหม" "อืมแค่นี้แล่ะ" "ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวเข้าไปข้างในก่อนนะ" "เดี๋ยว" "อะไรอีก" "เอาเป็นว่ากูถามมึงแล้วนะไม่ใช่ไม่ถามแต่ในเมื่อมึงปฏิเสธว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับลูกสาวกูก็จะพยายามที่จะเชื่อ แต่กูอยากจะบอกมึงอย่างนะไอ้เฟย คนอย่างมึงอ่ะถึงจะเป็นพระเอกเล่นละครมาหลายเรื่องแต่เรื่องโกหกมึงโกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ซะนะ" "โกหกอะไรแสดงไม่เนียนอะไรของพี่" "หึมึงหลอกคนอื่นได้แต่หลอกตัวเองไม่ได้หรอกนะไอ้เฟย" "ผมจะหลอกตัวเองไปเพื่อ?? พี่อย่าอาความคิดพี่มาตัดสินผมผมบอกว่าไม่ได้คิดก็คือไม่ได้คิด" ผมพูดอย่างหัวเสียเหมือนพี่สงครามจะให้ผมยอมรับให้ได้ "โอเคกูจะยอมเชื่อที่มึงพูดละกัน ในเมื่อมึงบอกว่ามึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับลูกกูก็ดีกูก็จะได้รู้ว่ากูควรจะฝากฝังลูกกูกับมึงในฐานะอะไร" "ฝากฝังอะไร" "อาทิตย์หน้ากูกับขวัญก็ต้องเดินทางไปพร้อมเจ้าแฝดกูก็เลยจะฝากยัยข้าวไว้กับมึง" "แล้วทำไม่พาไปเรียนด้วยกันสามคนเลยล่ะทำไมถึงทิ้งยัยข้าวให้เรียนต่อที่นี่คนเดียว" "เหอะ มึงคิดว่ากูไม่พูดไม่เกลี้ยกล่อมลูกกูเหรอ กูแทบจะกราบกรานแต่ยัยข้าวไม่ยอมท่าเดียวบอกจะเรียนต่อที่นี่เพราะไม่อยากห่างกับมึง มึงคิดดูห่างพ่อห่างแม่ห่างน้องได้แต่ห่างมึงไม่ได้ เหอะกูล่ะเชื่อลูกกูเลย" "แล้วทำไมพี่ไม่บังคับล่ะพูดแบบเด็ดขาดไปเลยสิ" ที่ผมพูดแบบนี้ก็เพราะว่าถ้าข้าวไปเรียนต่อเมืองนอกกับน้องๆซึ่งก็น่าจะหลายปีมันอาจจะทำให้เธอลืมผมได้ง่ายขึ้น "มึงพูดเหมือนไม่รู้จักลูกสาวกู ไม่รู้ล่ะในเมื่อลูกกูไม่ยอมไปเพราะมึงเป็นต้นเหตุเพราะฉะนั้นมึงก็ต้องรับผิดชอบด้วยการดูแลลูกสาวของกูในฐานะ อากับหลาน" นั่นคือคำพูดของพี่สงครามที่พูดก่อนจะเดินทางไปอังกฤษ สงสารแด๊ดดี้เนอะ>
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD