บทที่3.เพียงฝันไป...

1506 Words
“เอมจดให้ทันนะย่ะ” หญิงสาวหันมาพูดเสียงแข็งใส่เอรินทร์ เมื่อระบายใส่ลูคัสไม่ได้ หญิงสาวก็คือกระโถนให้เธอระบายอารมณ์            เอรินทร์พยักหน้าหงึกหงัก เธอควักเครื่องอัดเสียงขึ้นมาวางบนสมุดจด ตัวช่วยหากเธอจดไม่ทัน เธอเตรียมพร้อมไว้แล้ว มิแรนดาหาช่องด่าเธอไม่ได้            ลูคัสแอบอมยิ้ม เขามองเครื่องอัดเสียงตาเป็นมัน ชายหนุ่มนึกสนุกขึ้นมา เขามีวิธีแกล้ง!! หล่อนได้แบบชิลๆ            สิ่งที่ลูคัสทำคือ เขาไม่ปริปากพูดอะไรเลย ที่ทำคือพยักหน้ากับส่ายศีรษะ จนเอรินทร์นึกฉุน เขาจงใจเธอรู้...            เอรินทร์กลอกตา...เธอสูดปากจิ๊จ๊ะ!! จดคำถามมือเป็นระวิง แต่คำตอบคือ...การแสดงอาการ หึย!! ปลายนิ้วเรียวสวยยกขึ้นดันกรอบแว่นแรงๆ เริ่มหงุดหงิดจนอยากโวย แต่ที่ทำได้คือ...ก้มหน้าจดต่อไป...แม้ไม่มีคำตอบ แต่มันเป็นหน้าที่ของเธอ            ลูคัสยกมือปิดปาก เขากลั้นยิ้มจนปวดแก้ม...ชำเรืองมองแก้มเนียนๆ ที่ขึ้นสีจัดขึ้นทุกทีด้วยสายตาพราวฉ่ำ เพราะความรู้สึกข้างในของเอรินทร์คงพลุ่งพล่านน่าดู...เมื่อเขาจงใจกวนประสาทหล่อน            “บอสครับ!!” เอ็ดมันส์โน้มตัวกระซิบข้างหู            “ว่าไงเอ็ด” ชายหนุ่มกำลังสนุก เขาลืมเวลา ลืมว่ายังมีงานสำคัญรออยู่อีกมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ ‘ผู้หญิง’ ทำให้ความสนใจเรื่องงานของเขาลดลง...ผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดามากเสียด้วยสิ!!            “อีก10 นาที เราต้องไปแล้วครับ...บอสมีนัดเซ็นสัญญา” การ์ดหนุ่มตอบคำถาม เขานิ่วหน้า... เริ่มมึนเมื่อลูคัสไม่เคยลืมเรื่องสำคัญง่ายๆ            “อืม...ลืมว่ะ” เขาพูดเสียงเรียบ ปลายตามองเอรินทร์ซ้ำ เห็นแค่ปลายจมูกโด่งๆ นอกนั้นแทบไม่เห็นอะไร            “พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่นะ ผมคิดว่าคุณ...คงยังไม่ได้ข้อมูลของผมสักเท่าไร... เอาเป็นว่า...ผมอนุโลมให้...” ลูคัสหันไปหาเอ็ดมันส์ “ฉันมีเวลาว่างช่วงไหนบ้างเอ็ด!! บอกพวกเธอด้วย ฉันจะเทเวลาช่วงนั้นให้ปารีสเพรส”            ก่อนจะออกเดิน ลูคัสหรี่ตามองเอรินทร์อีกครั้ง เขากระตุกยิ้มมุมปาก “หวังว่าคงกล้าเข้าไปที่เดมเชียนะ...คนของบาร์ว!!”            เอรินทร์สะดุ้ง!! เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาเบิกกว้าง รู้สึกตระหนกจนหัวใจสั่น  ‘เขารู้’            มิแรนดาหันมามองลูกน้องสาว เธอขมวดคิ้ว และคิดหาคำถามในใจ เธอจะไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ เอรินทร์ต้องปิดบังความจริงบางอย่างกับปารีสเพรสแน่ๆ            แต่ก่อนที่มิแรนดาจะคาดคั้นหญิงสาวใต้บังคับบัญชา            “ช่วงบ่าย3ถึง บ่าย4 บอสว่างช่วงนั้น ผมจะสั่งประชาสัมพันธ์ไว้ให้ คุณสองคนมาตามเวลาได้เลยครับ”            เอ็ดมันส์กางตารางนัดของลูคัสขึ้นมอง เขาหาเวลาช่วงที่ว่างจนได้เมื่อเป็นคำสั่งกึ่งๆ ร้องขอ...เขายังไม่รู้ว่าเจ้านายต้องการอะไร? รู้แค่เพียงว่า ผู้หญิงหน้าใส แต่งตัวปอนๆ ตรงหน้า เป็นหนึ่งในศัตรูที่ลูคัสกากาบาทไว้ที่ศีรษะ เขาจะทำทุกวิถีทางให้คนของบาร์วต้องเจ็บ และจำไปจนวันตาย            ทั้งลูคัส ทั้งเอ็ดมันส์เดินหายไปในฝูงชน ที่เดินไปเดินมา...มิแรนดาจึงหันมาหาเอรินทร์พร้อมกับถามเสียงเขียว            “เอม...เธอเป็นใครกันแน่!! ไม่ใช่แค่นามสกุลพ้องเสียงใช่ไหม? ทั้งคุณคลากส์ ทั้งหมอนั่น!! ทุกคนรู้จักกับเธอเหมือนจะเป็นส่วนตัวมากๆ โดยเฉพาะคุณคลากส์”            หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกจากปอดช้าๆ ดูเหมือนความลับ จะไม่ลับอีกต่อไป เมื่อมิแรนดาไม่โง่ หล่อนคงพอปะติดปะต่อได้            “เอมไม่ได้ตั้งใจปิดทุกคนค่ะ...เพียงแต่คนภายนอกไม่มีใครรู้ว่าเอมมีตัวตนอยู่ เอมไม่อยากเอาชื่อเสียงของบาร์วมาเสี่ยงด้วย หากเอมทำตัวไม่ดี” หญิงสาวตัดใจยอมสารภาพความจริง แต่ความจริงที่หลุดออกจากปากเธอก็คงได้แค่กึ่งหนึ่ง เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี่            “หมายความว่าไง?...ไม่มีตัวตน”            เอรินทร์ถอนใจซ้ำอีกครั้งก่อนจะกลั้นใจพูด โดยไม่สบสายตากับมิแรนดา “เอมเป็นลูกคนใช้ในบ้านบาร์วค่ะ ท่านเมตตาให้เอมได้เรียน เมตตาให้ใช้นามสกุล!! เอมเลยไม่อยากทำให้บาร์วเสื่อมเสีย” เธอแก้ตัวเป็นฉากๆ มารดาเธอเป็นคนรับใช้จริงๆ นี่ คลอลินเมตตาเธอในฐานะบุตรสาวที่เกิดจากมารดาที่เป็นคนรับใช้ เธอไม่ได้โกหกเพียงแค่บอกไม่หมด            “พิโธ่!! ฉันก็นึกว่าเธอเป็นคนสำคัญ หากเธอโตมากับคนในบ้านนั้น ไม่แปลกหรอกที่คุณคลากส์จะรู้จักเธอ”            มิแรนดาเหยียดยิ้มประวัติของเอรินทร์น่าสมเพช ต้องอาศัยใบบุญของบาร์ว ดีแต่ว่าหล่อนไม่ได้แอบอ้างชื่อเสียงของบาร์วเพื่อล่อลวงคนอื่น แต่...มิแรนดาลืมไป...ลูคัสรู้จักเอรินทร์ได้ยังไง หากหล่อนไม่สำคัญพอตัว...            สาวโสภาหมดความสนใจเรื่องส่วนตัวของเอรินทร์ที่เธอสนใจคือข้อมูลของคลากส์ หากมีวาสนาได้เป็นสะใภ้คนโตของบาร์ว เธอก็คงไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไปวิ่งมา ทำงานตัวเป็นเกลียว เมื่อชายหนุ่มร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐี            “ว่าแต่...คุณคลากส์เขาไม่มีฟง มีแฟนเหรอไง?”            หล่อนแสร้งตะล่อมถาม จนเอรินทร์ต้องรีบกัดลิ้น เธอไม่อยากพูดปด แต่บางครั้งก็จำเป็น เมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัวของคลากส์ เขาไม่ชอบให้ใครแส่!! คลากส์ยังไม่มีภรรยาตามที่สังคมรับรู้ แต่ความจริงแล้ว คลากส์มีภรรยา มีลูกน้อยแล้วหนึ่งคน...เมื่อเขาทำตัวเหมือนบิดาไม่ผิดเพี้ยน มันจึงทำให้มาดามคาเรียโกรธหนัก เพราะคลากส์คว้าคนรับใช้วัยกำดัดมาเป็นเมียเข้านะสิ แถมไม่มีการป้องกันจนทำให้เกิดมารหัวขน...มาดามคาเรียเลยให้ทุกคนที่รู้เรื่องหุบปาก!! หากข่าวรั่วออกไปภายนอก...นางจะลงโทษขั้นสูงสุด ความโหดของมาดามคาเรียเป็นที่ประจักษ์ จึงไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง ความลับนี้ก็ยังเป็นความลับต่อไป            “ไม่มีค่ะ...เอมไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวของคุณเขาหรอกค่ะ เอมออกมาจากบ้านนั้นหลังเรียนจบ ก็เกือบๆ 2 ปี”            2ปีของการเป็นอิสระ แม้จะเหงาบ้างในบางครั้ง แต่เธอไม่ต้องทนรับแรงกดดันจากมาดามคาเรียอีกต่อไป ไม่ต้องรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ส่วนเกินที่ทำให้ครอบครัวอบอุ่นมีรอยร้าว            “แน่ใจนะว่าเธอไม่ได้โกหกฉัน!!” มิแรนดาถามซ้ำ และเธอไม่เห็นว่าเอรินทร์ไขว่นิ้วชี้กับนิ้วนางก่อนตอบ            “ค่ะ”            “ดี...ดีจริงๆ” หญิงสาวฝันหวาน พรมสีขาวปูทางเดินกับเสียงระฆังวิวาห์ หากจับคลากส์อยู่หมัด เมื่อชายหนุ่มเองก็มีทีท่าสนใจเธอไม่ใช่น้อย “สงสัยฉันคงต้องขอให้อัลเฟรดพิจารณาเสียหน่อย คลากส์ บาร์วก็น่าสนใจไม่แพ้ลูคัส เดมเชีย”            เอรินทร์อยากเตือน แต่คำพูดเหล่านั้นติดอยู่แค่ปาก เธอไม่สามารถเอ่ยเตือนมิแรนดาได้ เมื่อหล่อนคงไม่สนใจฟัง แมลงเม่า...หลงบินเข้ากองไฟเพราะสิ่งลวงตา...พอรู้ตัวอีกที ปีกอันแสนบางเบาก็ถูกเปลวไฟแผดเผาจนมอดไหม้และตกเป็นเหยื่อของเปลวไฟในที่สุด กลายเป็นเถ้าธุลีหลังถูกความร้อนของกองเพลิงเผาจนไม่เหลืออะไรเลย “ฉันเบื่อที่ต้องมาฟังคำตอบเดิมๆ คำตอบที่ตอบเหมือนเขาท่องอาขยานเอาไว้ แล้วแบบนี้มันจะแตกต่างจากที่อื่นยังไงล่ะ!!” มิแรนดาบ่นพึม...เธอเริ่มเบื่อที่จะต้องตั้งคำถามงี่เง่าที่ใครๆ ทุกคนทั่วทุกมุมโลกรู้ มันจะแตกต่างกับสื่อเจ้าอื่นยังไงหากลูคัสตอบคำถาม ด้วยคำตอบเดิมๆ แบบนี้ บทความของเธอคงแป็ก!! หากชายหนุ่มไม่ให้ความร่วมมือ            เอรินทร์กลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ เธอรู้สึกหนาวจับขั้วหัวใจ เมื่อเหยียบย่างเข้ามาในอาณาจักรของเดมเชีย...ตึกสำนักงานโอ่อ่า สมกับการเป็นผู้นำเรื่องการก่อสร้าง ธุรกิจทำเงินของลูคัส และตึกหลายๆ ที่ ที่เดมเชียอินดัสเทรียสรับผิดชอบ ติดโผประติมากรรมชั้นยอด ไม่แปลกหรอกที่ช่วงๆ หลังๆ ชื่อของลูคัสถึงเด่นหราบนสื่อใหญ่ๆ            “ฉันมาขอพบมิสเตอร์ลูคัส!!”            มิแรนดาเอ่ยปากบอกประชาสัมพันธ์หน้าลอบบี้ด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เธอกำลังหงุดหงิด เธอยังไม่สามารถติดต่อคลากส์ได้ หลังจากกล่อมจนอัลเฟรดเห็นดี เห็นงามด้วย...แต่คลากส์กลับหายตัวไป...และงานเกี่ยวกับลูคัสยังไม่จบ            “นัดไว้ไหมคะ?” สาวสวยตอบกลับมา น้ำเสียงห้วนๆ ไม่แพ้กัน          
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD