“อ๊าย...พี่เดชอย่า...หยุดนะ...อูย”
คนางค์เสียวจนตัวสั่น ปลายลิ้นของไอ้เดชตวัดรัวขึ้นมาถึงเม็ดกระสัน ทำเอาน้ำเสียวแตกซ่าน
“ฮึก...”
ริมฝีปากของคนางค์เม้มแน่น กัดฟันข่มสีหน้าทรมาน อดทนให้ไอ้เดชทั้งดูดทั้งเลียร่อง จนน้ำคาวสวาทแตกออกมาอาบชุ่มลิ้นของมัน
“มันน่านัก...โห...รูเอ็งฟิตแน่นดีจัง ตั้งแต่ผัวตายเอ็งยังไม่โดนใครเอาเลยใช่ไหม วันนี้ขอกระแทกหนักๆ สักทีเถอะวะ”
ไอ้เดชรู้ว่ารูเนื้อนุ่มแน่นก็เพราะมันสอดนิ้วคว้านจนน้ำเยิ้ม สุดจะทานทนได้อีกต่อไป มันรีบช้อนท่อนเนื้อยาวใหญ่ขึ้นมารูดบีบส่วนหัวแดงก่ำเพื่ออุ่นเครื่องพร้อมจู่โจม
ทว่าในขณะที่กำลังส่ายเสียดส่วนหัวของแท่งเอ็น เตรียมจะเสียบลงในรอยแยกของกลีบเนื้อเยิ้มฉ่ำ ยังไม่ทันได้กระหน่ำให้มิดดุ้นดั่งใจหวัง เสียงร้องเรียกที่ดังอยู่หน้าห้องน้ำก็ทำให้กิจกรรมทุกอย่างมีอันต้องชะงัก
“แม่จ๊ะ...อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่าจ๊ะแม่”
พลอยขวัญกลับมาแล้ว เป็นเสียงของหล่อนจริงๆ
“อยู่จ้ะอยู่”
เสียงขานรับของคนางค์ทำให้ไอ้เดชรู้ว่าหล่อนไม่เล่นด้วยแน่ๆ ไม่งั้น คนางค์จะต้องนิ่งเงียบ...ยอมให้เสียบจนเสร็จ
เพราะกลัวว่าเรื่องจะรู้ถึงหูป้าแดงเมียแก่ขี้บ่นของมัน ไอ้เดชจึงรีบคว้าผ้าขาวม้าขึ้นมานุ่ง แล้วแหวกแผ่นสังกะสีด้านหลังห้องน้ำ มุดหายออกไปในความมืด
ไอ้เดชรู้ทางหนีทีไล่ในบ้านนี้เป็นอย่างดี เพราะว่าทุกวันนี้มันคอยดูแลงานซ่อมแซมทุกๆ อย่างในบ้านเช่าแห่งนี้ ทำให้รู้ดีว่าตรงไหนมีรอยรั่วรอยโหว่ หลายห้องที่มีถ้ำมอง...ก็เพราะมันแอบเจาะเอาไว้
“เสียงอะไรจ๊ะแม่”
พลอยขวัญรู้สึกตกใจ ได้ยินคล้ายเสียงคนงัดแผ่นสังกะสีหลังห้องน้ำ
“เปล่าจ้ะ”
คนางค์พยายามควบสุ้มเสียงให้ฟังดูเป็นปกติ รีบล้างเนื้อล้างตัว คว้าผ้าถุงมานุ่งกระโจมอกแล้วเปิดประตูออกมา ถ้าพลอยขวัญมาช้าอีกนิดมีหวังหล่อนเสร็จไอ้เดชแน่ๆ
เหตุการณ์เมื่อครู่คนางค์ยอมรับว่าตัวเองหวามไหว แม้จะไม่เคยมีใจให้ไอ้เดชมาก่อน แต่การจู่โจมโลมเล้าแบบถึงลูกถึงคนจนไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ทำให้หล่อนกระเจิงได้เหมือนกัน
คนางค์รู้ว่ามันเป็นผลพวงมาจากอารมณ์เหว่ว้าที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน เพราะความต้องการทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ ทุกคนย่อมมีความต้องการด้วยกันทั้งนั้น
และชีวิตแม่ม่ายผัวตาย...ทำให้หล่อนห่างเหินจากเรื่องพรรค์นี้มานาน ครั้นเมื่อโดนปลุกเร้าเร่าร้อนถึงเนื้อถึงตัว ก็ทำเอาอ่อนระทวยจนเกือบเสียท่าอย่างที่เห็น
วันรุ่งขึ้น
เมื่อพาลูกสาวย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเจ้าสัวธนา
“โห...บ้านใหญ่อย่างกับวัง...เจ้าของบ้านคงรวยมากนะแม่”
พลอยขวัญกล่าวกับมารดา รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตอลังการของคฤหาสน์หลังนี้ ขนาดเรือนคนใช้ที่ป้าชื่นบอกว่าเป็นที่พักของหล่อนกับมารดา ก็ยังมีสภาพน่าอยู่และกว้างขวางกว่าบ้านเช่าที่เคยอยู่
“ห้องนี้ของคนางค์...”
ป้าชื่นผลักประตูเข้ามาในห้องแรก เรือนหลังนี้มีสองห้องติดกัน
“ส่วนเอ็งพักห้องนี้นะ”
ป้าชื่นหันมาบอกหญิงสาว
“ค่ะป้า”
พลอยขวัญตอบ
“อันที่จริงให้ฉันกับลูกพักด้วยกันก็ได้นะจ๊ะ...จะได้ไม่ต้องเปลืองห้อง”
คนางค์รู้สึกเกรงใจ
“ไม่ได้...”
ป้าชื่นส่ายหน้า หล่อนรู้ว่าเพราะอะไรถึงต้องแยกสองแม่ลูกให้นอนกันคนละห้อง
“ฉันเกรงใจจ้ะป้า”
คนางค์กล่าว
“บ้านหลังนี้ใหญ่ยังกับวัง...มีห้องเยอะแยะไปหมด เอ็งไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น ระหว่างอยู่ที่นี่ก็ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด”
“จ้ะป้า...ฉันสัญญาว่าจะขยันทำงานทุกอย่าง”
คนางค์ดีใจที่ได้พาลูกสาวหลุดพ้นมาจากบ้านเช่าซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากสลัม
“งานของเอ็งคือดูแลรับใช้คุณท่านที่เรือนใหญ่”
ป้าชื่นกล่าว
“ค่ะป้า...แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างจ๊ะ”
คนางค์สงสัย
“ก็ทุกอย่างที่คุณท่านใช้...ตามใจคุณท่านแล้วจะดีเอง...จำไว้”
ป้าชื่นกล่าวเป็นนัยๆ เมื่อเห็นว่าพลอยขวัญเดินออกมาหิ้วกระเป๋าสัมภาระนำมาจัดเข้าห้อง
“สวยๆ อย่างเอ็งงานไม่หนักหรอก...”
อันที่จริงป้าชื่นอยากจะบอกว่าถ้าเอ็งฉลาดก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเลื่อนฐานะขึ้นมาจากคนใช้ เพราะดูท่าทางก็รู้ว่าเจ้าสัวธนาชอบคนางค์ ไม่งั้นคงไม่กล้าหักหน้าเมียใหญ่ที่ไม่ยอมรับคนางค์เข้าทำงานตั้งแต่แรก
“เย็นๆ วันนี้คุณเสือคงกลับมาถึง...ลุงดำกำลังไปรับ ตอนแรกคุณท่านว่าจะไปรับเองแต่ติดงานกะทันหัน”
“คุณเสือเป็นใครคะป้า”
พลอยขวัญสงสัยว่าใครคือ ‘คุณเสือ’ ที่ป้าชื่นเอ่ยถึง
“อ๋อ…คุณเสือเป็นลูกชายคุณท่านกับเมียแรก...คุณเสือมีชื่อจริงว่า ‘พยัคฆ์’ ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษหลายปี ตอนนี้เรียนจบแล้วเลยกลับมาช่วยงานเจ้าสัว”
“ชื่อเสือ...น่าจะดุเหมือนเสือนะคะ” พลอยขวัญกล่าว
“เดี๋ยวได้เห็นก็รู้เองแหละ”
ป้าชื่นกล่าวทิ้งเอาไว้ให้พลอยขวัญสงสัย
“ถ้าจัดข้าวของเข้าห้องเรียบร้อยแล้วเอ็งลงไปช่วยงานป้าในครัวนะ”
ป้าชื่นบอกกับคนางค์
“ขวัญอยากช่วยค่ะ...มีอะไรให้ขวัญทำบ้างคะ”
หญิงสาวอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์
“คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของคุณเสือ...เอ็งได้ช่วยแน่ๆ นังหนู...แขกราวๆ สิบกว่าคน เพื่อนๆ ของคุณเสือทั้งนั้นแหละ”
ป้าชื่นกำลังต้องการคนคนเสิร์ฟอาหารพอดี เพราะวันนี้เพื่อนๆ ของพยัคฆ์มากันหลายคน
ในตอนใกล้ค่ำของวันเดียวกันนั้น
เมื่อรถตู้สีขาวคันใหญ่ที่มีลุงดำเป็นคนขับมาจากสนามบินแล่นเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ พยัคฆ์ที่นั่งอยู่ข้างในก็รู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นแสงไฟเรืองไสวประดับตกแต่งเอาไว้ในบ้าน จะว่าคริสต์มาสก็ยังไม่ถึงเทศกาล
“เฮ้...ยินดีต้อนรับไอ้ลูกชาย”
เจ้าสัวธนาตะโกนทักทายเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรของพยัคฆ์ก้าวลงมาจากรถตู้
“หวัดดีครับป๋า...จัดงานอะไรกันครับ”
พยัคฆ์ยิ่งแปลกใจขึ้นไปอีก ก่อนจะเหลือบไปเห็นงานเลี้ยงซึ่งจัดเตรียมเอาไว้ที่กลางสนามหญ้า ด้วยไม่รู้ว่าบิดาจะเซอร์ไพรส์
“ก็งานเลี้ยงต้อนรับแกน่ะสิ”