บทที่4.รอยแค้นบนรอยรัก...

1513 Words
   คลอลินตวาด คนอย่างลูคัสหรือจะเล่นสกปรกแบบนั้น มันน่าจะเป็นความมักมากของบุตรชายท่านมากกว่า            “แด๊ด!! ผมดูแย่ในสายตาแด๊ดมากเลยเหรอครับ ไอ้ที่ผมเคยทำมาตลอด ไม่มีดีบ้างเลยเหรอ”            คลากส์แสร้งโอดครวญมาดามคาเรียอยู่ทั้งคน เขาไม่จำเป็นต้องกลัวบิดา            “นั่นสิคุณ!! พลาดครั้งสองครั้ง มันจะอะไรหนักหนา...”            มาดามคาเรียพูดกระแทกใส่สามี เขาไม่ควรดุด่าบุตรชายแรงๆ ยังไงเขาก็เป็นลูก “เป็นเพราะมาดามคอยให้ท้ายมันอยู่นี่ไง!! มันถึงได้เหลวไหล หากผมวางมือ บาร์วมิชิบหายคามือมันหรอกเหรอ”            คลอลินพูดเสียงหนัก เพราะภรรยาเอาแต่ให้ท้าย จนบุตรชายไม่เคยรู้สึกผิดในสิ่งที่เขาทำจริงๆ สักที เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน และไม่มีครั้งไหนที่คลากส์สำนึกผิดจริงๆ สักครั้ง...            “แด๊ดก็พูดเกินไป แด๊ดเคยไว้ใจผมบ้างหรือเปล่า หรือต้องเป็นเฮนน่าเท่านั้น ที่แด๊ดไว้ใจ”            คลากส์แสร้งพูดเสียงออดๆ เขาโยงประเด็นไปที่เฮนน่าเพื่อเบี่ยงแบนความสนใจ และมันได้ผล มาดามคาเรียปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที นางรักบุตรชายยิ่งชีพ เพราะบุตรสาวเมื่อหล่อนแต่งงาน หล่อนต้องเห็นสามีสำคัญมากกว่า นางหวังพึ่งพาคลากส์ เมื่อเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว            “อย่าโยนเผือกไปที่น้อง...เฮนน่าไม่เกี่ยว”            คลอลินถอนใจแรงๆ เขายกมือเสยผมที่เริ่มมีเส้นผมสีเทาแซม            “ทำไมจะไม่เกี่ยว ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าคุณสนับสนุนเฮนน่า โดยไม่เห็นหัวคลากส์”            มาดามคาเรียแหว...นางเหลืออดกับการกระทำของสามี เขาทำเหมือนบุตรชายไม่มีความสำคัญ เท่ากับบุตรสาว            “แล้วเท่าที่เห็น มันน่าสนับสนุนเฮนน่าไหมล่ะมาดาม... เคยไหมงานที่ผมโยนให้เฮนน่าทำ...แล้วจะไม่สำเร็จ”            ท่านหันมาพูดเสียงขุ่นกับมาดามคาเรีย อยากให้นางมองตามความเป็นจริง เพราะหากเอาเพศมาวัด...ความสามารถมันทำไม่ได้ มันต้องดูการพฤติกรรม และการกระทำ ซึ่งตรงนี้ คลากส์ไม่ผ่าน เขาผิดพลาดเรื่องเดิมๆ ซ้ำหลายครั้งเกินไป เขามีช่องโหว่ที่อันตราย หากคนภายนอกรู้ บาร์วคงพังไม่มีชิ้นดี            “เอ่อ...”            มาดามคาเรียเถียงไม่ออก ความเป็นจริงๆ ใครๆ ก็เห็น เฮนน่ามีคุณภาพมากกว่า แม้จะเป็นผู้หญิง            “แต่คุณก็น่าจะให้โอกาสลูกบ้าง ขอให้ลูกแก้ตัว...หากพลาดอีก เวลานั้นฉันจะไม่เถียงคุณเลย”            นางตอบเสียงอ่อน แม้จะรู้ว่าบุตรชายผิดจริง แต่ไม่ยื่นมือเข้าช่วยก็กะไรอยู่            “ได้...ผมจะให้โอกาสคลากส์ แต่นี่...จะเป็นครั้งสุดท้าย...และอย่าคิดว่าผมจะอ่อนข้อให้มาดามอีก เมื่อมันขึ้นอยู่กับหายนะของบาร์ว ผมคงลงให้มาดามอีกไม่ได้”            ศัตรูคืบคลานเข้ามาใกล้ จนลมหายใจของลูคัสเป่ารดต้นคอ หากท่านยังมัวใจอ่อน บาร์วคงได้ดิ่งลงเหว เหมือนที่เดมเชียเทรดเคยเป็น มันเป็นกงกรรม กงเกวียน ที่มาเร็วกระชั้นชิดแบบนี้ เพราะกงเกวียนอันนั้นถูกบังคับให้เดินหน้าด้วยความแค้น!!            “ผมจะไม่มีวันทำให้แด๊ด กับมัมผิดหวัง”            คลากส์รีบรับลูก เขาเป่าปากด้วยความโล่งอก เมื่อคลอลินเดินจากไป แสดงให้เห็นว่า...ครั้งนี้บิดาก็ยอมใจอ่อนเหมือนเดิม...            “อย่าให้มันเยอะนักเรื่องผู้หญิง มัมปวดหัวกับแกมาเยอะแล้วนะคลากส์!! เพลาๆ เสียบ้างสิ ไม่อย่างนั้น น้องแกได้ขึ้นนั่งแท่นแน่ๆ”            เฮนน่าเป็นบุตรสาวของนางก็จริง แต่มาดามคาเรียให้ความสำคัญกับบุตรชายมากกว่า นางเตือนคลากส์เสียงขุ่น นับตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม ไม่เคยมีเลยที่คลากส์จะทำให้ท่านภูมิใจ เขาคอยแต่สร้างเรื่อง นางต้องคอยปัดเป่า ปัดกวาดให้อยู่เรื่อย บางครั้งนางก็เคยคิด นางให้ความสำคัญกับคนผิดไปหรือเปล่า เพราะหากนางรักเฮนน่าได้เท่ากับที่รักคลากส์ วันนี้นางคงไม่มีเรื่องร้อนใจ            “โธ่!! มัม ผมเป็นผู้ชายนะครับ”            “ฉันรู้ว่าแกเป็นผู้ชาย ไม่อย่างนั้น ไอ้ดอมมันคงไม่ออกมาวิ่งเล่นได้หร๊อก”            ความขุ่นเคืองของนางเรื่องลูกนอกสมรสของบุตรชาย เขาตาต่ำขนาดคว้าเอาคนใช้ทำเมีย แถมยังมีมารหัวขนลืมตามาดูโลก และนางปฏิเสธไม่ได้ด้วยสิ เพราะผลการตรวจยืนยันเช่นนั้น อีแม่มันรับเงินก่อนจะชิ่งหนี ทิ้งลูกตาดำๆ ไว้ให้นางเลี้ยง จะทิ้งขว้างก็ใช่ที่ ยังไงเสีย โดมินิคก็เป็นหลาน นางสู้อุตส่าห์กล้ำกลืนฝืนอุ้มชูมา ไม่อย่างนั้นคงฉาวโฉ่ไปทั่วทั้งเมือง            “แกแวะไปหาดอมมันบ้าง มันคิดถึงพ่อนะ มัมไม่อยากให้ดอมเป็นเด็กมีปัญหา”            นางเตือนบุตรชาย เขาทำตัวสำราญ ร่อนไป ร่อนมา ไม่มีความรับผิดชอบ แถมยังเหลวไหล            “ครับ”            คลากส์ก้มหน้าซ่อนแววตาสุดเซ็ง ความคึกคะนองยามวัยเยาว์ ทำให้เขากลายเป็นผู้ชายมีเรือพ่วง แม้จะไม่มีคนนอกรู้ แต่คนในบาร์วรู้ทุกคน...            “มัมไปล่ะ ช่วงนี้ก็ทำตัวดีๆ หน่อย อย่าให้มีเรื่องขึ้นมาอีก ถึงแด๊ดจะรักแกมากนะคลากส์ แต่แด๊ดแกก็รัก ‘บาร์วโพสิต’ ด้วย”            มาดามคาเรียเตือนซ้ำ คลอลินไม่ได้อ่อนปวกเปียก เขาแข็งกร้าวพอตัว ไม่อย่างนั้นเขาจะกล้ากางปีกป้องสองแม่ลูกนั้นเหรอ สองคนที่ทำให้นางแค้นแทบกระอักออกมาเป็นเลือด เพราะเมื่อใดก็ตามที่นางเห็นเอรินทร์ นั่นหมายถึงพยานยืนกราน สามีของนางปันใจให้หญิงอื่น เป็นความแค้นเคืองที่นางไม่มีวันให้อภัย!!            “โวยยยย!!”            คลากส์โวยลั่นห้อง หลังจากทั้งแด๊ดและมัม ทยอยออกไป เขารู้ดีว่าตัวเองมีจุดอ่อน หากเป็นผู้หญิงสาวมาล่อ มีหรือที่เขาจะไม่หลงกล            ตื้ดๆ            โทรศัพท์ส่วนตัวสั่นเตือน คลากส์เหลือบตามอง เขาเบ้ปากเมื่อเบอร์ที่ขึ้นโชว์ไม่คุ้นตา ชายหนุ่มตัดสินใจไม่รับ เขาปล่อยให้มันสั่นไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาคาดผิด เพราะคนที่กดโทร. มามีความพยายามสูง มันดับไปสักพัก ก่อนจะสั่นเตือนขึ้นมาซ้ำๆ อีกหลายครั้ง            “ใครว่ะ!! มีอะไรกับฉันเหรอ...นี่ไม่ใช่เบอร์สาธารณะนะเฟ้ย!!”            ชายหนุ่มกำลังอารมณ์ไม่ดี เมื่อตัดสินใจกดรับสาย เขาจึงว๊ากใส่ปลายสายไปเต็มๆ            “อารมณ์เสียเรื่องอะไรมาคะ? ให้แรนดาช่วยไหมเอ่ย”            เสียงหวานฉ่ำที่แทรกผ่านสายโทรศัพท์มา ทำให้คลากส์ชะงัก เขาเบี่ยงโทรศัพท์ออกห่างหูเพื่อคิด...ก่อนจะคลี่ยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ คนปลายสายคือใคร?            “โทษทีคนสวย ผมกำลังอารมณ์เสียเรื่องงาน ไม่คิดว่าคนดังจากปารีสเพรสจะเป็นฝ่ายโทร. หาผม”            ชายหนุ่มลดเสียงที่แข็งกร้าวลง เขาตอบกลับเสียงหวานฉ่ำไม่แพ้กัน            “ชมเกินไปค่ะ แรนดาไม่ได้โด่งดังอะไรเลย แค่นักข่าวกระจอกๆ คนหนึ่ง” หญิงสาวแสร้งถ่อมตัว            “ไม่เลยครับ มีใครบ้างไม่รู้จัก มิแรนดา แกลร์ แห่งปารีสเพรสบ้าง...เอาเป็นว่าที่ผมเสียมารยาทว๊ากใส่ ขอเป็นดินเนอร์มื้อค่ำสักมื้อดีไหมครับ”            “เสียดายจังค่ะ แรนดายังอยู่โรม...เอาไว้กลับไป เราค่อยนัดกันอีกทีดีไหมคะ!!”            หญิงสาวแสร้งบ่ายเบี่ยง หากว่ากันตามจริง เธอยินดีบินจากโรมไปวอชิงตันดี.ซี เพื่อดินเนอร์มื้อเดียวกับคลากส์เชียวแหละ แต่มันจะเป็นการกระทำที่โจ่งครึ้มเกินไป...จะอ่อยทั้งทีต้องไว้เชิง ให้ผู้ชายไม่รู้สึกกลัวเกินไป            “ได้สิครับ...สำหรับคนสวยผมรอได้เสมอ ว่าแต่...”            “เกือบลืมค่ะ แรนดาจะโทร. มาสอบถามคุณน่ะค่ะ...จะเป็นการรบกวนคุณหรือเปล่า บก.อนุมัติให้แรนดาทำสกู๊ปชีวิตของคุณ...ต่อจากคุณลูคัส”            “ไม่เลยครับ...ดีเสียอีก...ผมจะได้พบคุณบ่อยๆ เอาเป็นว่า ผมจะให้เลขาฯ หาวันว่างให้คุณนะ ตอนนั้นเราค่อยมาคุยกันอีกที”            คลากส์ยิ้มย่อง...ถึงแม้เขาจะมาเป็นรองลูคัส แต่คลากส์คิดว่าเขาจะใช้โอกาสนี้ ทำให้ตัวเองโดดเด่นขึ้นมา...            “แรนดาไม่ได้แกล้งชมคุณนะคะ ชีวิตส่วนตัวคุณน่าสนใจกว่าของ ‘เขา’ เสียอีก ไม่รู้ใครๆ เห็นดีเห็นงามอะไรกันนัก...คนผยองแบบเขา อยู่ได้ไม่นานหร๊อก!! ตอนนี้แค่โชคเข้าข้าง แรนดาถือหางบาร์วค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD