“อี๊..อ๊าาา ไม่ถอดแว่นหรือคะ ซี้ดดด ฉันอยากเห็นตาของคุณ” หญิงสาวถามชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้า เธอเองก็ไม่อยากได้คำตอบ เพียงแค่อยากมองตาเขาชัดๆ แต่กลับถูกเค้ารวบมือไว้ แล้วดันหัวเธอลงไปข้างล่าง แม้ตอนนี้เธอจะหมอบคลานให้น้องชายใช้ดุ้นรักเสียบสับกับปากทางเข้าอีกทาง
“ลงไปใช้ปากกับอะไรที่น่ารักกว่าดีกว่า”
“อะอ้ามมมมมม ซี้ดดดดดด อ๊าาาาา คุณไร รุนแรงไปแล้วค่ะ โอ้วววว ซี้ดดดดด” แรงกระแทกหนักหน่วงทำให้ร่างบางโยกไปตามแรงกระแทก ปากที่ยังคงครอบงำของแข็งมันก็เข้าลึกกว่าเดิม เพราะแรงโยกกกก
“ซี้ดดดด อ่าาาา ดีวะไร แรงอีก” มือใหญ่ของไดแฝดผู้พี่ กดลงที่หัวของหญิงสาวหนักๆ
“เกลียดตอนมึงสั่งฉิบหาย แต่อารมณ์นี้...ได้เลยพี่ชาย” ไรเร่งจังหวะกระแทกสะโพกถี่รัว กดลึกจนหญิงสาวสั่นสะท้าน กระตุกรัวรีดเอาน้ำจากชายหนุ่ม จนไรต้องปล่อยน้ำรักตามเธอไปติดๆ
การเสร็จของแฝดผู้น้อง ไม่ได้ทำให้เกมรักนั้นจบ เพราะแฝดผู้พี่ ได้ลุกขึ้นเพื่อเข้าประจำที่ จับร่างบางที่หมดแรงพลิกนอนหงาย พางูตัวใหญ่ผ่านช่องทางรัก แต่ไม่ทันจะได้เสียบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ปึงๆๆๆ ปึงๆๆๆ เสียงรบกวนที่ทำเอาเขาหงุดหงิด จนต้องไล่แฝดน้องของตัวเองไปเปิดประตู โดยฝากไปถามคนที่เคาะด้วยประโยคน่ารัก ว่า “อยากตายรึไง มาเคาะตอนนี้” แต่เมื่อไรไปเปิดประตู ก็ได้พบว่าคนที่มาเคาะนั้นไม่ใช่ใคร แต่คือพ่อของเขาเอง
“พวกแกสองตัวใส่เสื้อผ้า แล้วตามฉันมา เดี๋ยวนี้” เสียงแหบพร่าแบบไม่เคยเป็น ทำเอาสองแฝดถึงกลับมองหน้ากัน แล้วละจากเนื้อชิ้นงาม เพื่อตามคนที่เป็นพ่อออกไปด้านนอก
แผ่นหลังที่ประทับรอยสักพยัคฆ์เมฆาตัวใหญ่ บนหลังของสองแฝด เพื่อเป็นเครื่องยืนยัน ว่าตอนนี้เค้าเป็นเจ้าของ White Casino อย่างสมบูรณ์ ไม่บ่อยนักหรอกที่พ่อของพวกเขาจะมาก้าวก่าย ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญจริงๆ
“เมื่อไหร่พวกแกจะเลิกกกกก กินผู้หญิงคนเดียวกัน!!!!” เสียงของคนเป็นพ่อ ตะโกนถามลูกชายทั้งคู่
“มันก็สะดวกดี เป็นแฝดมันไม่ได้ง่ายนะดี๊ ไอ้ไรมันมีอารมณ์ ฉันก็ต้องมี ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน พร้อมกันไปเลยก็สะดวกดี” ไดแฝดผู้พี่ตอบคนเป็นพ่อถึงเหตุผล แม้จะดูเหมือนไม่ใช่เหตุผล
“แล้วแบบนี้พวกแกจะแต่งเมียยังไง???” คนเป็นพ่อหันมาถามลูกชายอย่างเหนื่อยใจ
โทร่าพ่อของพวกเค้าเดินนำมาถึงห้องทำงาน ที่มีลูกน้องมากมายยืนเฝ้าเต็มหน้าห้องไปหมด ประตูที่ยังไม่ได้เปิดออก ทำให้คนเป็นพ่อหันมาหรี่ตามองคนเป็นลูกทั้งคู่อีกครั้ง
“เรื่องนี้กูไม่ยุ่ง เรียนผูก ก็เรียนแก้เอาเอง เป็นเสือ อย่าทำให้ตัวเองกลายเป็นหมา” เสียงที่เอ่ยกับลูกชายทั้งสอง มันจบลงพร้อมกับประตูที่เปิดออก
ภาพหญิงสาวคนหนึ่งก้มหมอบคำนับอยู่ที่พื้น โดยมีก้อนเล็กๆ ก้มโค้ง โด่งก้นเพื่อทำตามคนเป็นแม่ที่อยู่ข้างๆ การมาของคนทั้งคู่ทำให้ไดและไร งงงวยเป็นอย่างมาก
“นี่อะไรเนี่ย ดี๊กำลังเล่นตลกอะไร” ไรแฝดน้องถามขึ้น ก่อนจะเดินมาดูก้อนสองก้อนที่ก้มแนบพื้น
“ปาปา ปาปา” ก้อนเล็ก ๆ ที่ก้มอยู่ที่พื้น เงยหน้าขึ้นมาคว้าที่ขากางเกงของไรเอาไว้ ทำเอาไรตกใจจนหงายหลังลงไปกับพื้น
เด็กหญิงตัวน้อยวัยเกือบ 3-4 ขวบ มองไรตาแป๋ว ก่อนจะเดินไปหาไดแฝดพี่ แล้วมองด้วยความสงสัย แล้ววิ่งมาแอบหลังคนเป็นแม่
“ยุยจัง อย่าซนนะคะ ให้หม่าม้าคุยธุระก่อนนะ” เสียงที่พูดออกมาอย่างประหม่า ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว
“มีธุระอะไร” ไรที่ตั้งสติได้แล้วยืนขึ้นมาถามหญิงสาวที่หลบหน้าเขาไม่ยอมหยุด จนเขาต้องใช้มือบีบหน้าหญิงสาวเอาไว้ ให้เธอหยุดหลบหน้าสักที
“ฝะ..ฝากลูกค่ะ” เสียงที่ตอบออกมาอย่างไม่เต็มเสียง บ่งบอกว่าหญิงสาวกลัวอย่างชัดเจน แต่ความจำเป็นมันทำให้เธอต้องพูดมันออกมา
“ลูกของใคร” คำถามจากโทร่าผู้เป็นพ่อ ทำให้หญิงสาวมองหน้า สองพยัคฆ์หนุ่มไปมา เขาสองคนหน้าเหมือนกันมาก เพียงแค่คืนเดียวเธอไม่สามารถบอกได้เลย ว่าเธอนอนกับคนไหน แล้วเพราะแบบนี้มันเลยทำให้เธอไม่กล้าออกมาเรียกร้องตั้งแต่รู้ว่าท้อง
“แรดๆอย่างไอ้ไรมากกว่า” คนเป็นพี่ชายโยนความรับผิดไปให้น้องทันที
“อะไร อะไร เราทรีซั่มกันตลอด แล้วฉันก็ไม่มั่นใจ ว่าเอาแรงถุงยางแตกรึเปล่า มันก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ แล้วอีกอย่างลูกเราจริงรึเปล่าก็ไม่รู้” ไรนึกสนุกผลักหญิงสาวที่กลัวจนตัวสั่นให้หงายไปกับพื้น แต่เด็กน้อยกลับเดินมาตีเค้า
“จริงค่ะ ฉันไม่เคยนอนกับใคร นอกจากกก....ใครสักคนหนึ่งในพวกคุณ ฉันไม่รู้คนไหน แต่ฉันขอฝากลูกหน่อย 1 เดือน แค่ 1 เดือนเท่านั้น ฉันไม่ได้จะมาเรียกร้องเอาอะไรเลยนะคะ แค่ขอฝากลูกหน่อย ตอนนี้ฉันไม่มีบ้าน ไม่มีที่พัก ตกงาน ฉันจะต้องมีทุกอย่าง ก่อนที่นักสังคมสงเคราะห์จะพาลูกฉันไปไว้บ้านเด็กกำพร้า” หญิงสาวคลานเข่าไปเกาะขาของไรแฝดน้องเอาไว้ แต่ไรก็เอาขาออก จนเธอต้องคลานไปเกาะขาของไดแฝดพี่แทน
“เราจะมั่นใจได้ยังไง ว่าเธอไม่โกหก เธออาจจะไปมีลูกกับใครมาก็ได้”
เด็กน้อยเมื่อเห็นคนเป็นแม่ทำอะไร เธอก็ทำตาม จนคนเป็นแม่ทนเห็นภาพนี้ไม่ได้ เกิดอาการน้ำตาไหลออกมา เธอเองทั้งกลัว ทั้งสั่น แต่ถ้าลูกอยู่กับเธอตอนนี้ คงจะต้องมีแต่ลำบาก ถ้าอยู่กับพ่อของเด็กจะสุขสบายมากกว่า
“ฉันไม่เคยนอนกับใครเลย พวกคุณมั่นใจได้ ฮึกๆ ฉันชื่อนีอา คืนนั้นคุณถามชื่อฉันด้วย จำไม่ได้กันบ้างเลยเหรอคะ ได้โปรดช่วยฉันเถอะค่ะ ฉันไม่ได้เรียกร้องอะไรจากคุณเลย ฮื้อออออ” เธอยังคงก้มหน้าร้องไห้ แต่ก็ไร้การตอบกลับใดใดจากสองแฝด เขาปล่อยให้เธอร้องไห้อยู่แบบนั้น ก่อนจะออกจากห้องไป ทิ้งไว้แค่นีอา ลูกน้อย และคนเป็นพ่ออย่างโทร่า
ความเงียบกริบของบทสนทนา ที่ดังคงจะมีแต่เสียงร้องไห้ของเธอ กับลูกน้อยที่เห็นแม่ร้องไห้นานแล้ว เลยร้องไห้ตาม ช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่สำหรับโทร่าผู้เป็นพ่ออย่างมาก
แต่ไม่นานประตูของห้องทำงานก็เปิดออกอีกครั้ง พร้อมกับหญิงสาว ที่เข้ามาในห้องด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว นรินทร์ผู้เป็นแม่ของสองแฝด กะที่จะเดินเข้ามาหาคนที่แอบอ้างเป็นเมียและลูกของลูกชาย แต่พอนรินทร์เห็นภาพตรงหน้า ที่ลูกกอดแม่ร้องไห้ ก็เกิดอาการด่าไม่ลง แล้วเดินมาหาคนเป็นสามีแทน
“เฮียบอกเลย เฮียสงสาร เฮียเป็นเด็กกำพร้ามาก่อน ต่อให้ไอ้เวรพวกนั้นมันจะไม่รับ เฮียก็เลี้ยงไว้เอาบุญ ยังไงเฮียก็มีสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในการดูแลอยู่แล้ว”
“ฉันจัดการเอง”
เช้าวันต่อมา
ได Say ::
“ตื่น ตื่นนนนน” เสียงเล็กๆที่เรียกผม มันยังไม่เท่ากับมือเล็ก ๆ ที่ตบเข้าที่หัวผมเบา ๆ ใครมันช่างกล้าาา!!!!! ผมรีบลืมตาขึ้นมากะเอาเรื่อง แต่ภาพที่ผมเห็นคือเด็กน้อยตัวเล็ก แค่ผมเห็นเด็กนั่น ผมก็ตกใจ จนแทบจะกระโดดหนี
เหี้ยอะไรวะเนี่ย!!!!!! หม่ามี้ผมเอายัยเด็กนี่มาทำไม ลูกใครก็ไม่รู้!!!!
“ไปจ๊ะยุยจัง เราปลุกครบทุกห้องแล้ว ฉันจะให้รางวัลเป็นนมอุ่นๆนะ”
ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองมี้ผมจูงมือเด็กน้อยออกไปจากห้องของผม รู้สึกถึงความบรรลัยอันใกล้นี้แล้ว มี้ผมไปบ้าจี้ตามผู้หญิงคนนั้นทำไม ผมว่าต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้มันรู้เรื่อง
Rrrrrrr Rrrrrrr Rrrrrrrr [ Cris Callings ] เสียงโทรศัพท์ที่ดังยามเช้ามันทำให้ผมต้องละความสนใจจากเรื่องวุ่นวายในหัว เพื่อรับโทรศัพท์
สายสนทนา
“จ้า ตื่นละ”
[ โอ้ววว วันนี้ไม่ต้องโทรปลุกที่รักเลย ]
“ก็นะ มีอะไรที่มาปลุกแทนแล้วตั้งแต่เช้าเลย คริสขอฉันไปเคลียร์กับมี๊ก่อน แล้วจะโทรกลับนะ”
จบการสนทนา
แม้จะอยากคุยกับกับคริสต่อ แต่!!!! ความหงุดหงิดในหัวทำให้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับเธอเลย คริส ผู้หญิงที่ผมเพิ่งจะคบมา 1 เดือน เป็นนางแบบสาวสวย มันก็โอเคที่จะมีเป็นตัวเป็นตน ให้ชีวิตผมมีอะไรที่แตกต่างจากไอ้ไรบ้าง ผมรีบจัดการตัวเองแล้วลงไปเคลียร์กับมี้เรื่องเด็กนั่น
“ยุยจัง เก่งมากเลย ไหนๆ ชี้ให้ฉันดูซิว่าอันตัว S” เสียงมี้ของผมที่เล่นกับเด็กที่ไหนก็ไม่รู้
“มี้ ทำไมเอาเด็กนี่มาเลี้ยง แม่เด็กพูดจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ เอาไปคืน!!”
“แล้วถ้าใช่ล่ะ แกจะปล่อยลูกแกไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าเหรอ ตรวจ DNA ซะ”
“ D dog N net A ant “ เด็กน้อยพูดขึ้นมา
“จ้าาา เก่งมากกกกกก D N A ไปตรวจซะ ทั้งแก ทั้งไอ้ไรเลย ต่อให้แกไม่เอาแม่ แต่ถ้าหลานฉัน ฉันก็จะเอาไว้ ไปจัดการให้เสร็จ ไม่เสร็จเรื่องนี้ ไม่ต้องโผล่หัวไปที่กาสิโน ได้ยินไหมพี่ไดของมี้”
ผมมองเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ที่เงยหน้ามองผม แล้วเอียงคอใส่ ด้วยความสงสัย
ไร Say ::
เอาไปตรวจ D N A มันก็เข้าใจได้ แต่!!! มี้ให้ผมกับไอ้ไดเลี้ยงเด็กนี่เอง มันยังไง ผมกับไอ้ไดได้แต่มองหน้ากันไปมา กับของเท่าที่เรามี ขวดนม นมกระป๋อง แพมเพิด และเสื้อผ้าอีกนิดหน่อย
“หนูยุย หิว” เด็กน้อยเอามือลูบที่ท้องของตัวเอง
“แกจัดการสิไร”
“มึงจะบ้าเหรอ ให้กูชงนมเหรอ เด็กนี่มันต้องกินข้าวแล้วเปล่าวะ” ผมมองหน้าผู้ชายที่ทำหน้าเหมือนผมอยู่ได้ ที่เรื่องแบบนี้โง่นักนะมึงอะ
“งั้นแกก็ไปหาอะไรมาให้เด็กนี่กินสิวะ!!!”
“มึงไม่ทำอะ”
ชีวิตไม่เคยเกี่ยงกันทำอะไรแบบนี้เลย ผมให้สาวใช้ไปทำข้าวต้มให้เด็กนี่ แต่จะให้ผมมาป้อน ผมทำไม่เป็นอะ ผมเลยส่งช้อนให้เด็กนี่กินเอง แต่ช้อนมันอาจจะยากไปหน่อยสำหรับเด็ก เพราะเด็กยุยให้มือกำข้าวต้มเข้าปาก ผมไม่รู้ว่ามันจะเละแบบนี้ มันควรจะกินเองได้เปล่าวะ
“ไอ้ไร ไอ้ห่า เละ จับไปอาบน้ำทีดิ” ไอ้ไดเอาแต่ชี้ความบรรลัยเล็ก ๆ ที่เต็มตัวเด็กยุย
“นี่งานของมึงละ ไอ้ไดดดดดดด!!!! อะไรไหลตามขาเด็กนี่วะ” เชื่อเถอะ แค่มองตามัน ผมก็รู้ได้ในใจเลย มันคือฉี่แน่ๆ
“ไอ้ไร กูว่า เอาไปให้ผิงผิงกันไหม”
ความคิดนี้บรรเจิดสุด ๆ ผมรีบอุ้มระเบิดเวลาน้อยๆนี่ ออกจากบ้านไปหาน้องสาวที่มีลูกไล่เลี่ยกัน พอถึงบ้านใหญ่ ผมกับไอ้ไดก็ทิ้งยุยไว้ที่นี่มันซะเลย รอดแล้วกู ผมกับไอ้ไดเราตกลงกันไว้ว่า จะไม่หันกลับไปมอง เราจะเดินรวดเดียวให้ถึงบ้านเลย
“ไอ้ไร แกรู้อะไรไหม กว่าผล DNA จะออกอะ 5-7 วันเลยนะ”
“นั่นแปลว่า”
“มึงกับกูต้องเจอเรื่องนี้ไปอีก 1 อาทิตย์”