บทที่ 1 : พ่อของลูก 1

1168 Words
ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ของคฤหาสน์หรู ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย สาวงามนามว่าโรสศิริน ปล่อยผมยาวประบ่าทัดหูไว้ข้างหนึ่ง เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่ที่มีเครื่องหน้าประกอบไปด้วยคิ้วโค้งงาม ดวงตาคมสวย ขนตายาวงอน จมูกเชิดรั้นนิดๆ เติมเต็มทุกสัดส่วนบนใบหน้าให้ลงตัว แลดูอ่อนเยาว์ราวกับสาวแรกรุ่น แม้ว่าปีนี้เธอจะเข้าสู่วัยสามสิบปีบริบูรณ์แล้วก็ตาม นอกจากเธอจะมีใบหน้าที่งดงามสะดุดตาแล้วยังมีผิวขาวอมชมพูสวยน่าสัมผัสเป็นทุนเดิม โดยไม่จำเป็นต้องพยายามประโคมโลชั่นบำรุงผิวให้มากมาย และเสียเวลาอย่างที่สาวสวยหลายคนพยายามทำกัน หญิงสาวเรียงภาพถ่ายของนายแบบหนุ่มหุ่นกำยำเกือบร้อยภาพลงบนเตียงกว้าง หลังจากที่ให้พี่เลี้ยงสาวตัดมาจากนิตยสารหลายเล่ม เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในครั้งนี้ของเธอ ดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองไปทีละภาพอย่างใช้ความคิด กระทั่งมือเล็กได้หยิบรูปของนายแบบหนุ่มหล่อคนหนึ่งขึ้นมาดู หญิงสาวใช้สายตาเพ่งมองอย่างพินิจพิจารณาราวกับกำลังค้นหาจุดบกพร่องของชายในภาพอยู่พักใหญ่ “นายแบบหนุ่มชาวอิตาลี สูง 167 เซนติเมตร น้ำหนัก 80 กิโลกรัม สัดส่วน รอบอก 39 รอบเอว 36 รอบกล้มแขน 17” เสียงหวานพึมพำเบาๆ ขณะกวาดสายตามองรายละเอียดของตัวหนังสือประกอบรูปภาพ ใบหน้างามระบายยิ้มอ่อนอย่างพึงพอใจ เมื่อเธอสามารถตัดสินใจเลือกได้แล้ว “พี่พิมพ์คะ โรสเลือกนายแบบคนนี้ค่ะ” หญิงสาวบอกกับพี่เลี้ยงสาวรูปร่างผอมบางพร้อมส่งรูปที่เธอเลือกให้พี่เลี้ยงดู แต่พิมพ์แขเพียงปรายตามองภาพแวบเดียวแล้วก็ทำตาละห้อยเพราะไม่เห็นด้วยกับเธอเลยสักนิด “คุณหนูคิดดีแล้วเหรอคะที่เลือกมีลูกด้วยวิธีนี้ พี่พิมพ์ว่าคุณหนูลองเปิดใจให้ผู้ชายดีๆสักคนเข้ามาดีกว่านะคะ เผื่อจะเจอคนที่คุณหนูรักและเขาก็รักคุณหนูจริงๆ” นี่คือสิ่งที่พี่เลี้ยงสาวไม่เห็นด้วยกับเธอและพยายามเกลี้ยกล่อมเธอมาโดยตลอด แต่มีหรือโรสศิรินผู้ไม่เคยเชื่อและศรัทธาในรักแท้จะยอมฟัง “ถ้าโลกนี้มีผู้ชายดีๆอย่างที่พี่ว่าจริง คุณตาคงไม่ทำร้ายจิตใจคุณยายโดยการแอบมีเมียน้อย และพ่อของโรสก็คงไม่ทิ้งคุณแม่ไปตั้งแต่โรสยังเป็นเด็กเล็ก จนคุณแม่ต้องป่วยซึมเศร้าถึงขั้นฆ่าตัวตายหรอก” เสียงหวานสั่นน้อยๆเวลาพูดถึงอดีตที่แสนเจ็บปวดของบุพการี ที่สร้างตราบาปไว้ในหัวใจของเธอจนเธอไม่อาจจะลบเลือนมันออกไปจากใจได้ “คุณหนูอคติเกินไปหรือเปล่าคะ คู่รักที่อยู่กันไปจนแก่เฒ่าก็มีถมไปนะคะ” “นั่นมันคนอื่น แต่ไม่ใช่กับครอบครัวของโรสหรอกค่ะ โรสบอกแล้วไงคะว่าผู้หญิงในตระกูลของโรสถูกสาปไม่ให้เจอรักแท้ เพราะฉะนั้นโรสไม่อยากเสี่ยงค่ะ” หญิงสาวเถียงพร้อมยืนยันในความต้องการของตัวเองหนักแน่นจนพี่เลี้ยงสาวต้องคอตก ยกธงขาว ยอมแพ้เมื่อไม่สามารถหาเหตุผลหรืออะไรมาลบล้างความคิดของหญิงสาวได้ เพราะแต่ไหนแต่ไรพิมพ์แขไม่เคยเถียงชนะเธอเลยสักครั้ง ด้วยการที่โรสศิรินนั้นเรียนจบปริญญาโทจากเมืองนอก มีความฉลาดและเชื่อมั่นใจตัวเองสูง อีกทั้งเธอยังเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของร้านจิวเวลรี่เครื่องเพชรอันดับต้นๆของเมืองไทย ซึ่งบริหารโดยคุณหญิง พริตายายของโรสศิรินที่เป็นหญิงมั่นแล้ว หญิงสาวก็ยิ่งปักใจเชื่อว่าเธอสามารถอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสามี โรสศิรินเคยแจ้งความประสงค์นี้กับยายตั้งแต่เริ่มโตเป็นสาวเต็มวัยแล้ว ว่าเธอต้องการมีลูกแต่ไม่ต้องการมีสามี และเธอจะใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์คัดเลือกเพศของลูกเพื่อให้ได้ลูกชายเท่านั้น เพราะไม่อยากให้ลูกของเธอถูกสาปเหมือนบุพการีของตนเอง “เมื่อไหร่คุณยายจะอนุญาตให้โรสมีลูกคะ คุณยายบอกให้โรส รอๆๆจนตอนนี้อายุของโรสก็ปาเข้าไปเลขสามแล้วนะคะคุณยาย” หญิงสาวทวงสัญญากับยายแท้ๆที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็กๆ หลังจากที่แม่ของเธอเสียไป ท่านเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับเธอและเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้โรสศรินค่อยๆซึมซับบุคลิกความแกร่งและปราดเปรียวของผู้เป็นยาย แต่ขณะเดียวกันก็มีมุมที่อ่อนหวานและอ่อนโยนเช่นกุลสตรีทั่วไปที่พึงจะมีโดยเฉพาะคำพูดและการวางตัว “รอให้ยายได้มอบร้านจิวเวลรี่ให้โรสบริหารต่อก่อนนะ ถ้าโรส บริหารงานลงตัวเมื่อไหร่ค่อยว่ากันเรื่องลูก” คุณหญิงพริตาวัยเจ็ดสิบเก้าแต่แข็งแรงอยู่ บอกกับหลานสาวปลายเสียงนุ่ม ใบหน้าที่เริ่มเหี่ยวย่นแย้มยิ้มอ่อนโยนตลอดเวลาที่มองดวงหน้างดงามของหลานสาว เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ได้พูดคุยกัน  โรสศิรินมักจะเชื่อในสิ่งที่คุณยายบอกกล่าวเสมอ เพราะคุณหญิงพริตาไม่เคยโกหกหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนเลยสักครั้งเดียว  “แล้วเมื่อไหร่คุณยายจะวางมือจากร้านจิวเวลรี่ละคะ โรสช่วยงานคุณยายมานานหลายปีโรสว่าโรสเข้าใจงานมากพอและพร้อมจะรับช่วงต่อแล้วนะคะ” ที่พูดไปแบบนั้นไม่ใช่เพราะเธออยากจะเป็นผู้บริหารของร้านแต่อย่างใด หากแต่เธอไม่อยากให้คุณยายต้องมาแบกรับภาระในวัยชรา หญิงสาวต้องการให้คุณยายได้พักผ่อนบ้างหลังจากที่ต้องแบกรับภาระงานมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งเรื่องนี้คุณหญิงพริตาเข้าใจหลานสาวดีและไม่เคยถือโทษโกรธอะไรเวลาที่หลานสาวพูดตรงๆ “ถ้าโรสมั่นใจว่าพร้อมแล้วยายก็จะวางมือ แต่โรสสัญญากับยายก่อนได้ไหม ว่าถ้าโรสเจอผู้ชายดีๆสักคนเข้ามาในชีวิต โรสจะเปิดโอกาสศึกษาดูใจกับเขา”  คุณหญิงพริตาไม่อยากให้หลานสาวปิดกั้นตัวเองจากความรักเพียงเพราะฝังใจกับอดีตความรักที่ไม่สมหวังของตนและลูกสาว เพราะนางเชื่อว่าความรักสวยงามเสมอ ถึงแม้ว่านางจะรู้จักกับความรักปนความเจ็บปวด แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่นางจะกล่าวโทษอดีตความรักของตนเอง “ค่ะคุณยาย” โรสศิรินให้สัญญาขณะที่แอบเอานิ้วไขว้กัน พร้อมเอ่ยขอโทษผู้เป็นยายในใจเพราะเธอปฏิญาณกับตัวเองแล้วว่าชาตินี้เธอจะไม่ยอมเปิดใจและมีสามีเด็ดขาด!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD