“คือ... เสด็จพ่อให้ข้ามาถามองค์ชายใหญ่ ว่ามีสิ่งใดต้องการเป็นพิเศษและมีสิ่งใดไม่เรียบร้อย” ก้มหน้าเขินอายแสร้งพูดไปเสียอีกทาง
จิวซินโบกมือไล่ จิ่นฉินและหมิงหลินออกไปข้างนอก ก้าวเดินมาใกล้ องค์หญิงสิบสี่ ยกมือบางขึ้นเชยคางมนขึ้นสบตามืออีกข้างไพล่หลังอย่างองอาจ
“เรียบร้อยทุกอย่างหากแต่ตำหนักบูรพา แห่งนี้มิมีหญิงงามเช่นเจ้ามาเคียงคู่” เจียวซือเอียงอายจนมือไม้ไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหน
“องค์ชายใหญ่” จิวซิน รวบร่างเล็กมากอดแนบอก
“ข้ารู้หากแต่ บุรุษเช่นข้าจะอดใจได้อย่างไรหากหญิงงามเยี่ยงเจ้า อยู่เบื้องหน้าอย่างนี้”
“เจ้าก็รู้ตามธรรมเนียมของไห่ตงหยวน หากยังมิได้เสกสมรส ก็ยังมิอาจแตะต้อง ล่วงเกินหรือเหอตงหยวนมิได้เคร่งครัด” องค์ชายสิบสองมาจากไหนจิวซินไม่ทันสังเกต
จิวซินเชิดหน้าทระนง
“มิใช่ เรามิเคร่งครัดหากแต่องค์หญิงสิบสี่นั้น อย่างไรเสียก็คงไม่พ้นเป็นชายาข้า ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวหรือเรื่องของคู่รัก มิปานท่านแม้จะเป็นพี่ชายหากแต่ตามหลักแล้วก็คือคนนอก” ชงไฉ่มองจิวซินอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เจียวซือ กลับตำหนักเจ้าได้แล้ว” องค์หญิง14 ทำท่าทางฮึดฮัดแบบขัดใจคว้าแขนน้องสาวเดินลิ่ว แต่ยังไม่ทันจะพ้นห้องร่างสูงปะทะเข้ากับร่างบางของหมิงหลิน จนเซ มือใหญ่คว้าเอวบางของหมิงหลินตาสบตา ใบหน้าหวานใสของหมิงหลินเป็นที่ถูกใจยิ่งนัก ชงไฉ่เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“หญิงชาย หากมิได้ไหว้ฟ้าดินด้วยกันแล้วก็มิอาจถูกเนื้อต้องตัวเช่นเดียวกัน เหอตงหยวนเราเคร่งครัดยิ่งนัก” จิวซินได้โอกาส องค์ชายสิบสองปล่อยมือจากเอวบางของหมิงหลิน จิวซินหัวเราะเสียงดังเยี่ยงบุรุษ
“เสด็จพ่อให้ตามเจ้า องค์ชายใหญ่ ไปคารวะอาจารย์แม้เจ้าจะมาอยู่ในฐานะ ราชบุตรเขยแต่เจ้าก็ต้องฝึกปรือ วิชาต่างๆ ทั้งบุ๋นทั้งบู้เพื่อช่วยงานราชการของไห่ตงหยวน” น้ำเสียงสะบัดเล็กน้อยด้วยความที่ถูกตามใจมาตลอด แต่กับมาเสียเหลี่ยมให้กับจิวซินใน ฐานะองค์ชายใหญ่
ชงไฉ่ก้าวยาวๆ จากไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว จิวซินปิดปากหัวเราะคิกคัก
“ข้าจะตามไปในไม่ช้า” จิวซินตะโกนไล่หลัง