“จ้ะ ยังไงดาเชื่อฝีมือจีน”
สองสาวมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม เนื่องจากชอบทำอาหารกันทั้งคู่ หลังจากทั้งสองเรียนจบด้านอาหารก็มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟ อยากทำอาหารอร่อยๆ ให้คนอื่นได้กิน
พิรันดาอมยิ้มมั่นใจ รู้ว่าจิณห์จุฑาต้องสามารถช่วยเหลือเธอเรื่องดลรวีได้และมากทีเดียว อย่างน้อยก็ช่วยสรรหาหลายอย่างที่เธออยากได้มาให้
หลังจากจิณห์จุฑาพาเพื่อนรักมาเก็บเสื้อผ้าของใช้ที่บ้านเรียบร้อยก็พาเพื่อนมาส่งที่บ้านของดลรวีอีกครั้ง
“โชคดีนะดา ถ้ามีอะไรรีบโทรหาจีนได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยจ้ะ” หญิงสาวอวยพรพร้อมโบกมือให้เพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ
“จ้ะ ต้องโทรอยู่แล้ว เพราะดายังต้องขอความช่วยเหลือจีนอีกหลายเรื่อง”
พิรันดาโบกมือให้เพื่อนไม่ต่างกัน รู้สึกว่าได้กำลังใจดีจากเพื่อนไม่น้อย แม้ว่าเธอจะตั้งใจเอาไว้แล้ว แต่ได้ตัวช่วยอย่างจิณห์จุฑา ทำให้เธอเบาใจไปกว่าครึ่ง
“งั้นจีนไปก่อนนะ”
“จ้ะ ขอบใจจีนอีกครั้ง ขับรถดีๆ นะ”
หลังจากเพื่อนขับรถไปแล้ว พิรันดาจึงกดกริ่งหน้าบ้านหลังใหญ่ ชายหนุ่มละจากงานเดินไปเปิดประตูให้ว่าที่แม่บ้านคนใหม่ที่กลับมาเร็วมาก
“เดี๋ยวจะพาไปดูห้อง ตามมาสิ”
ดลรวีช่วยหิ้วกระเป๋าให้หญิงสาวอย่างมีน้ำใจ พิรันดาแอบอมยิ้มในความเป็นสุภาพบุรุษของเขา
“น่าจะอยู่ได้นะ”
เขาผายมือให้เธอเดินเข้าไปในห้อง แต่ร่างสูงยังยืนอยู่หน้าห้อง ไม่ได้เข้าตามเธอไปด้วย
“ขอบคุณมากค่ะ ห้องสวยมาก หนูอยู่ได้ค่ะ”
พิรันดามองห้องขนาดกะรัดอย่างพึงพอใจ
“จัดของก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวค่อยออกไปพบฉันด้านนอก”
ดลรวีบอกเสียงเรียบด้วยท่วงท่าสบายๆ มือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขณะพูด วันนี้เป็นวันเสาร์-อาทิตย์คงเป็นวันหยุดงานของเขา เธอคิดในใจ หญิงสาวยิ้มให้เจ้าของบ้านอีกครั้งก่อนที่ชายหนุ่มจะผละไป เพื่อให้เธอได้สำรวจห้องและจัดการกับข้าวของให้เรียบร้อย
พิรันดามองสำรวจห้องขนาดไม่ใหญ่มากนัก มีตู้เสื้อผ้า เตียงนอนขนาดหกฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง ทีวีและพัดลมติดผนัง ห้องสะอาดสะอ้านพอสมควร หญิงสาวพึงพอใจกับห้องใหม่ของตัวเอง ก่อนจะเริ่มจัดของเข้าตู้และทำความสะอาดห้องอีกครั้ง ทุกอย่างจึงเสร็จเรียบร้อย
ร่างอรชรอาบน้ำชำระร่างกายหลังจากเข้าไปจัดการกับทุกอย่างในห้องเรียบร้อย ถือว่าโชคดีที่ห้องพักมีห้องน้ำในตัว ชายหนุ่มเอาใจใส่กับความเป็นอยู่ของลูกจ้างพอสมควร เสร็จแล้วก็แต่งตัวด้วยชุดที่เป็นผ้าถุงลายไทยกับเสื้อคอกระเช้าที่เธอเอาติดมาด้วย
เธอมองสำรวจตัวเองในกระจกแล้วอดขำเสียมิได้ เสื้อผ้าพวกนี้ดูตลกดี ทั้งผ้าถุงที่เธอต้องลองใส่อยู่หลายครั้งกับเสื้อคอกระเช้าสีสันชวนแสบตา แต่จะว่าไปก็ใส่สบายอยู่มากโข
พิรันดาลอบสังเกตชายหนุ่มที่นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอไม่กล้าเรียกเพราะกลัวจะเป็นการรบกวน แต่เพราะความรู้สึกเหมือนมีคนมอง ทำให้ดลรวีผละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เหลียวมองรอบกาย
“มาแล้วเหรอ เดี๋ยวฉันจะพาไปสำรวจในบ้าน นอกบ้าน แล้วก็ห้องครัว ตามมาสิ”
พิรันดาลอบสังเกตชายหนุ่มนิ่งๆ ร่างสูงของดลรวีพาเธอไปสำรวจทั้งภายในบ้านและภายนอกบ้าน ก่อนจะพามายังห้องครัวเป็นลำดับสุดท้าย
“นี่อุปกรณ์ทุกอย่างในห้องครัว”
ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบๆ ผายมือไปรอบห้องครัวให้หญิงสาวได้มองข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ครบครัน วางเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอยังจำได้ว่าดลรวีเป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบสะอาดสะอ้าน เพราะตอนเด็กๆ เธอชอบมากวนเขาในห้องครัวเป็นประจำ พี่ดลคนดีจะสอนให้เธอทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ
เขาเป็นคนละเอียดลออสุภาพเรียบร้อย แต่เวลาโมโห น่ากลัวอยู่มาก จนไม่มีใครกล้า
ดลรวีมองว่าที่แม่บ้านคนใหม่ที่กำลังสำรวจห้องครัวกว้าง อดกวาดสายตามองเสื้อคอกระเช้าที่หญิงสาวสวมใส่เสื้อไม่ได้ มันดูไม่เข้ากับเธอเลยแม้แต่น้อย ยังนึกสงสัยว่าหญิงชาวบ้านธรรมดาอยู่ต่างจังหวัด เหตุใดจึงมีผิวขาวเนียนละเอียดอมชมพู รูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม คล้ายลูกคุณหนูที่มีอันจะกิน ซึ่งไม่เข้ากับคำพูดของหญิงสาวที่บอกว่ามาจากสระแก้วครอบครัวยากจน หมู่บ้านกันดารเลยสักนิด
เขาเผลอมองเธออยู่นานก่อนจะหลุดจากภวังค์เมื่อคนที่ถูกลอบมองหันมาหาเขาพอดี
พิรันดาตะแคงคอน้อยๆ มองชายหนุ่มตาใสเมื่อจับได้ว่าเขาลอบมองเธออยู่ก่อนแล้ว
“มีอะไรสงสัยจะถามไหม”
ดลรวีถามว่าที่แม่บ้านเสียงเรียบติดจะขรึมเล็กน้อย เมื่อถูกจับได้ว่าแอบมองเธออยู่นานแล้ว
... แต่ใบหน้ายิ้มแย้มแล้วมองเขาตาใสไม่กะพริบ ทำให้ชายหนุ่มนึกเอ็นดู
พิรันดาส่ายหน้าไปมาเพราะเธอเคยชินกับเครื่องไม้เครื่องมือในห้องครัวเป็นอย่างดี
แม้หญิงสาวจะไม่มีอันใดซักถาม แต่ดลรวียังมีแก่ใจอธิบายวิธีการใช้อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ที่เก็บอยู่ในตู้ให้หญิงสาวฟัง
พิรันดารับฟังโดยดี ไม่โต้แย้งอันใด เนื่องจากเธอบอกเขาว่ามาจากสระแก้วดังนั้นอุปกรณ์ทันสมัยมีราคาแบบนี้เขาคงคิดว่าเธอใช้ไม่เป็น
หนุ่มหล่อไม่ได้คิดว่าเธอจะใช้เป็นหรือไม่เป็นแต่อยากอธิบายให้ฟังก็เท่านั้น เป็นการเผื่อเอาไว้ เพราะก่อนมาเป็นแม่บ้าน พลคงคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี ไม่งั้นคงไม่ส่งมาให้เขาแน่นอน
“ฉันไม่ชอบทานเผ็ด ไม่ชอบอาหารรสจัดทุกชนิด แต่ฉันเป็นคนทานง่าย เธอบอกว่าทำอาหารได้ทุกชนิด ลองทำอาหารเย็นแล้วกัน ฉันจะรอทาน หากมีปัญหาอะไรก็ให้บอก ฉันทำงานอยู่ในห้องนั่งเล่น ถามได้ตลอดเวลา”
คำพูดเอื้อเฟื้อของเขาทำให้เธออบอุ่นใจ ฉีกยิ้มกว้างให้ทันที ลักยิ้มข้างแก้มทำให้เขาตาพร่าเล็กน้อย จนเผลอยิ้มตอบด้วยความเผลอไผล
“ค่ะ” พิรันดารับคำพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มไม่คลาย
ดลรวีตีสีหน้าเรียบขรึมเมื่อรู้ตัวว่าเผลอยิ้มตอบกลับไป ก่อนก้าวถอยหลังออกไปทำงานทันที
เมื่อคล้อยหลังร่างสูงใหญ่ของเจ้านายหนุ่มไปแล้ว เธอจึงเริ่มลงมือเปิดตู้เย็นดูอาหารสดแล้วคิดเมนูรสเด็ดทำให้เขาลองชิม กลิ่นอาหารที่ลอยอบอวลออกมาจากห้องครัวทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านนอกถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความหิว น้ำย่อยเริ่มหลั่งออกมาจากกระเพาะมากขึ้น
แม้เขาจะถูกใจหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น แต่การทดสอบเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ หากเธอทำอาหารไม่เป็นสับปะรดเขาคงทนกินไม่ลงเป็นแน่
“อาหารเสร็จแล้วค่ะคุณดล จะให้ตั้งโต๊ะเลยไหมคะ”
แม่บ้านหุ่นอรชรออกมาจากห้องครัวถามเจ้าของบ้านด้วยสำเนียงแปร่งๆ เหน่อๆ เช่นเดิม
ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเองหันไปมองร่างที่เดินมาหยุดยืนใกล้ๆ เสื้อคอกระเช้าที่เธอใส่ช่างวับๆ แวมๆ ดีแท้ แล้วการที่เขาต้องอยู่ตามลำพังกับแม่บ้านสาวๆ แบบนี้มันจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ แม้ปกติจะต้องออกไปทำงานหรือประชุมบ่อยครั้ง แทบอยู่ไม่ติดบ้านก็ตาม แต่เวลาส่วนตัวเสาร์-อาทิตย์ เขาไม่เคยออกไปไหนนอกจากพักผ่อนอยู่บ้าน ชายหนุ่มคิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ เขาปลอบตัวเองในใจ เมื่อชักเริ่มหวั่นไหวแปลกๆ กับสาวน้อยตรงหน้า
“เอาสิ ฉันก็เริ่มหิวแล้ว”
เขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต หญิงสาวจึงเริ่มจัดโต๊ะอาหารอย่างคล่องแคล่ว เขามองว่าที่แม่บ้านจนเพลิน เมื่อเห็นทุกอย่างเรียบร้อยจึงเดินมายังโต๊ะอาหาร
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมที่เห็นอาหารตรงหน้า เขามองอาหารสลับกับคนปรุงด้วยความฉงน ไม่คิดว่าเธอจะทำอาหารได้หน้าตาน่าทานขนาดนี้ แถมกลิ่นหอมกรุ่นโชยไปทั่วบริเวณ แม้จะเป็นเมนูอาหารง่ายๆ ก็ตามที
“เธอทำอาหารได้น่าทานมาก”
ดลรวีก้มมองอาหารที่จัดเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว ต้มมะระยัดไส้หมูสับ ปลาทับทิมนึ่งซีอิ๊ว ยำสาหร่ายปูอัด ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูเพื่อสุขภาพทั้งสิ้น