บทที่3.เพียงฝันไป........

1591 Words
เขาจะไปทำอะไรที่นั่น?            “เชิญนั่ง...เธอเหลือเวลาอีกแค่...30 นาที” เขาเอ่ยถามบอก เมื่อเห็นว่ามิแรนดายังคงโอ้เอ้ “หึ!!” หล่อนสะบัดหน้า กระแทกเท้าแรงๆ เดินมาหยุดเบื้องหน้าโต๊ะทำงานของลูคัส “เอมจด!!” หันมาตวาดเอรินทร์อีกครั้ง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เมื่อชายหนุ่มผายมือเป็นเชิงเชื้อเชิญ “ไม่ทราบว่าคุณคิดยังไงมาจับธุรกิจตัวนี้คะ เมื่อคู่แข่งของคุณคือบาร์วคอมโพสิต?” หล่อนถามตรงประเด็นแบบเจาะลึก แต่เอรินทร์สะดุ้งเช่นเคย “ไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะหากผมล้มช้างได้!! หมายความว่าผมเก่ง” เขาตอบพร้อมกับมุมปากที่กระดกขึ้นเหมือนยิ้ม “ล้ม... บาร์ว คุณคิดว่ามันจะง่ายๆ หรือคะ เมื่อบาร์วเขาแน่นปึก!!” มิแรนดาพูดเหมือนเยาะ ความฝันของลูคัสยิ่งใหญ่ แต่เหมือนจะเป็นฝันเฟื่อง ลูคัสเงียบไปชั่วครู่ เขาอมยิ้ม “มันก็ไม่แน่ไม่ใช่เหรอ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้...หากผมมีความตั้งใจจริง”            “มันก็ใช่ เพราะเวลาแค่3 ปีคุณยังมาไกลได้ขนาดนี้ แต่คงอีกสัก10ปีมั้งคะ คุณถึงจะโค่นบาร์วออกไปถนนธุรกิจได้ เมื่อเขาน่าจะแน่พอตัวไม่อย่างนั้นคงไม่ยืนยงนานขนาดนี้ได้หรอกค่ะ”            มิแรนดาไม่ได้เอนเอียงข้างใด เธอพูดตามเนื้อผ้า บริษัทเกิดใหม่จะมาสู้ฐานแน่นปึกของเจ้าธุรกิจเก่าๆ ได้ยังไง ถึงเขาจะเป็นหนุ่มไฟแรง แต่ประสบการณ์น้อยเกินไป            เอรินทร์นึกห่วงบิดาจับใจ หากลูคัสเอาจริง เธอคิดว่าเขาทำได้ เพราะแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เขายังผงาดขึ้นมายืนเทียบข้างบิดาเธอได้ แล้วเวลาต่อไปนี้ล่ะ หากเขาคิดจะล้มบาร์วจริง!! มีหรือเขาจะทำไม่ได้...            มือของเธอจึงสั่นและลูคัสก็มองเห็น เขายิ้มเยาะและคิดในใจ สารที่เขา ‘ฝากส่ง’ คงถึงหูคนของบาร์วในไม่ช้า            “ผมไม่เคย ‘โกง’ เพื่อให้ตัวเองยืนยง สิ่งที่เดมเชียทำคือความซื่อตรง และความซื่อตรงอันนี้แหละที่ทำให้ เดมเชียมีทุกวันนี้ไงครับ”            ลูคัสแอบเหน็บ บาร์วไม่สนใจวิธีการ ไม่ว่าจะต่ำทรามยังไง หากเป้าหมายที่บาร์วต้องการ เขาพร้อมทำ ซึ่งมันไม่ใช่วิถีของลูคัส เขามีกึ๋น มีสมอง ไม่ร้อยเล่ห์ พันเหลี่ยมเหมือนบาร์ว แต่ก็ไม่โง่!!            “น้ำชาค่ะบอส”            ตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้บรรยากาศน่าอัดอัดคลายลงบ้าง แองเจิ้ลยกถาดที่มีกาน้ำชากับขนมหวานมาเสิร์ฟ เจ้าหล่อนส่งเสียเจื้อยแจ้วพร้อมกับยิ้มหวานจ๋อย            “กำลังคอแห้งพอดี...แล้วนี่อะไร?”            ลูคัสยกแก้วน้ำชาร้อนๆ ที่แองเจิ้ลรินส่งให้เขา พร้อมกับหยิบขนมสีสวยโยนใส่ปาก ตามด้วยการจิบน้ำชาช้าๆ            “แหะๆ” เลขานุการคนสวยยิ้มกร่อยๆ “ไม่รู้สิฮ้า คุณคนนี้เอามาฝาก แองเจิ้ลเห็นว่าหน้าตาน่าทานดี เลยยกมาเสิร์ฟ” ลูคัสชะงัก ฟันที่เคี้ยวหงุบหงับหยุดลง แล้วก็เคี้ยวหยับๆ ต่อเมื่อรสหวานหอมในอุ้งปากแผ่กระจายไปทั่ว ทั้งกลิ่นและรสแปลกๆ ไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อน            “อาลัว เป็นขนมไทยค่ะ เอมเอาติดมาด้วย...เลยอยากแบ่งให้ชิม”            หญิงสาวตอบพร้อมกับรีบหลบสายตา เมื่อลูคัสตวัดสายตามามองเธอ            “แปลกดี นุ่มๆ กรอบๆ หอมเหมือนมีดอกจัสมินเต็มปาก” ชายหนุ่มเปรย เขาชอบก็บอกตรงๆ มันหวานหอมเหมือนคนเอามา น่าลิ้มลองจนแทบอดใจรอไม่ไหว มันคงเป็นเกมสุดสนุกที่ได้กระชากดวงใจของคลอลิน...เขาเล็งทั้งเอรินทร์และเฮนน่า สองสาวที่เขาจะปั่นหัวทำให้ไอ้แก่คลอลินคลั่งตาย!!            “มีส่วนผสมของดอกไม้ที่คุณเอ่ยถึงค่ะ แต่ที่หอมติดจมูกจริงๆ น่าจะเป็นควันเทียน”            กรรมวิธีในการทำยุ่งยากเสียจนเอรินทร์ถอดใจ เธอชื่นชอบขนมไทยทุกชนิดเมื่อมารดาปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ร้านอาหารไทยเป็นสิ่งเดียวที่จะฉกสตางค์ไปจากกระเป๋าเธอได้ เมื่อเอรินทร์มักจะไปนั่งนึกถึงความหลังระหว่างตัวเองกับมารดา และลิ้มรสอาหารรสจัดจ้าน กับขนมหวานหอมมัน            “อืม...ผมรู้จักสาวไทยหลายคนนะ แต่ไม่ยักกะมีใครนำเสนอ เธอเป็นคนแรกที่แบ่งปั้นความอร่อยแบบนี้มาให้ เธอเป็นคนไทยเหรอ? ผมคิดว่าน่าจะใช่!!”            ลูคัสแสร้งชวนคุย เขาจิบน้ำชาไปเรื่อยๆ สลับกับการโยนขนมก้อนเล็กๆ ใส่ปาก โดยที่มิแรนดาได้แต่นั่งทำหน้าเซ็ง มหาเศรษฐีอย่างลูคัสนิยมบริโภคขนมหน้าตาแปลกๆ แบบนี้เองเหรอ            “ไม่ใช่แท้ๆ หรอกค่ะ เอมเป็นลูกเสี้ยว” เธอตอบเลี่ยงๆ พยายามดึงประเด็นให้ไกลตัว “ที่โรมนี่ เอมเห็นมีร้านอาหารไทยด้วย หากคุณชอบ แวะไปที่นั่นค่ะ ขนมนี่เป็นของขึ้นชื่อและมักจะมีขาย แต่อีกหลายอย่างก็ชวนลองนะคะ เอมชอบทุกอย่างที่เป็นไทยแลนด์ สักวันเอมจะไปที่นั่น”            ความฝันของเอรินทร์คือการไปเยือนประเทศบ้านเกิดของมารดาสักครั้ง นำอัฐิของเอมิกาคืนสู่บ้านเกิดและกลับไปซุกอกตา-ยาย ที่เคยเห็นแต่ในรูปภาพ สองท่านนั่นจะต้องเผื่อแผ่ความรักให้เธออย่างแน่นอน เมื่อดวงตาของคนทั้งคู่อ่อนโยนไม่แพ้มารดาของเธอเลย            “น่าสนใจ...ผมคิดว่าน่าจะมีสาขาของเดมเชียอยู่ที่นั่นนะ อืม...ไม่ค่อยแน่ใจ...แต่น่าจะมี”            ชายหนุ่มทำท่าครุ่นคิด เขามองเอรินทร์ยิ้มๆ สาวใสนัยน์ตาชวนฝัน ปั่นหัวได้ไม่อยาก และที่สำคัญเขาแน่ใจ ในแววตาที่หล่อนพยายามแอบซ่อนไว้ มีแววชื่นชมเขาเต็มๆ            “เวลาใกล้จะหมดแล้วนะคะ แรนดาคิดว่าคุณน่าจะตอบคำถามของแรนดาดีกว่า การสนใจขนมพื้นๆ แบบนี้”            มิแรนดาพูดแทรก...หล่อนเริ่มเคืองเอรินทร์มากขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้ชาย หากได้ใกล้ชนิดแม่สาวสุดเชยคนนี้ ดูเหมือนจะหลงเสน่ห์หล่อนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายที่ไม่เต็มร้อยอย่างอัลเฟรด            “คุณก็ถามผมมาสิมิแรนดา...ผมพร้อมจะตอบอยู่แล้ว...นี่คุณเงียบ...ผมก็ต้องหาเรื่องคุย ไม่อย่างนั้นเซ็งตายห่...”            ลูคัสตวัดตาใส่นักข่าวหัวเห็ด เขาตอบเสียงขุ่น เกือบเผลอสบถด้วย ดีที่ยังไว้ทัน            สาวสุดเฉี่ยวเกือบตวาด ดีที่ช้อนสายตามองสบตาอีกฝ่ายเสียก่อน ดวงตาของลูคัสแข็งกร้าว หากเธอลืมตัวแบบนั้น สงสัยคงได้ไปนอนแอ้งแม้งบนพื้นเพราะถูกชายหนุ่มหิ้วปีกออกไปโยนทิ้ง            “ต่อเลย... หากคุณอยากได้บทสนทนาของผมไปขึ้นปกปารีสเพรส”            ชายหนุ่มเอ่ยต่อเหมือนไม่แคร์ เขาไม่ได้สนใจชื่อเสียงขจรไกลสักนิด เขาเบื่อที่ตกเป็นเป้าสายตา แต่บางครั้งก็ต้องพึ่งพาสื่อ เมื่อมันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อชั้นยอด หลังเขามีข่าวถี่ๆ เดมเชียอินดัสเทรียสก็พุ่งสูงติดลมบน ทั้งชื่อเสียงและเงินวิ่งเข้าใส่ทุกทิศ ไม่ว่าจะขยับตัวหรือนั่งเฉยๆ มีคนสนใจเขาเพิ่มขึ้น รวมทั้งคู่ค้าที่เห็นฝีมือด้วย            “ขอเรื่องส่วนตัวสักนิดได้ไหมคะ? มันจะเป็นอรรถรสชั้นยอดที่เรียกเลทติ้งให้คุณได้อีก”            มิแรนดาตัดความไม่พอใจทิ้ง ตรงหน้าเธอคืองาน หากยังอารมณ์ขึ้นเพราะท่าทีของเขา งานที่เธอรับมามันก็จะไม่สำเร็จ คนที่เสียประโยชน์คือเธอเอง            “ส่วนตัวที่พอจะเปิดเผยได้ ผมก็ไม่ขัดข้อง”            ชายหนุ่มไหวไหล่ หากล้วงลึกมากไป เขาก็คงต้องละไว้            “ไม่ถึงขนาดคุณมีใครหรือยัง? แค่... อะไรที่ทำให้คุณฮึดได้ขนาดนี้คะ มันต้องมีแรงบันดาลใจ ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่ขวนขวายขนาดนี้เมื่ออยู่เฉยๆ ก็คงสบายไปทั้งชาติ เท่าที่ทราบ... คุณร่ำรวยจากคาสิโนมาไม่ใช่น้อย”            มันไม่ใช่เรื่องลับ!! ที่ลูคัสคิดจะปิด เขามีเงินก้อนนั้นเพราะการเสี่ยงโชค เป็นที่มาของเงินจำนวนมหาศาลหลังจากเข้าลงมือปลุกปล้ำกับธุรกิจเดียวกับบาร์ว!!            “มันไม่ใช่แรงบันดาลใจ” ลูคัสหยุดพูด เขาจ้องมองไปที่เอรินทร์ และดูเหมือนหล่อนจะรู้ตัว เมื่อศีรษะทุยได้รูปก้มต่ำลงอีก แต่ปลายนิ้วที่จับปากกากับสั่นจนคนมองยังรู้สึก... “มันคือความแค้น แค้นที่ถูกตลบหลังจากคนที่เราคิดว่าเป็นคนดี แต่เปล่า...พวกมันคือหมาป่าเจ้าเล่ห์ และบังเอิญว่าแด๊ดผมเป็นคนโง่!! ไม่เป็นไร... มันคือเกม คนชนะหัวเราะร่าสะใจ คนแพ้ก็หนีตายไปซะ แต่มันคงไม่สนุกถ้ามันจบแบบนั้นว่ามั้ย?” ชายหนุ่มเปรยเหมือนจะถาม “เกมนี้มันอีกยาว...แต่รับรองได้ เดมเชียจะไม่มีวันแพ้ซ้ำ!!” ชายหนุ่มย้ำเสียงเย็น เขายกแก้วชาขึ้นจิบ ก่อนจะเอื้อมหยิบขนมสีสวยขึ้นมามองดู พร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD