สัปดาห์แรกของการฝึกงานที่บริษัทของกันต์ธีร์ผ่านไปอย่างราบรื่น เขาทำความรู้จักกับบรรยากาศในที่ทำงานและได้เรียนรู้วิธีการทำงานพื้นฐาน เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ผู้จัดการเดินมาหาเจ๊แววและเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
“แววๆ สัปดาห์นี้สอนงานน้องกันต์หน่อยนะ” ผู้จัดการพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและเป็นมิตร
เจ๊แววพยักหน้าและหันไปมองกันต์ธีร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอรับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นและความตั้งใจของเขาในการทำงาน
“กันต์นี่พี่แววนะ” ผู้จัดการแนะนำ
กันต์ธีร์ยิ้มและโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ เขาพูดจาอ่อนน้อมด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและจริงใจ “สวัสดีครับพี่แวว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
เจ๊แววยิ้มตอบรับและกล่าว “ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะกันต์ เดี๋ยวพี่จะสอนงานให้เอง” พร้อมทั้งจับมือกันต์ธีร์อย่างเป็นกันเอง
การเริ่มต้นในสัปดาห์ที่สองของกันต์ธีร์เริ่มต้นขึ้นด้วยความมั่นใจและความตั้งใจที่ดี เขาพร้อมที่จะเรียนรู้และทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้การดูแลของเจ๊แวว
เกือบสองสัปดาห์ที่กันต์ธีร์ทำงานที่บริษัท เขาไม่มีท่าทีว่ารู้จักกับพิมลดาเป็นการส่วนตัวเลย แม้จะมีความใกล้ชิดกันในที่ทำงาน แต่กันต์ธีร์ก็ยังคงวางตัวเยี่ยงเด็กฝึกงานทั่วไป ด้วยการทำตัวน่ารักและสุภาพ จึงทำให้สาวๆ ในบริษัทต่างหลงรักและเอ็นดูเขาอย่างมาก
พิมลดาเห็นสถานการณ์นี้แล้วรู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อย ขณะที่เธอคิดในใจว่า
“ใครจะไปรู้ดีเท่าฉัน ไอ้เด็กนี่มันตัวแสบ”
ถึงแม้กันต์ธีร์จะวางตัวเหมือนเด็กน้อยที่น่ารัก แต่พิมลดารู้ดีว่าเขามีอะไรมากกว่านั้นและสามารถเห็นแง่มุมที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความน่ารักของเขาได้
ตอนเที่ยงวันหนึ่ง ที่โต๊ะอาหารในบริษัท สามสาวเจ๊แวว นิตา และพิมลดานั่งอยู่ด้วยกัน เจ๊แววก้มหน้าลง ลดเสียงให้ได้ยินเฉพาะกลุ่มของพวกเธอเท่านั้น
“นี่ เจ๊แววเริ่มต้นด้วยเสียงกระซิบ “เด็กเธอน่ะ ยังไงกันยังไงกันอยู่บริษัท เหมือนเธอสองคนทำเป็นไม่รู้จักกันนะ”
นิตาเคลื่อนหัวเข้ามาใกล้พิมลดา ขณะที่เธอพูดเสริม
“นั่นสิ พี่ลดา มันยังไง เลิกซัมติงกันแล้วเหรอ”
พิมลดามองไปที่เจ๊แววและนิตา ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ขณะที่เธอพยายามหาคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามของพวกเธอ
พิมลดานั่งท่าทางนิ่งขณะพูดกับเจ๊แววและนิตา รู้สึกถึงความอึดอัดจากคำถามที่ไม่ค่อยอยากตอบ
พิมลดา: “ก็ดีแล้วนี่ เลิกมาวุ่นวายก็ดี
เจ๊แววยิ้มกว้างพลางชี้ไปที่กันต์ธีร์ที่เดินอยู่ตรงทางเดินโรงอาหาร โดยสาวๆต่างพากันเดินรายล้อมกันต์ธีร์อยู่ เขาหัวเราะและพูดคุยอย่างอารมณ์ดี แสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรและน่ารักที่ทำให้สาวๆ รอบตัวเขายิ้มแย้มและสนุกสนาน
พิมลดามองไปที่กันต์ธีร์ที่กำลังเดินคุยและหัวเราะกับกลุ่มสาวๆ อย่างมีความสุข รู้สึกถึงความไม่พอใจที่ลอยขึ้นมาจากใจของเธอ ความรู้สึกนี้เป็นอะไรที่เธอไม่ค่อยเข้าใจ เหมือนมีความหงุดหงิดและไม่พอใจที่เห็นกันต์ธีร์ได้รับความสนใจมากมายจากสาวๆ
“นั่นๆ เดินมาโรงอาหารแล้ว หูย สาวน้อยสาวใหญ่ห้อมหน้าห้อมหลังเลยนะ” เจ๊แววพูดอย่างร่าเริง
พิมลดาเพียงแค่พยักหน้าและหันไปมองกันต์ธีร์ที่ยิ้มแย้มอยู่กับกลุ่มสาวๆ ร่างของเขาสูงใหญ่และดูโดดเด่นในกลุ่ม ขณะที่เธอรู้สึกถึงความร้อนในหน้าและความรู้สึกที่แปลกประหลาดในใจ ทำให้เธอไม่สามารถละสายตาจากเขาได้
ในขณะที่เจ๊แววและนิตายังคงพูดคุยกันเรื่องอื่น พิมลดากลับรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งที่กระทบใจเธอ ความรู้สึกนั้นไม่เหมือนกับสิ่งที่เคยรู้สึก แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในใจของเธอ
พิมลดาเพิ่งขับรถมาถึงบ้านและกำลังจะกดปิดประตูหน้าบ้าน เมื่อกันต์ธีร์เดินเข้ามาพร้อมกับฉุดแขนของเธออย่างรวดเร็ว การกระทำที่ไม่คาดคิดทำให้พิมลดาอึ้งและตกใจ
“จะพาฉันไปไหน!” พิมลดาตวาดด้วยเสียงดังและฉุนเฉียว
กันต์ธีร์มองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาและไม่แสดงความรู้สึกมากนัก “ถ้าส่งเสียงดังมากเดี๋ยวบ้านอื่นเค้าก็รู้หรอกว่าเราทำอะไรกัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย พร้อมกับดึงพิมลดาไปที่บ้านของเขาซึ่งติดกับรั้วบ้านของเธอ
พิมลดาเงียบเสียงลงแต่ยังพยายามดิ้นรนแ แต่กันต์ธีร์กลับไม่สนใจและลากเธอไปอย่างเงียบๆ สถานการณ์นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด และพิมลดารู้สึกถึงความเป็นเจ้าของที่กันต์ธีร์แสดงออกมา ทั้งความโกรธและความไม่พอใจทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อพวกเขามาถึงหน้าบ้านของกันต์ธีร์ พิมลดายังพยายามขัดขืน แต่กันต์ธีร์ก็ยังคงยืนแน่นและดึงเธอเข้าไปในบ้านอย่างมั่นใจ การกระทำของเขาแสดงถึงความเด็ดขาดและความต้องการควบคุมทุกอย่าง แม้ว่าพิมลดาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่สนใจและพาเธอเข้าไปในบ้าน
กันต์ธีร์สั่งพิมลดาให้ “นั่งลง” พร้อมกับกดไหล่ของเธอให้ทำตามคำสั่งอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ พิมลดาพยายามบ่นด้วยเสียงงอแง “ไม่กิน เหนื่อยจะกลับบ้านอาบน้ำนอน”
กันต์ธีร์ไม่ยอมอ่อนข้อ เขาพูดเสียงเข้มอย่างดุ “นอนนี่”
พิมลดาตอบเสียงไม่เต็มใจ “ห๊ะ อะไร ไม่”
กันต์ธีร์หันร่างสูงของเขามาดึงเก้าอี้ที่พิมลดานั่งอยู่และดึงให้เธอเข้าใกล้ เขาพูดด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและร้ายกาจ “พี่เป็นเมียผมแล้วนะ ผมอยากให้พี่นอนนี่”
รอยยิ้มของกันต์ธีร์ที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้พิมลดาหน้าแดงระเรื่อ เธอรู้สึกถึงความเขินอายและความโกรธที่มาผสมผสานกันในตัวเอง
“ไอ้บ้าาา”
เธอพูดออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้