วันเสาร์
เครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่แล่นลงจอดบนรันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ประตูบานใหญ่ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ผู้โดยสารที่เดินทางจากกรุงโรม ประเทศอิตาลีต่างทยอยลงมาจากเครื่องบิน เช่นเดียวกันกับนานโอ ราซิเอลโล่และคณะเดินทางที่นั่งอยู่ในชั้นธุรกิจ (business class)ที่ต่างเตรียมตัวลงจากเครื่องบิน แต่จะมีเพียงราซิเอลโล่ที่นั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ราวกับว่าจิตใจเขาลอยออกจากตัว
“เอลโล่ เอลโล่” นานโอเรียกชื่อหลานรักซ้ำสองครั้ง เจ้าของชื่อถึงจะหันมามองเขา “เหม่อไปถึงไหน ถึงแล้วนะ คนอื่นเขาเตรียมตัวลงเครื่องกันหมดแล้ว เหลือแกคนเดียวนี่แหละ”
“อ๋อครับ”
“ใจลอยไปไหนเนี่ย ฉันสังเกตเห็นตั้งแต่แกขึ้นเครื่องแล้ว ถามคำตอบคำ เหมือนใจไม่อยู่กับตัว” คุณอาช่างจับผิดเอ่ยถาม “คิดถึงสาวคนไหนอยู่ล่ะ”
“ไม่ได้คิดถึงใครครับ ระดับผมผู้หญิงต้องคิดถึงมากกว่า” คนเป็นหลานแก้ตัว ทั้งที่นานโอเดาถูกเผ็ง เขากำลังคิดถึงสตรีคนหนึ่งอยู่ สตรีที่เข้ามาในชีวิตเขาเพราะคำว่ารัก ทว่าหล่อนจากไปด้วยคำว่าไม่สนใจใยดีที่เขามีให้ “ไปกันเถอะครับ”
ราซิเอลโล่ไม่รอให้นานโอซักต่อ เขารีบรุดเดินลงไปยังชั้นล่างของเครื่องบิน โดยไม่สนใจนานโอที่มองตามตนไปราวกับว่ากำลังสังเกตพฤติกรรมอยู่เงียบๆ
วินาทีแรกที่เท้าของราซิเอลโล่แตะลงบนแผ่นดินไทย หัวใจเขาเต้นแปลกๆ ผิดจังหวะชอบกล มันเต้นเร็วแรงราวกับว่าตนเองตื่นเต้น เป็นความตื่นเต้นที่เขาเองก็มิทราบว่าด้วยเรื่องอะไร เขาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ไม่เคยมีใครหรือสิ่งใดทำให้ราซิเอลโล่เกิดความตื่นเต้นได้เท่าครั้งนี้ และเป็นความรู้สึกที่ไม่รู้ว่า มีสาเหตุมาจากใด ราซิเอลโล่แปลกใจกับความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ ทว่าค้นหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไม
จวนเวลาแขกคนสำคัญของโรงแรมมิราเคิลจะมาถึง บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเดินทางมาของนานโอ เตรียมตัวต้อนรับเขาอยู่ตรงล็อบบี้ การเดินทางมาของนานโอครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งก่อน เพราะเขาเหมาห้องพักบนชั้นที่ 35 ทั้งชั้น เป็นที่รู้กันว่า ชั้นนี้มีแต่ห้องวีไอพี ภายในห้องมีห้องนอนแยกเป็นส่วนตัว ห้องโถงใหญ่ และเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ไว้สำหรับสังสรรค์กับเพื่อนฝูง สนนราคาค่าที่พักต่อห้องคืนละ เจ็ดหมื่นบาท ชั้นนี้มีอยู่ด้วยกันหกห้อง เขาต้องจ่ายค่าห้องพักคืนละไม่ต่ำกว่าห้าแสนบาท อยู่ครบเจ็ดวัน จำนวนเงินที่ทางโรงแรมได้รับเกือบสี่ล้านบาท หากไม่เรียกนานโอว่าแขกระดับซุปเปอร์วีไอพีคงไม่ได้
“ตื่นเต้นจังเลยพี่อร” เพชรหอมพูดกับบังอร
“ตื่นเต้นทำไม คุณนานโอมาพักที่นี่หลายครั้งแล้วนะ แล้วพี่ก็เชื่อว่า เพ้นท์ต้องเคยเห็นหน้าเขาแล้ว” สำหรับบังอรถือเป็นเรื่องปกติ
“ก็เคยเห็นนะพี่ เห็นเขาเดินผ่านไปผ่านมา แต่ไม่เคยพูดคุยด้วยเลย” เพชรหอมตอบกลับ “แต่เพ้นท์ก็ไม่น่าตื่นเต้นขนาดนี้นะ มันบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องตื่นเต้นด้วย”
เป็นความตื่นเต้นที่เพชรหอมอธิบายไม่ถูกว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร แขกที่เป็นเชื้อพระวงศ์จากประเทศอื่น ดารานักร้องจากต่างประเทศ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงต่างเคยมาพักที่นี่ทั้งสิ้น เพชรหอมยังมีความตื่นเต้นน้อยกว่าการเดินทางมาของนานโอครั้งนี้เสียอีก
“ที่แกตื่นเต้นเพราะทำหน้าที่ล่ามครั้งแรกหรือเปล่า แบบว่ากลัวงานออกมาไม่ดีไรงี้” ช้องนางหาเหตุผลกับความตื่นเต้นของเพื่อน “ความประหม่ามันก็เลยมาไงล่ะ”
“นั่นสิ น่าจะใช่เรื่องนี้มากกว่า” บังอรเห็นด้วย “อย่าตื่นเต้นไปเลยเพ้นท์ งานมันไม่ได้ยากอะไร แค่แปลภาษาให้คนสองคนเข้าใจกัน พี่เชื่อว่าเพ้นท์ทำได้” บังอรพูดปลอบใจ
“ค่ะพี่อร เพ้นท์จะทำให้ดีที่สุดค่ะ”
“ดีมากเพื่อน สู้ๆ” ช้องนางชูกำปั้น ให้กำลังใจเพื่อน “นั่นไงคุณนานโอมาแล้ว”
“งั้นฉันไปเอาพวงมาลัยก่อนนะ”
เพชรหอมพูดก่อนเดินไปหยิบพวงมาลัยไหว้ผู้ใหญ่ที่ร้อยอย่างสวยงามเพื่อนำมามอบให้นานโอเช่นทุกครั้งที่เขาเดินทางมาที่นี่ ขณะที่เพชรหอมเดินไปหยิบพวงมาลัย นานโอกับคณะเดินทางได้เดินเข้ามาในโรงแรม
หลังจากไปหยิบพวงมาลัย เพชรหอมได้เดินมาสมทบกับบังอรและช้องนาง ทว่าการเดินมาของหล่อนครั้งนี้ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับจิตใจและความรู้สึกของเพชรหอม ร่างของเพชรหอมนิ่งแข็ง ม่านตาขยายกว้าง ใบหน้าบ่งบอกถึงความตกใจ ขาทั้งสองข้างก้าวแทบไม่ออก หัวใจเต้นแรงยิ่งกว่านักรบกำลังตีกลองออกศึก มือที่ถือพวงมาลัยสั่นจนเกือบทำของที่ถืออยู่หล่นมือ
ช็อค!
ใช่...เพชรหอมกำลังช็อค อาการดังกล่าวของเพชรหอมเกิดจาก บุรุษร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างนานโอคือสาเหตุ หล่อนไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน เพชรหอมอยากหมุนตัววิ่งหนี ทว่าด้วยหน้าที่ หล่อนทำเช่นนั้นไม่ได้
ไม่ใช่ว่าเพชรหอมคนเดียวที่ตกใจ ราซิเอลโล่ เดอมาชีก็ตกใจที่ได้พบหน้าเพชรหอม อดีตคู่นอนผู้อ่อนหวานและมีความเร่าร้อนอยู่ในที ความตกใจที่เกิดขึ้นไม่เพียงแค่ได้เห็นหน้าหล่อน ความเปลี่ยนแปลงของเพชรหอมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เขาตกใจ หล่อนสวยขึ้นมาก
เพชรหอมไม่ใช่พนักงานฝึกงานที่เขาเคยรู้จัก หล่อนดูโตเป็นสาวเต็มวัย หน้าตาถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง ริมฝีปากอิ่มที่เขาเคยบดจูบเคลือบด้วยสีชมพูอ่อน พอเห็นเรียวปากหล่อนเหมือนมีพลังดึงดูดให้เขาอยากบดจูบ เรือนร่างสาวที่ถูกปิดทับด้วยชุดเดรสพอดีเข่าสีชมพูเข้มขับกับสีผิวขาวเนียน อวดสัดส่วนสวยงาม นมเป็นนม เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก เห็นแล้วเขาอยากจะกระชากร่างอิ่มเข้ามากอดและฟัดให้หนำใจ ราซิเอลโล่ยิ้มมุมปากมองหล่อนตาเป็นประกาย
“เพ้นท์ มัวแต่ตะลึงอะไรอยู่ เอาพวงมาลัยให้คุณนานโอสิ” ช้องนางที่เห็นอาการของเพื่อนรีบเข้ามากระซิบบอกคนทำอะไรไม่ถูก
“อ๋อๆ ได้ๆ” เพชรหอมรีบสลัดอารามตกใจทิ้งไป ก้าวเดินไปหานานโอที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่เพชรหอม สาวสวยหุ่นดีตาพราว “สวัสดีค่ะคุณนานโอ โรงแรมมิราเคิลยินดีต้อนรับค่ะ”
เพชรหอมกล่าวต้อนรับเป็นภาษาอิตาเลี่ยน ยื่นพวงมาลัยส่งให้ชายหนุ่มวัยสี่สิบเจ็ดปี ที่ยื่นมือมารับ ทว่าเขาไม่เพียงแค่รับพวงมาลัยมาไว้ในมือ มือหนาอีกข้างฉวยมือเล็กขึ้นมาจุมพิตกลางฝ่ามืออย่างรวดเร็ว โดยที่หล่อนไม่ทันตั้งตัว แน่นอนว่าความตกใจต้องเกิดขึ้น แม้ว่าจะตกอยู่ในอาการตกใจ ทว่าหล่อนกลับตั้งสติชักมือกลับอย่างสุภาพ
ราซิเอลโล่ถึงกับร้อนในอกเมื่อเห็นภาพนั้น ทั้งที่เขาไม่น่าจะรู้สึกอะไรมิใช่หรือ เรื่องระหว่างตนกับเพชรหอมจบกันไปหลายปีแล้ว เขาตอบตัวเองไม่ได้ว่า ทำไมถึงได้รู้สึกอยากเอามือตะบันหน้าอาหนุ่มนัก
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ...”
นานโอที่ยังครองตัวเป็นโสดแม้ว่าอายุจะล่วงเข้าเลขสี่ตอนปลาย แต่ยังคงความหล่อแลสุขภาพดีราวกับเป็นหนุ่มวัยสามสิบ เอ่ยบอกเพชรหอมที่ต้องรีบแนะนำตัว
“ดิฉันชื่อเพ้นท์ค่ะ เป็นล่ามของคุณ”
“คุณน่ะหรือครับเป็นล่ามของผม” นานโอทวน “ดีจังเลยครับ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ระบายเต็มใบหน้านานโอ แม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ความหมาย แต่ราซิเอลโล่รู้ดีว่า ตอนนี้นานโอกำลังสนใจอดีตคู่ขาของตนอยู่
ไม่ได้โว๊ย! ไม่ยอม!
เดี๋ยวก่อน...ทำไมต้องไม่ยอม ต้องไม่พอใจด้วย ในเมื่อเรื่องระหว่างตนกับเพชรหอมจบกันไปตั้งหลายปีแล้ว หล่อนจะมีใครหรือเขาจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ แล้วทำไมต้องรู้สึกไม่พอใจด้วย
นั่นสิ...ทำไม ราซิเอลโล่กำลังค้นหาคำตอบในใจ
“จะแนะนำและทำตามหวานใส่กันอีกนานไหมครับคุณอา ผมหิว อยากกินอาหารและอยากพักผ่อน” เสียงราซิเอลโล่ดังขึ้น “เมื่อกี้คุณอาบ่นว่าง่วงนอนไม่ใช่เหรอครับ ผมว่ารีบขึ้นห้องพักไปพักผ่อนดีกว่า เย็นนี้มีนัดกับมิสเตอร์ฉาง เราจะได้มีสติคุยเรื่องงาน”
นานโอหันมามองต้นเสียงที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วหันมามองล่ามคนสวย
“เย็นนี้เจอกันนะครับเพ้นท์ แล้วผมจะบอกคุณเรื่องโปรแกรมการทำงาน”
“ค่ะคุณนานโอ”
“ดิฉันจะพาคุณนานโอไปที่ห้องนะคะ” บังอรเอ่ย ยิ้มให้นานโอที่ก้าวเดินไปยังลิฟต์โดยสาร จะมีเพียงบังอรกับช้องนางที่เดินไปกับนานโอและคณะเดินทาง ส่วนเพชรหอมยืนใจสั่นรัวที่เดิม มองตามร่างสูงใหญ่ของราซิเลโล่ที่เดินผ่านตนไป เขาไม่ได้เดินผ่านแบบปกติธรรมดา สายตาเขามองมาที่หล่อน ประกายตาของเขายังคงเช่นเดิม มีเสน่ห์แต่แฝงความร้อนไว้ให้คนถูกมอง ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างคนมีเลศนัย
“พี่เพ้นท์ พี่เพ้นท์” เสียงเรียกชื่อที่ดังหลายครั้ง เรียกสติของเพชรหอมให้กลับมา
“ว่า...ว่าไงพร” เพชรหอมถามนิภาพร พนักงานทำความสะอาดของโรงแรมเจ้าของเสียงเรียกชื่อเมื่อครู่
“พี่ใจลอยอะไรคะ หรือว่าเพราะฝรั่งคนนั้น พี่เลยนะจังงัง” นิภาพรแซว เพราะหล่อนเห็นแววตาของหนุ่มสุดหล่อคนนั้นพอดี หากหล่อนถูกมองแบบนั้นบ้าง อาการคงไม่ต่างกับเพชรหอมขณะนี้
“เปล่าซะหน่อย” เพชรหอมแก้ตัว “ว่าแต่พรมีอะไรมาเรียกพี่”
“พี่ไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นทีสิ นางเป็นคนจีน จะเอาอะไรไม่รู้ พูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ พรเลยมาตามพี่ ให้พี่ไปช่วยคุยกับนางหน่อย” นิภาพรบอกปัญหาของตนให้เพชรหอมฟัง
“ได้สิ ไปกันเลย ปล่อยให้แขกคอยนานไม่ดี” เพชรหอมรีบเดินไปยังลูกค้าคนจีนที่นั่งอยู่ตรงล็อบบี้ทันที โดยมีนิภาพรเดินตามมาติดๆ