กว่าเธอจะหลุดห่างจากฟาตินได้ ทั้งออดอ้อน อ้อนวอน จนเขาต้องยอมกลับไป และวันนี้เขายังบอกเธอว่าเย็นนี้มารับไปกินข้าว ใครจะไปล่ะ การขอแต่งงานของเขาถึงแม้จะทำให้เธอดีใจก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากทิ้งสิ่งที่เธอรักเช่นกัน เพราะเธอรู้ว่ามันไม่ง่าย ที่จะต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน ไปอยู่ต่างถิ่น เธอก็ยังไม่คุ้นชินอยู่ดี เธอฟังจากพี่ชายเล่าให้ฟังตอนที่เขาได้ทุนเรียนและเรียนที่ประเทศแถบทะเลทราย ภาพแบบนั้นเธอยังจำฝังใจ เธอจะยื้อจนกว่าเขาจะเบื่อและเลิกกันไปข้างหนึ่ง เธอทำงานที่โต๊ะและกำลังออกแบบชุดใหม่ ซึ่งเหมาะกับอากาศบ้านเราอยู่ตอนนี้ จนเวลาใกล้จะเลิกงานและเพิ่งนึกได้ว่าเดี๋ยวเขาต้องมารับ จึงคิดจะออกไปก่อน ในเมื่อเขาต้องรอด้านหน้าบริษัท งันวันนี้ขอเป็นเด็กซักวันโดยออกทางด้านหลังบริษัท และเรียกรถประจำแล้วกัน เธออกมาก่อนกำหนดและเลี่ยงไปใช้ประตูด้านหลัง เธอลงมาทีละชั้นและเห็นทางออกที่เส้นทางไปสู่ถนนใหญ่ เธอรีบเดินลงมาและกำลังจะเปิดประตูรั้ว ต้องตกใจเมื่อเห็นเขายืนดักรออยู่
"ทำไมออกทางนี้ละครับ" เขาจับทางเธอออกและมายืนรอเธอ
"คือ ข้างหน้าคนมันเยอะค่ะ ช่วงนี้ก็เป็นข่าวอยู่ด้วย" เธอพูดเลี่ยงออกไป
"พี่นึกว่าเธอหนีพี่"
"ไม่ได้หนีนะคะ"
"งั้นไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่" เขากล่าวออกมาแล้วเขาไปจูงเธอไปที่รถเขา โดยที่เธอยอมเดินตามเขาไปโดยดี
เขาพาเธอขึ้นตึกสูงเสียดฟ้า และพบร้านอาหารหรู ทั้งสองมานั่งกินกัน ท่ามกลางวิวตึกสูง บางช่วงจังหวะก็มีนักดนตรีมานั่งเล่นให้เขาทั้งคู่ฟัง และจังหวะนั้นเองเขาก็ขอเธอแต่งงาน เขานั่งคุกเข่า แล้วเอาแหวนออกมา สวมนิ้วเธอ ภาพนี้อาจจะเป็นความดีใจของผู้หญิงหลายๆคน แต่สำหรับเธอมันไม่ใช่
"ลุกขึ้นนะคะพี่ฟาติน" หลังจากที่เขาสวมแหวนเธอ
"บอกพี่ก่อนจะแต่งงานหรือเปล่า" เขาไม่ยอมลุกจนกว่าเธอจะยอมพูดออกมา เธอเห็นว่าทุกสายตาจ้องมาที่เธอคนเดียว
"แต่งค่ะ" รีบบอกออกไปแล้วให้เขาลุกขึ้น
เขาเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามเขาที่ตั้งใจไว้แล้วเขาก็กลับมานั่งกินอาหารต่อด้วยอารมณ์ดี