บทที่ 1 โจวเพ่ยชิง
ณ หมู่บ้านอี้เจี๋ยน เมืองไห่โจว มณฑลเหอหนาน
โจวเพ่ยชิง หญิงร้ายกาจและขี้เกียจประจำหมู่บ้าน แม้ว่าหน้าตาจะสะสวยและรูปร่างชวนมอง แต่กลับไม่มีใครคิดจะแต่งเธอเข้าบ้าน เนื่องจากวัน ๆ เธอไม่คิดจะทำอะไร นอกจากกินกับนอน นอกจากสองสิ่งนี้ หญิงสาวแทบไม่ทำอะไรเลย
“เพ่ยชิง วันนี้ไม่ทำงานเหรอ” ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยถาม
“เห็นหรือเปล่าล่ะ ตาก็ไม่ได้บอดนี่นา”
“นี่ฉันอายุคราวแม่หล่อนแล้วนะ ฉันถามดี ๆ จะตอบดี ๆ ไม่ได้หรือไง”
“ฉันตอบแบบนี้ ไม่ดีตรงไหน”
มือข้างหนึ่งกำเมล็ดฟักทองไว้ ปากก็กำลังแทะในขณะที่ตอบ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ชวนมองเลยสักนิดเดียว ชาวบ้านคนนี้หน่ายใจกับอาการปากร้ายของโจวเพ่ยชิง ก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอาและเดินจากไปอย่างไม่ชอบใจ
โจวเพ่ยชิงนั้นแอบชอบหลี่ฮั่นตง ลูกชายคนรองบ้านหลี่ ซึ่งเวลานี้เขาคือนายทหารอนาคตไกล
“เอ๊ะ! นั่นมันพี่ฮั่นตงนี่ เขาจะไปไหนกันนะ ตามไปดีกว่า” ทันทีที่เห็นชายในดวงใจ โจวเพ่ยชิงดวงตาเป็นประกาย รีบตามไปทันที
“พี่ฮั่นตง ครั้งนี้กลับมาหลายวันหรือไม่คะ”
หม่าหลันจี ลูกสาวคนรองบ้านหม่า เธอแอบชอบหลี่ฮั่นตงเช่นกัน และคงเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่ชายหนุ่มสนทนาด้วยอย่างเป็นกันเอง
“อืม ครั้งนี้พี่กลับมาหนึ่งสัปดาห์ หลันจีล่ะ สบายดีไหม น้าหม่าและน้าสะใภ้หม่าล่ะ ว่าง ๆ พี่จะเข้าไปทักทาย”
ใช่แล้ว บ้านหม่าและบ้านหลี่มีสัมพันธ์อันดีต่อกันเรื่อยมา แว่วว่าสองบ้านอาจจะเกี่ยวดองกันอีกไม่ช้า และทุกคนคิดว่าคงเป็นหลี่ฮั่นตงกับหม่าหลันจีนี่แหละที่ดูเหมาะสมกันดีแล้ว
“ค่ะพี่ฮั่นตง ฉันจะบอกพ่อกับแม่ไว้ให้ แล้วนี่พี่จะไปไหนเหรอคะ”
ท่าทางของหญิงสาวดูเขินอายไม่น้อย เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มในดวงใจจะไปที่บ้านของเธอ ก่อนจะเอ่ยถามว่าชายหนุ่มนั้นจะไปที่ใด
“พี่ว่าจะเข้าป่าเสียหน่อย นี่ก็สายแล้วพี่ไปก่อนนะ”
“ค่ะพี่ฮั่นตง” หม่าหลันจีตอบกลับก่อนจะมองเขาจนสุดสายตา
ภาพของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของโจวเพ่ยชิงตลอด เธอกำหมัดแน่นด้วยความเกลียดชังหญิงสาวจากบ้านหม่า ในใจนั้นคิดว่าไม่ได้การแล้ว เธอต้องจัดการบางอย่างเสียแล้ว ไม่อย่างนั้นพี่ฮั่นตงคงได้ตกเป็นของลูกสาวบ้านหม่าแน่
โจวเพ่ยชิงไม่สนใจเลยว่าทั้งสองจะเป็นคนรักกันหรือไม่ เธอต้องการเป็นคุณนายทหาร และเธอต้องทำมันสำเร็จ!
สามวันต่อมา โจวเพ่ยชิงสบโอกาส จึงวางแผนไปล้มทับ หลี่ฮั่นตง บุตรชายคนรองของตระกูลหลี่ คล้ายกับสถานการณ์จะเป็นใจทำให้มีชาวบ้านที่กำลังเดินผ่านทางนี้เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี สุดท้ายแล้วทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ด้วยความไม่เต็มใจของหลี่ฮั่นตง!
ทว่าความร้ายกาจของโจวเพ่ยชิงไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ในคืนเข้าหอ เธอยังวางยาสามีตนเองเพื่อมีความสัมพันธ์กับเขา หลังจากที่สามีกลับไปค่ายทหาร เขาก็ส่งเงินมาให้ที่บ้าน โจวเพ่ยชิงเรียกร้องจะเก็บของสามีเอง
เมื่อเห็นว่าสะใภ้คนนี้สร้างเรื่องสร้างราวไม่หยุดหย่อน คนที่บ้านหลี่เอือมระอาจนทนไม่ไหว จึงเรียกให้ฮั่นตงมาแยกบ้าน นั่นทำให้โจวเพ่ยชิงได้สร้างบ้านใหม่ หลังจากแยกบ้านได้ไม่นานหญิงสาวก็พบว่าตัวเองตั้งท้อง โจวเพ่ยชิงคลอดเด็กแฝดชายหญิง แต่เธอเลี้ยงดูพวกเขาไม่ค่อยจะดีนัก
วันหนึ่งหลี่ฮั่นตงกลับมาพร้อมกับอาการบาดเจ็บ เธอจึงขอหย่ากับเขา และหนีไปพร้อมกับเงินชดเชยก้อนโตที่สามีได้มาหลังปลดประจำการ โดยทิ้งสามีและลูกทั้งสองเอาไว้ตามยถากรรม
โจวเพ่ยชิงไปยุ่งกับผู้ชายที่ทำกิจการการค้าใต้ดิน หวังจะได้เป็นภรรยาของเขา และวันหนึ่งเพราะความหึงหวงของตัวเองที่ขาดสติ เกิดพลั้งมือทำร้ายน้องสาวของชายคนนั้นเข้า จึงทำให้ถูกเขาโกรธ ซึ่งเขาไม่ได้คิดจะจริงจังกับแม่ม่ายอย่างโจวเพ่ยชิงอยู่แล้ว จึงจัดการส่งตัวไปอยู่สถานที่ปลดปล่อยของบุรุษ!!
ทุกวันหญิงสาวต้องทนกล้ำกลืน ในใจนั้นหวนคิดถึงสามีและลูก รู้สึกผิดกับพวกเขาเป็นอย่างมาก รวมถึงทุกคนในครอบครัวของตัวเอง
“พี่ฮั่นตง ฉันขอโทษ อาเฉิน ซานซาน แม่ขอโทษ ขอโทษ”
ร่างกายของโจวเพ่ยชิงไม่สู้ดีนัก เนื่องจากเธอไม่ยินยอมใช้ร่างกายทำงานจนถูกทุบตี เวลานี้ลมหายใจเธอเริ่มแผ่วเบาแล้ว
“พ่อคะ พี่ใหญ่ พี่รอง หากมีโอกาส หรือชาติหน้ามีจริงฉันขอเกิดมาเป็นลูกของพ่อและน้องสาวของพี่ทั้งสองอีกนะ ชาตินี้ฉันทำเลวกับทุกคนมามาก หากได้เกิดมาในครอบครัวของทุกคนอีกครั้ง ฉันสัญญาว่าจะเป็นคนดี และอยู่ทดแทนบุญคุณของทุกคนไปจนวันที่หมดลมหายใจ”
หญิงสาวย้อนนึกถึงในวันวานที่เธอได้กระทำไม่ดีต่อคนมากมาย รวมถึงสามีและลูกทั้งสองคน หวังว่าทุกคนจะให้อภัยกับสิ่งที่ได้กระทำลงไปในชาตินี้ จากนั้นโจวเพ่ยชิงก็ตกตายไปในสถานที่ที่น่ารังเกียจนี้
“เพ่ยชิง”
เสียงเรียกจากใครบางคน ทำให้โจวเพ่ยชิงหันกลับมามอง หลังจากที่ร่างโปร่งใสยืนมองร่างของตนเองอยู่พักใหญ่
“คุณตาเป็นใครหรือคะ”
“ไม่ต้องรู้ว่าตาเป็นใครหรอก ตาอยากจะถามว่าเพ่ยชิงอยากกลับไปหาทุกคนหรือไม่”
“อยากสิคะคุณตา ฉันอยากกลับไปหาทุกคน อยากไปขอโทษครอบครัว พี่ฮั่นตง และอยากดูแลลูกทั้งสองจนเติบใหญ่”
โจวเพ่ยชิงตอบแบบไม่ต้องคิด เธอไม่รู้หรอกนะว่าชายชุดขาวตรงหน้านี้เป็นใคร ขอเพียงเขาทำให้เธอกลับไปได้ก็พอ
“อย่างนั้นตาจะให้เจ้ากลับไป แต่มีข้อแม้ ใบหน้าเจ้าจะยังมีแผลเป็นตรงแก้ม สิ่งนี้จะอยู่ติดตัวเจ้าไปตลอด เจ้าตกลงหรือไม่”
ชายชุดขาวเอ่ยถึงข้อตกลง หากเขาช่วยให้เธอกลับไปได้
“ยินดีและตกลงค่ะ ต่อให้ใบหน้าจะมีแผลเป็นไปชั่วชีวิต ฉันก็ยินดี ขอแค่ได้กลับไปก็พอแล้ว”
“อย่างนั้นตาจะให้มิติห้างสรรพสินค้าแก่เจ้า ซึ่งในนั้นจะมีทุกอย่าง รวมถึงอาหารที่สามารถทำให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบาก หากเมื่อไหร่ที่เจ้ากระทำความดี รอยแผลเป็นของเจ้าจะค่อย ๆ จางหายไป หวังว่าสิ่งที่ตามอบให้เจ้า เจ้าจะส่งต่อให้กับคนที่ยากลำบากและเลี้ยงดูครอบครัวให้ดี”
และเมื่อไหร่ที่เจ้าและสามีมีใจสื่อถึงกัน รอยแผลเป็นนั้นจะหายไปทันทีเช่นกัน ทว่าประโยคนี้ชายชราไม่ได้บอกบอกให้กับโจวเพ่ยชิงรับรู้
“ขอบคุณมากค่ะคุณตาที่มอบชีวิตใหม่ให้ฉัน”
คำขอบคุณออกมาจากใจของหญิงสาว พร้อมใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ
จากนั้นชายชราชุดขาวจึงพาร่างโปร่งใสมายังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งคือบ้านของเธอนั่นเอง
“เจ้าเห็นหรือไม่ ลูก ๆ ของเจ้ารักเจ้ามากเพียงใด”
โจวเพ่ยชิงมองภาพของลูกวัยสี่ขวบกว่ากำลังเช็ดตัวให้เธอด้วยน้ำตาอาบแก้ม
“แม่คะ แม่ตื่นมาเถอะนะคะ ซานซานจะไม่ดื้ออีกแล้ว แม่จะตีลูกก็ได้ ขอแค่แม่ตื่นขึ้นมาก็พอ”
นี่คือเสียงลูกสาวฝาแฝดของเธอ กำลังเช็ดตัวและร้องไห้อย่างหนัก โดยมีลูกชายอีกคนที่อยู่ไม่ไกลกัน ถึงแม้ว่าลูกชายคนโตจะไม่ค่อยพูด แต่เธอรู้ดีว่าเขาเองก็เสียใจเช่นกัน
“อย่าร้องไห้เลยลูก เดี๋ยวแม่ก็ตื่นนะ เชื่อยายเถอะ”
ซูหนานปลอบโยนหลานทั้งสองคน แม้ว่าเธอจะมีศักดิ์เป็นภรรยาใหม่ของโจวชุน แต่เธอกลับรักลูกทั้งสามคนของสามีไม่ต่างจากลูกของตัวเอง ถึงจะทำใจไว้แล้วเนื่องจากโจวเพ่ยชิงนั้นตกเขา ร่างกายแม้จะไม่มีส่วนไหนแตกหัก แต่ใบหน้าของเธอกลับมีรอยหินบาดลึก ซึ่งนี่คงจะกลายเป็นแผลเป็นตลอดไป
ต่อให้โจวเพ่ยชิงจะฟื้นขึ้นมาได้ ไม่รู้ว่าเธอจะรับใบหน้าของตนเองได้หรือไม่
โจวเพ่ยชิงมองภาพแม่เลี้ยงที่เธอมักจะหาเรื่องไม่เว้นวันด้วยน้ำตาอาบแก้ม ไม่คิดว่ายามนี้แม่เลี้ยงที่เธอรังเกียจจะมาคอยอยู่กับลูก ๆ ของเธอทั้งสองคน
“ได้เวลาแล้วเพ่ยชิง” ชายชราเห็นควรแก่เวลาจึงเอ่ยเรียก เพื่อจะส่งเธอกลับเข้าร่าง
“ค่ะคุณตา”
จากนั้นร่างโปร่งบางเลือนหายไป พร้อมกับเสียงไอของโจวเพ่ยชิงดังขึ้น