1

1464 Words
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้ร่างสูงของดลรวีผละจากอาหารที่นำออกมาจากเตาไมโครเวฟ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ใครกันนะมากดกริ่งตั้งแต่เช้าแบบนี้” ร่างสูงใหญ่ประมาณร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตรของของดลรวี อาร์เทอร์ ภูมิพิพัฒน์ หนุ่มหล่อเลือดผสมไทย-สเปนเดินไปเปิดประตูบ้านอย่างไม่เร่งรีบ หลังจากเขาส่งข่าวให้พลผู้เป็นเพื่อนรักหาแม่บ้านคนใหม่ให้มาแทนคนเก่าที่แต่งงานแล้วย้ายตามสามีไป ข่าวคราวยังเงียบหายเพราะยังไม่ได้การตอบรับจากเพื่อนเลยแม้แต่น้อย เขาจึงยังต้องทำอาหารทานเองและจ้างคนมาตัดหญ้า ตัดแต่งต้นไม้ รวมถึงทำความสะอาดบ้านแทนแม่บ้านที่เพิ่งลาออกไป ดลรวีเปิดประตูบ้านก็เจอกับหญิงสาวร่างบอบบาง รูปร่างหน้าตาสะอาดหมดจด ผิวขาวเนียนอมชมพู ผมยาวสีดำสนิทผูกไว้เป็นหางม้า หน้าตาจิ้มลิ้ม ริมฝีปากสีแดงเป็นรูปกระจับ จมูกโด่งสวย ดวงตากลมโต คิ้วโก่งเรียวงาม แก้มระเรื่อตามธรรมชาติ แม้ร่างจะอรชรแต่เขาสัมผัสถึงความอวบอิ่มของเรือนร่างสาว สิ่งที่ขัดสายตาของเขาเป็นที่สุดก็คงจะเป็นเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ หญิงสาวใส่เสื้อยืดสีแดงสดกับผ้าถุงลายไทย เขาอดอมยิ้มไม่ได้ แทบจะหลุดหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ เพราะดูยังไงก็ไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด หลังจากสำรวจเรือนร่างของคนตรงหน้าจนพอใจ ชายหนุ่มจึงกระแอมเบาๆ เรียกสติให้กับตัวเองมากกว่าจะเตือนคนตรงหน้า เพราะคนที่เผลอมองสำรวจสาวน้อยตรงหน้าจนถ้วนทั่วคือเขาเองต่างหาก และดูเหมือนว่าเธอกำลังมองเขาไม่วางตาเหมือนกัน ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย ตาโตใสแจ๋วกลมแบ๊วของคนตรงหน้า เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทำให้เขาชะงักงัน ดลรวีรู้สึกว่าหญิงสาวกำลังมองเขาเหมือนสำรวจด้วยความสนใจ “มาหาใครครับ” เขาพูดเสียงสุภาพติดจะขรึม รู้สึกว่าเธอคุ้นหน้านัก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก สงสัยช่วงนี้เขาคงทำงานหนักไปหน่อย สมองอันชาญฉลาดและสามารถจดจำสิ่งต่างๆ รอบกายได้ดีแม้คนที่เพิ่งเห็นหน้ากันเพียงครั้งเดียวกลับทำงานไม่มีประสิทธิภาพดังเดิม พิรันดา กิติคุณทรัพย์สาวน้อยวัย 22 ปี มองสบสายตาของชายหนุ่มในดวงใจด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ เขายังหล่อเหลาทรงเสน่ห์อบอุ่นดังเดิม โอ้... พี่ดลของเธอ กี่ปีๆ ก็ยังหล่อกระชากใจ แถมดวงตาคมกริบคู่นี้ช่างทรมานหัวใจของเธอให้เต้นแรงเหมือนมีใครมาเขย่าให้มันสั่นไหวแทบกระเด็นกระดอนออกมานอกอก “หนูเป็นแม่บ้านที่คุณพลส่งมาค่ะ” หญิงสาวตอบเขาสำเนียงแปลกๆ เหน่อๆ เหมือนพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด ทำให้ดลรวีเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนคลายออกด้วยความสงสัย พิรันดาสะกดกั้นความดีใจเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจ หลายปีแล้วสินะที่เธอไม่ได้เจอเขาเลย เขาจะยังจำเธอได้อีกไหมหนอ พี่ดลจำน้องดาตัวอ้วนกลมของพี่ดลขา... ได้อีกหรือเปล่าคะ “แม่บ้านที่พลหาให้รึ งั้นเชิญเข้ามาในบ้านก่อนสิ” เจ้าของบ้านผายมือเชื้อเชิญเข้าไปในบ้าน แปลกใจว่าเหตุใดพลถึงไม่ส่งข่าวคราวมาบอกก่อน แต่กลับส่งแม่บ้านมาให้เขาเลยแบบนี้ หรือแทนที่เพื่อนรักจะเป็นคนพาแม่บ้านมาส่งด้วยตัวเอง ...แต่คิดไปอีกทางเพื่อนคงงานยุ่งก็เป็นได้ ดลรวีเปิดประตูบ้านเดินนำหญิงสาวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่     พิรันดากวาดสายตาดูบ้านของเขาเพื่อสำรวจความเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ดังเช่นที่เธอเคยมาตอนเด็กๆ ทุกมุมของบ้านล้วนเก็บความทรงจำเอาไว้ให้รำลึกถึงเสมอ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับมาให้เธอรำลึกถึงในห้วงคำนึงอีกครั้งเมื่อกวาดสายตามองไปรอบกาย เธอเห็นภาพดลรวีกำลังอุ้มร่างป้อมๆ ติดจะอ้วนของเธอเมื่อสมัยเด็กๆ แล้วเขาก็โยนร่างเด็กหญิงตัวกลมขึ้นเพื่อหยอกเย้า ก่อนจะจับร่างเธอหมุนไปรอบกายพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ประสานกันอย่างความสุข ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะคลายออกเมื่อเห็นแม่บ้านที่เพื่อนส่งมานั่งบนโซฟาในห้องรับแขก เขาไม่ได้คิดจะแยกฐานะชนชั้นทางสังคม แต่รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าจะไม่ค่อยรู้ธรรมเนียมเท่าใดนัก ดลรวีกระแอมสองสามครั้งเป็นการเตือน มองว่าที่แม่บ้านตรงหน้านิ่งๆ ด้วยสายตาคมกริบคราแรกหญิงสาวทำหน้างุนงง ก่อนจะรู้ตัวว่าเธอนั่งผิดที่จึงรีบทรุดนั่งลงกับพื้น พิรันดาลอบผ่อนลมหายใจเบาๆ เมื่อเห็นสายตาว่าที่เจ้านายมองมาอย่างตำหนิติเตียน สายตาเข้มสีเทาฟ้ามองหน้าคนที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นพรมนิ่ง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยุ่งมากขึ้นเนื่องจากยิ่งมองเธอเท่าไหร่ เขายิ่งคลับคล้ายคลับคลามากเท่านั้น เหมือนเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน แต่เขากลับคิดไม่ออก ยิ่งคิดยิ่งเบลอหนัก เลยโทษว่าตัวเองคงทำงานหนักไป “เธอเป็นคนที่นายพลส่งมาเหรอ แล้วชื่ออะไรล่ะ” ดลรวีเริ่มถามประวัติว่าที่แม่บ้านที่เพื่อนรักส่งมา สลัดความสงสัยออกไปจากสมอง “ชื่อดาวค่ะ” สำเนียงแปร่งๆ พูดไทยไม่ค่อยชัดนั้นทำให้ดลรวีนึกขัดหูเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย “อืม.. ชื่อดาวเหรอ ถ้าเธอเป็นคนที่นายพลส่งมา คงไม่ต้องสอบถามอะไรมาก เพื่อนฉันคงคัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะรับเธอเข้าทำงานเลยหรอกนะ” แม้จะใจดีที่ได้แม่บ้านเสียที แต่ชายหนุ่มอยากทดลองงานแม่บ้านคนใหม่เสียก่อน เขาต้องการความเป็นส่วนตัว ... และที่สำคัญไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตมากนัก ในคราแรกคิดว่าเพื่อนรักจะส่งแม่บ้านวัยกลางคน หรือเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ แต่คนที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นพรมดูหน้าตาท่าทางยังเด็กนัก เขาคำนวณอายุคงประมาณยี่สิบต้นๆ ไม่ขาดไม่เกิน ดลรวีลอบผ่อนลมหายใจเล็กน้อย เขาคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าคงทำงานได้ไม่นาน และไม่แน่ใจว่าจะทำงานบ้านอะไรเป็นบ้าง แต่ยังไงก็ต้องพิสูจน์กันอีกทีว่ามีดีอะไร เพื่อนรักถึงได้ส่งแม่บ้านคนนี้มาให้เขา “อ้าว...” พิรันดาเผลออุทาน แต่พอปะทะกับสายตาคมที่ติดจะดุก็ก้มหน้างุด นึกค่อนขอดในใจที่เขาทำท่าทางเจ้าระเบียบเหมือนเดิม เขาจะเป็นแบบนี้กับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่กับพี่ชายและเธอ ดลรวีมักยิ้มแย้มเป็นกันเอง “เอาเป็นว่าฉันจะให้เธอลองพิสูจน์ความสามารถเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ นายพลคงบอกรายละเอียดกับเธอคร่าวๆ แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่เดี๋ยวฉันจะบอกเธออีกครั้งเพื่อเป็นการย้ำให้ตระหนักในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เวลาหนึ่งอาทิตย์ถือว่าเป็นการทดลองงาน หากผ่าน... ฉันถึงจะรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งแม่บ้าน แต่ถ้าหากไม่ผ่าน จะจ่ายค่าแรงหนึ่งอาทิตย์ที่เธอมาทำงานให้เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบจนเกินไป และฉันคงต้องหาคนใหม่” ... คำพูดของชายหนุ่มทำให้พิรันดาลอบยิ้ม ไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถของเธออยู่แล้ว เรื่องแค่นี้ง่ายมาก แต่พี่ดลของเธอยังเนี๊ยบเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ดีที่เธอกลับมาทัน ไม่งั้นเขาคงชิงมีแม่บ้านตัดหน้าเธอไปก่อน “ค่ะ จะให้หนูเริ่มงานวันไหนคะ” พิรันดาแทนตัวเองว่าหนูเพราะเป็นความเคยชิน ประกอบกับอายุของเธอห่างจากเขาเกือบสิบสองปี แม้ชายหนุ่มจะสะดุดกับคำเรียกแทนตัวเองว่า “หนู” แต่ดูจากหน้าตาท่าทางคงอายุยังน้อยอยู่ เขาจึงไม่คิดจะถือสาปล่อยให้เธอเรียกตามสบาย ไม่อยากบังคับทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจอะไรมากนัก “วันนี้เธอสะดวกหรือเปล่า ยังไงเธอต้องย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน” เขาถามเสียงเรียบ ยังสำรวจเธอไม่คลาดสายตา แต่เป็นไปอย่างสุภาพมากกว่าจะจาบจ้างหยาบคาย 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD