บทที่3

1155 Words
ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ซึ่งคอนโดของหลานชายผู้มีพระคุณหรูหราเสียจนนลิสาอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ กระนั้นก็พยายามทำตัวเป็นปกติ ไม่ทำให้เขาต้องเสียหน้า เพราะการกระทำตื่นตระหนกเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงของตัวเอง “ขอแวะที่นึงก่อนนะ” เป็นเสียงเข้มที่หันกับมาบอก ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือเล็กให้เดินตามกันมายังห้องๆ หนึ่ง เคาะประตูเพียงไม่นาน ผู้เป็นเจ้าของห้องก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมๆ กับรอยยิ้มอ่อนหวาน “คุณพิชญ์! กลับมาแล้วเหรอคะ ไหนว่าจะไปหลายวันไงคะ... เข้ามาก่อนสิคะ น้องกำลังทานอาหารว่างอยู่เลยค่ะ” พิชญ์ยิ้มรับต่อคำเชิญที่ดังขึ้น และไม่ลืมรั้งคนข้างกายให้เข้ามาในห้องด้วยกัน “ขอบคุณนะครับคุณพิมพ์ ที่อุตส่าห์ช่วยดูแลเจ้าแสบให้ระหว่างที่ผมไม่อยู่” เขาเอ่ยก่อนจะมองหา ‘คู่หูตัวแสบ’ ไปพลางๆ จนเมื่อมันได้ยินเสียงเขาก็รีบวิ่งเข้ามาหา ซึ่งเขาก็ย่อตัวอุ้มมันเอาไว้ “เรื่องแค่นี้เองค่ะคุณพิชญ์ คนบ้านใกล้เรือนเคยง...ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ” เจ้าของห้องว่า ก่อนจะปรายตามองไปยังแขกแปลกหน้า ที่ตนนั้นไม่ค่อยอยากจะต้อนรับสักเท่าไหร่ ไม่รู้กระทั่งว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร ใยจึงกลับมากับหนุ่มหล่อข้างห้องที่เธอหมายหมั้นปั้นมือ อยากจะมาเป็นพ่อของลูกเธอแบบนี้! “จริงสินิ่ม มาทำความรู้จักคุณพิมพ์ เพื่อนข้างห้องเราไว้เสียสิ” เมื่อพิชญ์เอ่ยเรียก เธอถึงได้ขยับเข้าไปใกล้เขาอีกนิด “สวัสดีค่ะคุณพิมพ์” “ไหว้พระเถอะจ๊ะ ว่าแต่...เธอเป็นใครเหรอคะ” คนถูกถามถึงกลับไปต่อไม่ถูก เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าต่อหน้าคนอื่นนั้นเธอควรอยู่ในสถานะไหนในชีวิตของเขากันแน่ เดือดร้อนพิชญ์ที่ต้องเป็นคนให้คำตอบ “นี่นิ่มครับ คนของคุณย่าผมเอง พอดีว่านิ่มเขาจะมาหางานทำที่กรุงเทพ ผมก็เลยให้เขามาพักอยู่ด้วยชั่วคราว ถ้ายังไง...เราสองคนขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับคุณพิมพ์” พิมพ์พาเพียงแต่ยิ้มรับ ไม่ได้พูดอะไรต่อจนกระทั่งสองคนกับอีกหนึ่งแมว พากันเดินออกไปจากห้องของเธอไป “หวังว่าจะเป็นแค่นั้นนะ ฉันจองของฉันมาตั้งหลายปี อยู่ๆ จะให้เด็กบ้านนอกคอกนาที่ไหนก็ไม่รู้มาชิงตัดหน้าไปแบบนี้ บอกไว้เลยนังพิมพ์จะไม่ทน!” เสียงหวานของหญิงม้ายเอ่ยขึ้นไล่หลังเบาๆ ยอมรับอย่างไม่อายเลยว่าหลังจากเลิกรากับอดีตสามีเฒ่าไปเธอก็ย้ายออกมาจากเรือนหอ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่คนเดียวเงียบๆ ที่นี่ จนกระทั่งได้พบเข้ากับเพื่อนข้างห้องสุดหล่อ ที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ นั่นเองเลยทำให้ชีวิตในแต่ละวันของเธอเต็มไปด้วยความหวัง ความหวังที่ว่าอยากจะเลื่อนขั้นตัวเอง จากเพื่อนร่วมห้อง เป็นเพื่อนร่วมเตียง ซึ่งก็เหมือนตัวเองจะขยับเข้าไปใกล้ความฝันที่ว่านั้นอีกก้าว เพราะอยู่ๆ ข่าวคราวที่ ‘เขา’ เลิกกับคนรักสาวก็ลอยเข้ามาใส่หู คิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเขากลับมาจากธุระที่ต่างจังหวัดเมื่อไหร่ เธอจะทุ่มสุดแรงเกิด ทำทุกทางเพื่อให้เขาตกมาเป็นของเธอให้จงได้ แต่แผนการทั้งหมดกลับต้องพังทลายลง เพราะพบว่าเขาดันไปเอายัยเด็กหน้าจืดที่ไหนก็ไม่รู้กลับมาด้วย ถึงเขาจะบอกชัดว่าเป็นแค่คนของย่าก็เถอะ แต่ตอนห้องเดียวกันแบบนั้นจะให้เธอวางใจได้ยังไง เกิดวันดีคืนดีนังเด็กนั่น มันหน้ามืดจับคุณพิชญ์ของเธอปล้ำขึ้นมาจะว่าไง! ไม่ได้การแล้วนังพิมพ์ แกจะต้องทำทุกอย่าง...ให้คุณพิชญ์ตกเป็นผัวของแกก่อนนังเด็กนั่นให้ได้! อีกด้านหนึ่ง “ลืมแนะนำไป...นี่หนูแย้ม เจ้าของห้องอีกคน” เป็นพิชญ์ที่เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ หลังจากเดินนำเพื่อนร่วมห้องคนใหม่เข้ามายังพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งเขาก็ไม่ได้อธิบายเปล่า แต่ยังยกเอาเจ้าแมวอ้วนในอ้อมกอดส่งไปให้คนตรงหน้าได้อุ้ม ซึ่งท่าทีออดอ้อนของมันก็ทำเอาคนที่รักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วอดที่จะยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ไม่คิดด้วยซ้ำว่าคนที่ตัวเองแอบปลื้มมานานหลายปีจะกลายเป็นทาสแมวกับเขาด้วย แล้วนี่ยังมีอะไรอีกไหมนะที่เธอยังไม่รู้! “มีเธอมาอยู่ด้วยก็ดีเหมือนกัน หนูแย้มจะได้ไม่เหงา” เมื่อเขาว่ามาแบบนั้น จะให้เธอว่าอะไรต่อไปนอกจากส่งยิ้มบางๆ กลับไป ไม่นานจากนั้นหญิงสาวก็ต้องเดินตามห้องมายังประตูบานหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินนำกันเข้าไปถึงได้รู้ว่ามันเป็นห้องนอนที่กะขนาดจากสายตา ใหญ่กว่าห้องเดิมของเธอที่บ้านสวนเกือบสามเท่า “ส่วนนี่...ห้องนอนของเธอ” เมื่ออีกคนยังคงไม่พูดอะไร จึงเป็นหน้าที่ของพิชญ์ที่ต้องเอ่ยบอก กระทั่งเห็นถึงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีของอีกฝ่ายเข้า เขาถึงได้เอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดห่วงไม่ไหว “มีปัญหาอะไรรึเปล่า” เพราะไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าการกลับมาจากไปเยี่ยมย่าหนนี้ เขาจะได้ของฝากเป็นคนตรงหน้ากลับมาด้วย พิชญ์จึงไม่ได้จัดห้องเอาไว้ให้ อีกทั้งแต่เดิมห้องนี้ เขาก็เอาไว้ใช้สำหรับเก็บของเท่านั้น จึงทำให้เกิดอาการกังวลขึ้นมา กลัวว่าอีกฝ่ายจะอยู่ไม่ได้ “คุณพิชญ์จะให้ฉันนอนห้องนี้จริงเหรอคะ” เสียงหวานหันไปถามเบาๆ เหมือนไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่นักกับเรื่องนี้ “ใช่...หรือเธออยากไปนอนห้องฉัน” “มะ...ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ! แต่ว่าห้องนี้มัน...จะไม่ใหญ่ไปหน่อยเหรอคะ” ที่จริงเธอนอนตรงไหนก็ได้ ขอแค่มีหมอนกับผ้าห่มให้ก็พอ อีกอย่างห้องนี้มันก็หรูมากด้วย ไม่เหมาะกับเด็กรับใช้อย่างเธอเลยสักนิด “ห้องนี้เล็กสุดแล้ว หรือถ้ากลัวว่าจะเหงา จะหอบหมอนกับผ้าห่มไปนอนกับฉันที่ห้องก็ได้นะ...” เขาเอ่ยแซวอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเอื้อมไปคว้าเจ้าตัวกลมมากอดไว้ แล้วพากันเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าของห้องคนใหม่ ได้สำรวจห้องตามลำพังต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD