หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
"เฟ ได้ข้อมูลโน๊ตบุ๊คครบทุกคนยัง" พี่ตั๊กเดินมาถามฉันในขณะที่ฉันกำลังบันทึกข้อมูลโน๊ตบุ๊คทุกคนลงเครื่องคอม
"เหลือ พี่เจได ที่ยังไม่ได้ถามค่ะ" ฉันตอบพี่ตั๊กไป พร้อมเปิดหน้าจอให้ดู
"รอมันกลับมาคงไม่ทันทางญี่ปุ่นขอมาแน่ เฟ Team ไปถามเลย" พี่ตั๊กดูข้อมูลทีีฉันลงพร้อมบอกฉันให้ข้อความไปหาเขา คนที่ฉันคุยทางข้อความเรื่องคอมตลอดอาทิตย์ แต่ไม่เคยเห็นหน้าตาว่าเป็นยังไง
"ค่ะ พี่" พอฉันรับคำจากพี่ตั๊ก ฉันก็กดเข้าไปในโปรแกรม Team เพื่อจะถามพี่เขา แต่จู่ๆก็มีข้อความเข้ามาก่อน
Team
Jadai : วันนี้ยุ่งไหม
Ferin : ไม่ค่ะ พี่มีอะไรจะให้เฟรับใช้คะ
Jadai : ป่าว วันนี้ออกไปกับลูกค้าอีกจังหวัดในกัมพูชา ไม่มีอะไรทำ
คงเพราะฉันไปรบกวนพี่เขาบ่อย ทำให้เราสองคนคุยกันเกือบทุกวันก็ว่าได้ วันนี้พี่แกไม่เห็นฉันทักไปกวนก็คงสงสัยว่าฉันยังมีชีวิตดีอยู่ไหมล่ะมั้ง
Ferin : กำลังจะพิมพ์ไปถามพี่อยู่พอดีเลยค่ะ คือทางญี่ปุ่นให้เช็คอายุโน๊ตบุ๊คของแต่ละคนค่ะว่าใช้มานานแค่ไหน สภาพตอนนี้เป็นยังไงบ้าง พร้อมกับเลขเครื่องด้วยค่ะ ตอนนี้พี่เอาโน๊ตบุ๊คติดตัวมาด้วยรึป่าวคะ
Jadai : เดี๋ยวพี่ถึงโรงแรมจะส่งข้อมูลไปให้นะครับ
Ferin : ขอบคุณค่ะพี่
เวลาเที่ยง @บริษัท YSD
"กินข้าวกันมั๊ย" พี่อลันพูดขึ้นมาเพื่อถามทุกคนที่นั่งทำงานกันอยู่
"พี่อลันไปกินไหนอะ" พี่พิมถามขึ้นเป็นคนแรก
"ยังไม่รู้เลย พี่ภูมิ พี่ทราย ไปกินด้วยกันมั๊ย" วันนี้ที่ออฟฟิศ นอกจากพี่เจไดที่อยู่ต่างประเทศแล้ว แดลเนียล พี่มิ้ง และพี่เชียร์ก็ไปพบลูกค้ายังไม่เข้ามาเลย ส่วนพี่ตั๊กกับพี่ติ๊ก สองคนนั้นมักจะไปกันสองคนเสมอ ตอนแรกพี่ทั้งสองคนก็ชวนฉันไปด้วย แต่ฉันยังไม่หิว และอยากเคลียร์เรื่องคอมให้จบก่อน
"น้องเฟ ไปกินข้าวด้วยกันมั๊ยคะ" พี่อลันหันมาถามฉันหลังจากถามพี่ๆคนอื่นแล้ว
"เฟยังอิ่มข้าวเช้าอยู่เลยค่ะ ขอไปทานตอนบ่ายดีกว่า" ฉันบอกพี่อลัน ในขณะที่พี่ๆคนอื่นเริ่มลุกจากโต๊ะออกไปกัน
"ไม่ไปจริงๆเหรอคะน้องเฟ" พี่ทรายคนสวยเอ่ยถามอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปตามคนอื่นๆที่เดินไปแล้ว ฉันจึงยิ้มให้พร้อมส่ายหน้า
Team
Jadai : ID number 3416800654227 ขอโทษที่เพิ่งบอก พอดีเพิ่งได้เปิดคอม
Ferin : ขอบคุณค่ะพี่ มาช้าดีกว่าไม่มาค่ะ
Jadai : กินข้าวยัง
Ferin : ยังค่ะ กะว่าจะไปกินตอนบ่าย พี่หละคะทานข้าวยัง
Jadai : เพิ่งกินกับลูกค้าเสร็จ แล้วเราจะไปกินอะไร
Ferin : ยังไม่รู้เลยค่ะ คงกินร้านเดิมที่กินทุกวัน พี่มีร้านแนะนำมั้ยคะ
Jadai : คนอื่นๆไปกินข้าวกันหมดแล้วเหรอ
Ferin : ค่ะ
Jadai : ร้านข้าวตามสั่งตรงข้างตึก ร้านนั้นอร่อย ไม่แพง
Ferin : เดี๋ยวบ่ายนี้ไปลอง จะอร่อยเหมือนพี่ว่าไหม
Jadai : อือ กินให้อร่อยนะ
หลังจากฉันคุยในโปรแกรม Team กับพี่เจไดเสร็จ ฉันก็ลงข้อมูลสุดท้ายของงานที่ได้รับมอบหมายจากพี่ตั๊กเสร็จสิ้น แล้วจึงไปทานข้าวร้านที่พี่เจไดแนะนำ
"อ้าว วันนี้มากินนี่เหรอ" พี่ติ๊กทักฉันขณะที่ฉันกำลังทานข้าวร้านที่พี่เจไดแนะนำ
"ค่ะพี่ กินร้านเดิมทุกวัน เลยเดินๆมา เจอร้านนี้เลยลองทานดู" ฉันตอบพี่ติ๊กไป ขณะที่รออาหาร
"ร้านนี้ ร้านประจำไอ้เจ็คมันเลยนะ มันชอบมากินประจำ พี่กับพี่ตั๊กก็มากินแค่สองสามครั้งเอง งั้นไม่กวนแระ กินให้อร่อยนะ พวกพี่เข้าออฟฟิศก่อนแระ" พอได้ยินพี่ติ๊กพูดออกมาแบบนี้ อยู่ๆใจของฉันก็เต้นแรงแบบไม่มีเหตุผล แปลกจังหัวใจ ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
พอทานข้าวเที่ยงเสร็จในตอนบ่าย ฉันก็นั่งทำงานต่อ หลังจากส่งข้อมูลโน๊ตบุ๊คของทุกคนในออฟฟิศให้พี่ตั๊กเรียบร้อยแล้ว สำหรับงานวันนี้ไม่มีอะไรมาก มีเช็ค Invoice ให้ลูกค้า ใบกำกับภาษีต่างๆ ส่งเอกสาร ถือเป็นงานแอดมินแบบเบาๆอยู่สำหรับฉัน ในระหว่างที่ฉันกำลังเก็บของเตรียมกลับบ้านอยู่นั้น ก็มีข้อความจากโปรแกรม Team ขึ้นมา
Team
Jadai : กลับบ้านยัง
Ferin : กำลังเก็บของเตรียมตัวกลับค่ะ พี่มีอะไรให้เฟรับใช้คะ
Jadai : มีเอกสารที่อยู่ลิ้นชักโต๊ะ อยากได้ด่วน พอจะ Scan ส่งมาในเมลให้ได้ไหม
Ferin : ได้ค่ะพี่ แป๊บนะคะ
หลังจากที่ฉันพิมพ์ตอบพี่เขาไป ฉันก็เดินไปที่โต๊ะพี่เขาเพื่อเอกสารที่พี่เขาต้องการ ฉันเจอเอกสาร 2-3 ชุด จึงถ่ายรูปให้พี่เขาดูว่าอันไหนที่พี่เขาต้องการด่วน พอพี่เขาเห็นรูปเอกสาร 3 ภาพ ที่ฉันถ่ายส่งให้ดู ก็พิมพ์ตอบกลับมาว่าให้ส่งอันไหน
Ferin : SENT FILE
Jadai : Thanks
ข้อความสุดท้ายที่พี่เขาส่งมา ทำฉันใจเต้นอีกแล้ว มันคืออะไรนะ ทั้งๆที่เนื้อหาทีีคุยไม่ได้มีสาระสำคัญเหมือนคนที่จีบกันเลย มันเป็นประโยคธรรมดาสำหรับการขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานเท่านั้น แต่ใจฉันนี่เป็นอะไร เริ่มจะไม่ปกติในช่วงที่คุยกับพี่เขาหลังๆแล้ว หน้าก็ยังไม่เคยเจอ คุยกันผ่านตัวอักษรในโปรแกรมแชทเท่านั้น เป็นเอามากแฮะเรา
เวลา 18.30 น. @ห้าง PG
"รอนานมั๊ยแก" เสียงจีนเพื่อนคนเดียวของฉันถามขึ้นเมื่อมาถึงร้านที่เรานัดกันไว้
"เพิ่งถึงก่อนแกแป๊บเดียวเอง" ฉันตอบไปในระหว่างที่จีนกำลังนั่งลงฝั่งตรงข้ามฉัน
"เป็นไงบ้างที่ทำงานใหม่ ทำได้สองอาทิตย์แล้วหนิ เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ทุกคนเปล่า" จีนถามขึ้นพร้อมเรียกพนักงานมารับออร์เดอร์อาหาร
"ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับใครนะ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายกันนะที่นี่ ก้มหน้าทำงานใครงานมัน จะมีแบบเม้าส์กันก็ตอนเที่ยง" ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ
"แล้วพี่เจไดของแกล่ะ เจอกันรึยัง" น้ำเสียงของจีนที่ถามมาทำฉันใจสั่นอีกแล้วพอได้ยินชื่อนี้
ชีวิตของฉันตั้งแต่ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวอย่างสมบูรณ์แบบ ก็มีจีนคนเดียวนี่แหละที่ฉันจะเล่าทุกเรื่องให้ฟังหมด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เพราะจีนเป็นทั้งเพื่อน และเหมือนญาติสนิทคนเดียวบนโลกนี้ของฉันก็ว่าได้ แม้เราจะไม่ได้ผูกพันกันทางสายเลือดเลยก็ตาม
"ยังไม่เจอ เห็นพี่ๆที่ออฟฟิศคนอื่นๆ บอกว่า พี่เค้าต้องอยู่ที่โน่นยาวถึง 2 เดือน แต่ก็มีกลับมาไทยทุก 15 วันนะ แต่ไม่ได้เข้ามาออฟฟิศหรอก เพราะส่วนใหญ่จะกลับมาเสาร์-อาทิตย์ แล้ววันจันทร์ก็บินไปทำงานต่อ" ฉันพยายามนิ่งเวลาพูดถึงพี่เจได ทั้งๆที่ใจเต้นแรงทุกครั้งเมื่อได้ยินใครพูดถึงพี่เขา หรือฉันพูดถึงพี่เขา แต่เวลาพิมพ์คุยกันในโปรแกรม Team ฉันกลับไม่เป็นแบบนั้น จะอารมณ์ปกติ ไม่ใจเต้นแรงเลย เวลาคุยผ่านตัวหนังสือกับพี่เขา
"อืมม เสียดายจัง กว่าจะเจอพระเอกของเฟ อีกตั้ง 2 เดือน" จีนเกริ่นจนฉันตกใจ
"เฮ้ย บ้า พระเอกของเราที่ไหน พี่ร่วมงาน ที่เราเล่าให้ฟัง ไม่ได้ให้แกคิดไปไกล คุยกันทุกวันจริง แต่เรื่องงานล้วนๆ พี่เค้าอาจมีแฟนแล้วก็ได้แก" ฉันบอกจีน แต่ใจรู้สึกหดหู่กับคำพูดตัวเองไปด้วย ท่าจะบ้านะฉัน จะมาแอบชอบคนที่คุยด้วยผ่านตัวหนังสือ โดยไม่ได้เจอหน้ากันเลยนี่นะ
"แต่ถ้าไม่มีแฟนก็ดีนะ แกก็จีบเลยสิ" จีนยังยุต่อ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เจอหน้า แต่ยังยุให้ฉันชอบ สมกับเป็นเพื่อนกันได้จริง บ้าพอกัน
"แต่ในชีวิตความเป็นจริง ไม่มีใครสมหวังในความรักตั้งแต่ครั้งแรกหรอกนะ ชีวิตแกก็ไม่เคยมีความรักเลย ถ้าแกรู้สึกชอบพี่เจไดของแก ทำไมแกไม่ลองจีบพี่เค้าก่อนล่ะ" จีนแนะนำฉันให้ทำตามหัวใจดู ซึ่งฉันเริ่มคิดตาม
"ถ้าหัวใจเรียกร้อง ทำไมไม่ลองทำดูล่ะ ถ้าพี่เค้าคลิกกับแก ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าพี่เค้ามีแฟน หรือไม่คลิกด้วย แกก็แค่กลับมาจุดเดิม ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะ เราก็แค่แสดงความรู้สึกดีๆให้ อยู่ที่เค้าจะรับหรือปฏิเสธ" คำพูดของจีนยิ่งทำให้ฉันคิดหนัก และเริ่มอยากลอง
ฉันเกิดมาได้ 24 ปี บนโลกใบนี้ ฉันยังไม่เคยที่จะชอบใครเลยสักครั้ง ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาก็มีผู้ชายมาจีบบ้างนะ แต่ฉันเลือกที่จะผ่านไป เพราะที่ผ่านมาฉันต้องเรียนให้ดี ทำงานอย่างหนัก จนไม่คิดว่าความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายมีความสำคัญกับชีวิตฉันแต่อย่างใด มีหรือไม่มีฉันคิดว่าชีวิตของฉันก็คงดำเนินต่อไปได้ไม่น่าติดขัดอะไร
หลังจากที่แยกกันกับจีน ฉันลองทำตามคำแนะนำจีนดู มันก็ไม่มีอะไรเสียหายนะ ถ้าจะรู้สึกดีกับใครสักคน ฉันคิดว่าจะมอบความรู้สึกดีๆให้พี่เขาแบบเงียบๆ ถ้าพี่เขาไม่คลิกกลับ หรือมีแฟนแล้ว อย่างน้อยเราสองคนยังมองหน้ากันได้ในฐานะเพื่อนร่วมงาน เอาวะ ลองดูสักตั้งไอ้เฟ
ฉันคิดอยู่นานในระหว่างที่นั่งรถไฟฟ้า BTS กลับหอ สุดท้ายก็ตัดสินใจพิมพ์ข้อความไปหาพี่เขานอกเวลางาน
Team
Ferin : ทานข้าวยังคะพี่
Ferin : sent photo
Ferin : ท้องฟ้าตอนเลิกงานค่ะ
เงียบ ไม่มีการอ่าน ฉันถามพี่เขาไปพร้อมส่งรูปท้องฟ้าตอนเลิกงานให้ดู สงสัยนอกเวลางานแล้ว คงไม่ดูข้อความใน Team แล้วล่ะมั้ง ฉันจึงตัดสินใจเก็บมือถือลงใส่กระเป๋าสะพายคู่ใจที่จีนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว
ติ๊ด ติ๊ด (เสียงข้อความมือถือเฟริน)
Jadai : already. and you?
Jadai : sent photo