“คุณภูผา นานานึกว่าคุณจะไม่มาหานานาอีกแล้ว...”
เสียงอันดีใจระคนน้อยใจของ นานา ดังขึ้น เมื่อเห็นภูผาเปิดประตูห้องเข้ามา เธอถูกทาบทามให้มาเป็นนางบำเรอของเขาตั้งแต่ต้นปี และเขาก็มาหาเธอแทบนับครั้งได้ เมื่อเธอเองก็เข้าใจ เพราะเธอก็แค่ 1 ใน 10 กว่าคนที่เขาเลี้ยงเอาไว้บำเรอ
“กวินทร์ไม่ได้บอกเหรอว่าผมจะมา”
ภูผาที่เดินเข้ามาถามขึ้น เพราะทุกครั้งถ้าเขาจะไปหาผู้หญิงคนไหน เขาจะบอกให้กวินทร์แจ้งพวกเธอก่อนทุกครั้ง เมื่อต้องทำตัวให้ว่างรอเขา
“บอกค่ะ แต่นานาไม่คิดว่าคุณจะมา เหมือนครั้งก่อน...”
นานาบอกขึ้น เพราะครั้งก่อนที่เขาบอกจะมาหา เธอรีบไปร้านเสริมสวย แต่งตัวสวยเพื่อรอเขา แต่สุดท้ายเขากลับไม่มาและเธอก็ได้ยินข่าวมาว่าเขาไปหาผู้หญิงอีกคนแทน
“หึหึหึ นี่ของขวัญ ถือซะว่าชดเชยครั้งก่อน”
“อะไรคะ…”
นานารีบเดินเข้าไปเอาถุงกระดาษที่เขายื่นมาให้ ก่อนจะพบว่ามันเป็นเครื่องประดับเพชร เธอถึงกับเงยหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้มกว้างพร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นไปกดจูบปากหยักเพื่อขอบคุณ
“อึ๊ อื้อ...”
แต่เธอกลับไม่ได้ถอนปากออก เมื่อมือใหญ่เอื้อมมาโอบกอดกระชับเธอเอาไว้แล้วจูบหนักหน่วง จนนานาที่ไม่ทันได้ตั้งตัวต้องครางออกมาอย่างพึงพอใจ
จากนั้นเธอก็ตอบสนองจูบของเขาพร้อมกับตวัดขาขึ้นโอบรัดเอวสอบ แล้วภูผาก็ช้อนอุ้มพาเธอเดินไปที่เตียง ก่อนจะวางนานาลงนั่ง และจากนั้นเธอก็เริ่มทำงานเมื่อเขายืนจังก้ารอรับความสุขจากเธออยู่
“ผมมีเวลาแค่สามชั่วโมง...ขอแบบเน้นๆหนักๆ”
เขาบอกขึ้นพร้อมกับมองหน้าสวยของนานา เธอกำลังถอดกางเกงให้กับเขา ก่อนจะงัดเอาความเป็นชายที่เขาภาคภูมิใจออกมา
นานาอ้าปากรับเอาความใหญ่โตเข้าไปพร้อมกับใช้ลิ้นอันช่ำชองตวัดเลียไปบนหัวเห็ดบานหยัก ก่อนจะค่อยๆไต่ลงมาตามลำเอ็นที่มีเส้นเลือดปูดโปน
“อ๊าาาา!!”
ภูผาถึงกับปล่อยเสียงครางออกมา หน้าคมแหงนหงายรอรับความเสียวกระสันที่นานาจะมอบให้เขาในวันนี้ เมื่อสิ่งเดียวที่ทำให้เขายังเก็บเธอเอาไว้ก็เพราะนานาช่ำชองเรื่องการใช้ปากในการให้ความสุขเขานี่แหละ
ส่วนนานา หลังจากที่แห้งเหี่ยวรอมาเป็นเดือนจนเธอแทบทนไม่ไหว เพราะสิ่งเดียวที่ภูผาห้ามคือการนอกกายเขา ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่จะมาเจอเขานั้นเธอมักเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆจนภูผาเสนอเงินก้อนโตเพื่อให้เธอมาเป็นผู้หญิงของเขานั่นแหละเธอจึงไม่ได้ยุ่งกับใครอีกเลย
“เร็ว! กึด! อ๊า! เร็วอีก!”
เสียงสั่นกระเส่าสั่งขึ้น เมื่อตอนนี้นานากำลังกลืนกินเขาอย่างหนักหน่วง ลิ้นร้อนตวัดอย่างบ้าคลั่งจนน้ำรักปริ่มไหลออกมาอยู่รอมร่อ
จากนั้นไม่นาน นานาก็ปลดปล่อยความต้องการอันมากมายจนล้นของเขาออกมา เธอไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเมื่อกลืนกินน้ำรักจนจะอาดหมดจด
“พอใจไหมคะ?...”
เธอเงยหน้าขึ้นมาถาม เมื่อเห็นเขาสุขสมแล้ว
“อื้อ...เธอไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเลยเรื่องนี้...”
ภูผาบอกขึ้น ก่อนจะดันให้นานานอนลงบนเตียง เขาดึงเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของตัวเองออก ก่อนจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ป้องกันออกมาใส่ นานามองเขาอย่างหลงใหล เมื่อทั้งรูปร่างหน้าตาของภูผานั้นบอกได้เลยว่าหล่อระดับพระเอก รวยระดับมหาเศรษฐี แต่เสียดายที่เขาไม่เคยคิดจะยกระดับผู้หญิงคนไหนให้มายืนเคียงข้างเขา และพวกเธอก็เป็นได้มากสุดแค่นางบำเรอของเขาก็เท่านั้น
สวบ!!
“ฮึ่ม!!...”
พอสวมใส่เครื่องป้องกันเสร็จ เขาก็ไม่รอช้าสอดใส่เข้าไปในร่องสาวรวดเดียวจนมิดลำยาวเมื่อเวลาแห่งความสุขกำลังจะหมดลง
จากนั้นเขาก็กระหน่ำแรงรักใส่เธอไม่ยั้ง เมื่อทุกคนต่างก็รู้อยู่แล้วว่าความต้องการของเขามันมากมายและหนักหน่วงขนาดไหน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่จ่ายเงินซื้อพวกเธอมาเพื่อสนองเขาโดยเฉพาะอย่างนี้
“ไปเถอะนะคะน้องเจส พี่บอกเจ้าของงานแล้วว่าจะส่งคนอื่นไปแทน แต่เขาไม่ยอม...นะคะ...ไปเถอะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ปีโป้จะยกเลิกตารางงานให้หมดเลย ขอแค่ไปงานนี้...นะคะ”
“เฮ้อ...ก็บอกว่าไม่ เจสง่วง ได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง...”
“นะคะ ถือว่าพี่ปีโป้ขอร้อง...”
และสุดท้าย เจสสิก้าก็แพ้ให้กับคำอ้อนวอนของผู้จัดการอย่างปีโป้ เธอลุกจากที่นอนโดยมีปีโป้คอยช่วยแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อไปงานเย็นนี้เมื่อเจ้าของงานยืนยันว่าเธอต้องไปให้ได้ เพราะดันไปโปร โมทว่าเชิญดาราสาวคนดังอย่างเจสิก้ามา ทำให้คนพากันขอเข้าร่วมงานจนบัตรเชิญไม่พอ
และพอไปถึงงาน เจสสิก้าก็แทบอยากกลับออกมา เมื่อเธอกลายเป็นจุดสนใจเกินกว่าที่เธอคิดเมื่อเดินไปทางไหนก็มีแต่คนเดินเข้ามา ทั้งขอจับมือทั้งขอถ่ายรูป เธอยิ้มจนปากแทบฉีก กว่าจะได้พักก็ตอนที่เจ้าภาพเรียกแขกไปนั่งโต๊ะเพื่อฟังการกล่าวเปิดงาน
“เหนื่อยไหมคะน้องเจส?”
ปีโป้ถามขึ้น เมื่อเธอพึ่งเกินกลับเข้ามาหลังจากคุยงานเสร็จ
“แล้วคิดว่ายังไงล่ะคะ”
พอได้ยินแบบนั้น ปีโป้ได้แต่ยิ้มฝืนๆส่งไปให้ เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าพวกคนรวยพวกนี้ทำไมถึงอยากถ่ายรูปและรู้จักดาราแบบเจสสิก้านักหนา
ส่วนเจสสิก้า ตอนนี้เธอกำลังมองไปบนเวที เมื่อเจ้าภาพได้เชิญแขกคนสำคัญขึ้นไปบนเวที ซึ่งเจสสิก้ามองอย่างสนใจ เมื่อคนที่เดินขึ้นไปนั้นดันสะดุดตาและสะดุดใจเธอเข้าอย่างจัง
“ใครคะ?...ที่เดินขึ้นไปบนเวที”
เจสสิก้าถามออกมาพร้อมกับมองจ้อง
“ไหนคะ...คนขวาก็คุณก้องภพเจ้าของงาน ส่วนคนซ้ายคุณภูผา เจ้าพ่อธุรกิจนำเข้าและส่งออกแถมยังเป็นเจ้าของห้างและร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศอีก นี่น้องเจสไปอยู่ไหนมาคะไม่รู้จักเขาเนี่ย”
ปีโป้บอกออกมาตามที่เธอรู้
“หรือว่าน้องเจสสนใจ? ไม่ได้นะๆๆ”
“ทำไมคะ? หรือเขาเป็นคนไม่ดี”
พอได้ยินแบบนั้น เจสสิก้าถึงกับหันมามองผู้จัดการของเธอ
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ...นี่ข่าววงในสุดๆเลยนะคะ ผู้ชายคนนั้นน่ะ เขารวย รวยแบบรวยมากๆ ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยแต่งงาน...”
“เขาเป็นเพศที่ 3 เหรอ?”
ปีโป้ยังพูดไม่จบ เจสสิก้าที่ฟังถึงกับอ้าปากค้างเมื่อคิดว่าคนหล่อๆ รวยๆแบบเขาชอบเพศเดียวกัน
“ฟังพี่พูดให้จบก่อนสิคะ เขาไม่ได้ชอบเพศเดียวกัน แต่คุณภูผาน่ะ เขามีฮาเร็มค่ะ ถ้าเขาเจอใครที่เขาถูกใจ เขาจะพาเข้าฮาเร็ม เขายอมจ่ายเงินและปรนเปรอพวกเธอ เรียกได้ว่าเป็นเสี่ยเมืองไทยเลยก็ได้ น้องเจสรู้จักยัยคาร่า ยัยนานา ยัยน้ำฟ้าแล้วก็ยัยปลายฝันใช่ไหมคะ? นั่นน่ะ นางในฮาเร็มของพ่อหนุ่มสุดหล่อบนเวทีทั้งนั้น ไม่นับที่หลบๆซ่อนๆและที่ไม่ได้เปิดเผยตัวอีก ก็น่าจะเป็นสิบ”
พอได้ยินแบบนั้น เจสสิก้าถึงกับหันไปมองภูผาที่ยืนยิ้มอยู่บนเวทีอย่างไม่อยากเชื่อ เขาทั้งหล่อ ดูดี ท่าทางสุภาพ แต่ไม่คิดว่าภายใต้หน้ากากนั้นจะเป็นพวกบ้ากามเสียดาย เจสสิก้าเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อเขาแทบไม่ทัน
“น้องเจสไม่ต้องไปรู้จักเขานะคะ ถ้าเกิดเขาถูกใจน้องเจสขึ้นมามันจะเป็นเรื่องเอาได้”
“ไม่มีทางหรอกค่ะ เจสน่ะไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงิน ที่มีก็ใช้ไม่หมดแล้ว อีกอย่างเจสไม่ชอบไปเป็นของเล่นของใคร”
“ให้มันจริงเถอะค่ะ ไอ้พวกที่อยู่ในฮาเร็มน่ะก็ทั้งนางเอก นางแบบระดับแนวหน้ากันทั้งนั้น ทางที่ดีอย่าไปรู้จักเขาเลยดีกว่า”
ปีโป้บอกออกมา เมื่อเธอไม่อยากเสียเจสสิก้าให้กับผู้ชายแบบภูผา เธอเสียดายทั้งความสาว ความสวยและความสามารถถ้าเกิดถูกเอาเข้าไปไว้ในฮาเร็มเหมือนผู้หญิงหลายๆคน
ส่วนเจสสิก้า จากที่รู้สึกถูกใจกลับกลายเป็นรู้สึกรังเกียจ เมื่อเธอเองก็เข้าใจเรื่องความต้องการทางเพศของมนุษย์ แต่เรื่องซื้อผู้หญิงไปไว้บำเรอแบบนั้นมันเกินกว่าที่เธอจะรับได้ เธอให้ความสำคัญกับชีวิตคู่และคนที่จะเข้ามาในชีวิต เมื่อเธอเองก็ยังคงค้นหาคนที่เธอจะสามารถฝากชีวิตเอาไว้ด้วยได้ เรียกได้ว่าเธอมีพร้อมแล้วทุกอย่าง ขาดก็แค่คนที่จะมาเดินเคียงข้างเพียงเท่านั้น