ปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2565
คู่แฝดวาโยในวัย 25 ปี
"สต็อปปปป ถ้าเรื่องมันเป็นอย่างที่เธอเล่า งั้นตอนนี้เธอกับเขาก็น่าจะตกลงคบกันแล้วสิ ก็ดูใจตรงกันออก"
'สิตา' เพื่อนร่วมออฟฟิศเดียวกับวารีแทรกขึ้น หลังจากที่พวกเธอกำลังคุยเริ่องบรรดาแฟนเก่าของแต่ละคนในช่วงพักเที่ยง
"เดี๋ยวสิ เธอให้ฉันเบ่าเรื่องแฟนคนแรกก็คือพี่เคไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาหยุดอยู่ที่เรื่องไอ้โยได้ล่ะ"
"ก็เรื่องเธอกับคุณโยน่าสนใจกว่านี่นา ว่าก็ว่าเถอะนะ ตั้งแต่เธอทำงานที่นี่มาปีกว่าเนี่ย ฉันเห็นคุณโยเขาคอยเทียวรับเทียวส่งเธอตลอด นึกว่าเป็นแฟนกันเสียอีก" สิตาพูดในสิ่งที่เห็น
เธอได้คุยกับโยธินบ้างนานๆ ครั้งเวลาเขามารับส่งวารีีแล้วบังเแิญเจอหล่อนพอดี ก็จะมีพูดคุยทักทายกันตามธรรมชาติ
"จะเป็นไปได้ยังไง ฉันกับมัน...ไม่มีทางเป็นคนรักกันได้หรอก"
"ทำไมจะเป็นไม่ได้! สองครอบครัวก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี ไหนจะแอบจับมือกันในโรงหนัง ไหนจะที่หอมแก้มอีก อ้อ แล้วยังเรื่องความหวงโอเว่อร์ยิ่งกว่าจงอางหวงไข่แบบนั้นอีก มองยังไงๆ ก็รักกันชัดๆ นะวารี" สิตาแย้งต่อ
"ฉันก็เคยคิดแบบนั้น แต่มันไม่เวิร์คหรอก เราสองคนรู้จักกันดีเกินไป ยังไงก็พัฒนาไปมากกว่านี้ไม่ได้ เชื่อฉันสิ"
"แต่ว่า..."
"ฉันไม่อยากให้มิตรภาพอันยาวนานระหว่างฉันกับมันต้องพังลงเพราะคำว่ารักคำเดียว อีกอย่างฉันก็มีแฟนแล้วด้วย วันนี้เขาจะกลับมาพอดีเลย เดี๋ยวฉันจะไปรับเขาที่สนามบิน"
วารีตอบอย่างยิ้มแย้มก่อนก้มจะดูนาฬิกาที่ข้อมือ
"หมดเวลาพักพอดีเลย รีบกลับไปทำงานก่อนจะโดนบอสด่าเหอะ"
"เอ๊ะ เดี๋ยวสิวารี เธอมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นเคยบอกกันเลย วารี วารี!" สิตารีบเดินตามวารีไปติดๆ
ด้านโยธิน
"ครับคุณพ่อ ไม่ต้องห่วงครับ ผมส่งรายละเอียดทั้งหมดให้หัวหน้าไปแล้วครับ"
โยธินกดวางสายหลังจากคุยโทรศัพท์กับบรรพตผู้เป็นบิดาเสร็จ
เขาเรียนจบด้านการตลาดมาโดยเฉพาะ ปัจจุบันเลยมาทำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของโชว์รูม ที่พ่อของเขาได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อำนวยการของที่นี่ โยธินไม่อยากถูกคิดว่าใช้เส้นสาย เลยสมัครเข้าทำงานในตำแหน่งน้อยๆ เพื่อพิสูจน์ความสามารถจนกว่าจะสามารถเลื่อนขั้นไปจนถึงผู้จัดการฝ่ายการตลาดได้ด้วยตัวเอง
โยธินกลายเป็นหนุ่มสุดฮอต ที่บรรดาสาวโสดในที่ทำงานต่างก็อยากได้มาครอบครอง ด้วยเป็นที่รู้กันดีว่าเขาทั้งโสด ทั้งรวย แถมยังหน้าตาดีมีพ่อเป็นถึงผู้อำนวยการ
"โยธิน เอกสารที่พี่ให้เตรียมสำหรับประชุมเรียบร้อยหรือยัง"
'ไพศาล' ผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่โยธินทำงานอยู่เดินเข้ามาหาเขาที่โต๊ะ
"เรียบร้อยครับผู้จัดการ ผมเอาไปวางไว้ในห้องประชุมให้แล้วครับ"
"ดีมาก งั้นวันนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ นายกลับได้เลย" ไพศาลบอกก่อนจะเดินต่อไปทางห้องประชุม โยธินรีบหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาวารี
[ ว่าไง ]
"มึงเลิกงานยัง เดี๋ยวกูไปรับ"
[ อีกสิบนาทีอะ แต่วันนี้กูมีธุระ ไปกับมึงไม่ได้หรอก ] วารีตอบ
"ธุระอะไรวะ"
[ ก้าวจะกลับจากอังกฤษวันนี้ไง กูจะไปรอรับเขาที่สนามบิน และจะไปค้างที่คอนโดฯ เขาเลย ]
คำตอบของวารีทำให้โยธินเริ่มจะหงุดหงิดหน่อยๆ แต่ก็เก็บอาการเอาไว้
"เออเนอะ ลืมมันไปแล้วนะเนี่ย งั้นเดี๋ยวกูไปด้วย ไม่ได้เจอกันตั้งปีกว่าละ"
[ ตามใจ งั้นมึงมารับกูแล้วกัน ]
"โอเค ขอครึ่งชั่วโมง"
[ ยี่สิบนาที แค่นี้แหละ ]
วารีกดตัดสายไป โยธินรีบมองนาฬิกาก่อนจะจัดการเก็บข้าวของบนโต๊ะทำงานเข้าที่ แล้ววิ่งไปที่ลานจอดรถ
วารีลงมายืนรอโยธินที่หน้าบริษัท เธอแต่งหน้าเติมปากจนสวยใสใสไร้ที่ติอีกครั้งเพราะอยากให้แฟนหนุ่มของเธอพอใจ
ปี๊นนนนน
โยธินจอดรถอยู่ริมถนนแล้วลีบแตรเรียก วารีรีบจ้ำอ้าวเดินไปขึ้นรถ ภาพที่เขาจะมารับเธอที่บริษัททุกวันกลายเป็นภาพชินตาของเพื่อนร่วมงานไปหมดแล้ว
"มึงสายไปสองนาที"
"รถติดไหมล่ะครับ ถ้ารีบนักทำไมไม่ให้กูมารับตั้งแต่เมื่อวานล่ะ"
"เมื่อวานมึงก็มารับกูนะ ตั้งแต่กูเกิดมา มึงเคยยอมให้กูไปไหนมาไหนคนเดียวด้วยเหรอนอกจากตอนมึงป่วย แด๊ดดี้กับป๊ะป๋ายังไม่หวงกูเท่ามึงเลย"
วารีย้อน ก่อนจะหยิบกระจกขึ้นมาส่องเช็คความเรียบร้อยของเบ้าหน้าอีกครั้งเพื่อความชัวร์
"มึง กูสวยยัง"
"ยัง มึงต้องตายแล้วเกิดใหม่ก่อนถึงจะสวย"
"งั้นตายพร้อมกูเลยดีไหม เผื่อเกิดชาติหน้าจะได้เป็นคนดีกับเขาบ้าง" วานีง้างมือขึ้น
"หมายถึงมึง?"
"มึงนั่นแหละ! พอๆๆ เลิกเล่น รีบไปเร็ว ใกล้ได้เวลาเครื่องลงแล้ว" วารีเลิกต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้วเริ่มรื้อค้นกระเป๋าถือของตัวเอง
รถ BMW สีดำสุดโปรดของโยธินเริ่มเคลื่อนตัวออกไป ผ่านไปได้สักพัก เสียงเรียกเข้ามือถือของเขาก็ดังขึ้น มันเชื่อมต่อกับหน้าจอตรงคอนโทรลรถ ทำให้วารีเห็นสายที่โทรเข้ามา
'น้องกานดา'
"นี่มึงยังไม่เลิกเจ๊าะแจ๊ะกับยัยเด็กเสียงแปดหลอดนี่อีกเหรอ" วารีถามขึ้น
กานดาคือแฟนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของโยธิน และก็เลิกกันไปหลังจากคบกันได้แค่สามเดือน เพราะเธอไม่ต้องการให้เขาไปไหนมาไหนกับวารี สุดท้ายก็ตั้งคำถามที่ไม่ควรถามกับโยธินออกมานั่นก็คือ...
ระหว่างเธอกับวารี เขาจะเลือกใคร?
เป็นที่รู้กันดีว่าใครที่ถามคำถามนี้ จะถูกเขาบอกเลิกทุกราย จึงเกิดข่าวลือกระฉ่อนไปทั่วว่าใครอยากจะคบกับเขานานๆ ห้ามถามคำถามนั้นเป็นอันขาด เพราะมันคือคำต้องห้าม!
"พอดีเจอกันในเฟซบุ๊ก น้องเขาเลยทักมาคุยแล่วก็แลกเบอร์ติดต่อกันก็แค่นั้น"
"ของขาดดิมึง ถึงกลีบไปคุยกับคนเก่าแบบนี้"
"ของขาดบ้าอะไร คนอย่างโยธินไม่เคยขาดของครับผม แค่กระนิ้วก็มีมาให้เลือกเป็นร้อย"
"ร้อยตัว"
"ร้อยคนสิวะ มึงนี่กวนละ แล้วนี่หาอะไรของมึงตั้งแต่ขึ้นมาละ" เขาถามเมื่อเห็นเธอเอาแต่ค้นกระเป๋าตัวเองไม่หยุด
"ยาคุม"
"อ๋อ..."
"กูว่ากูพกใส่กระเป๋าตลอดเวลานะ หายไปได้ยังไง" วารีพึมพำกับตัวเอง
"เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ ยาคุมเหรอ?!" โยธินหันมาถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
"ไอ้โยจอดๆๆ จอดข้างทางเดี๋ยวนี้!"
เอี๊ยด!
โยธินหักรถจอดเข้าข้างทางตามที่วารีบอก เธอรีบเปิดประตูรถเดินจ้ำอ้าวเข้าไปที่ร้านขายยา ร่างสูงเดินตามหล่อนเข้ามาติดๆ
"เอายาคุมแผงนึงค่ะ" วารีบอกกับเภสัชกร
โยธินยืนกระวนกระวายว้าวุ่นใจ รอจนกระทั่งเธอจ่ายเงินเสร็จ ก็ตรงเข้ามาฉุดกระชากลากถูวารีออกจากร้านไปที่ซอกตึกข้างๆ
"อะไรของมึงเนี่ยไอ้โย กูเจ็บนะ"
"มึงแดกยาคุมมานานแค่ไหนแล้ว"
"ถามทำไมวะ"
"ถามก็ตอบเหอะน่า! แดกมานานแค่ไหนแล้ว!"
"เออๆๆ กูกินมาสี่ปีแล้ว ตั้งแต่คบกับก้าวนี่แหละ ถามทำไมวะ" วารีเริ่มไม่สบอารมณ์
"ทำไมต้องกิน มันไม่ใส่ถุงฯหรือไง"
"ก็ก้าวบอกว่าชอบสดๆ กูก็ไม่เห็นว่าการกินยาคุมมันจะเสียหายสักหน่อยก็เลย..."
ปึง!!!
"มึงจะบ้าเหรอไอ้วา!!!"
โยธินตวาดเสียงดังลั่นพร้อมกับทุบไปที่กำแพงจนมือถลอก วารีสะดุ้งเฮือกด้วยไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน
"ถ้าจะเอากัน ด่านแรกที่ควรป้องกันคือผู้ชายเว้ย ไม่ใช่โยนขี้ให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายกินยาคุมเองแบบนี้ เออ ใช่ ถ้าในระยะสั้นๆ กินยาคุมมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าในระยะยาวล่ะ มึงเคยคิดไหมว่ามันจะส่งผลยังไง ถุงยางมันใส่ยากนักหรือไง ถ้ามันไม่อยากให้มึงท้องโย้ตอนนี้ก็ไม่ต้องเอากันสิวะ จะอยากอะไรขนาดนั้น!"
"ไอ้โย!"
เพี๊ยะ!!!
วารีตบหน้าโยธินไปเต็มแรง เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาแห่งความเสียใจ
"มึงล้ำเส้นมากไปแล้วนะ" วารีเอ่ยเสียงสั่น
โยธินแค่นหัวเราะ ก่อนจะตวัดสายตาเกรี้ยวกราดมองหน้าวารีอีกครั้ง
"เส้นเหี้ยอะไรของมึง"
"ก็เส้นที่มึงเป็นคนขีดขึ้นมาเมื่อวาเลนไทน์เจ็ดปีก่อนไง"