มาร์คได้พาเบนในร่างมันนี่มายังคอนโด ซึ่งเป็นรังรักของเขากับมันนี่ เมื่อเบนได้เห็นคอนโดหรูใจกลางเมือง เขาถึงกับอึ้งในความสามารถของสองหนุ่ม ที่สามารถสานฝันและสานรักสร้างครอบครัว
“เป็นไงได้กลับมายังคอนโดของเราสองคนแล้ว”มาร์คยืนยิ้มให้เบน
“ก็ดี”เบนไม่รู้จะพูดอะไรเขาจึงพูดได้แค่นี้
“นายไม่ดีใจเหรอที่ได้กลับมาที่คอนโดน”มาร์คมีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ
“พอใจซิ แต่เรายังเจ็บตัวอยู่เลยไม่อยากพูดอะไรเยอะ”
“เอ่อ ถ้างั้นเราขอโทษด้วยนะ”มาร์คยิ้มให้เบนและเดินเข้ามาใกล้ๆและนั่งลงใกล้ๆเบน
เบนที่นั่งบนโซฟาถึงกับต้องเขยิบร่างหนี เพราะสายตาของมาร์คนั้นบ่งบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งเบนสามารถรู้ได้ทันทีว่ามาร์คต้องการที่จะทำอะไร
“จะหนีไปไหน”มาร์คเอ่ยขี้น
“ไม่ได้หนี แค่ขยับให้นายนั่ง”
“อ่อ ถ้างั้นไม่ต้องขยับแล้ว”มาร์คจับไปที่ต้นขา
“นายจะทำอะไร”เบนใจเต้นระรัว เพราะถึงแม้เขาจะเคยหยอกล้อเล่นกับเคนเพื่อนรัก แต่เขาไม่ได้มีความรู้สึกกลัวแบบนี้มาก่อน
“นายกลัวอะไร”
“ไม่ได้กลัว”เบนพูดเสียงอ่อย
“อ๋อ เราเข้าใจแล้วนายยังจำอะไรไม่ได้ เราลืมสนิทไปเลย”มาร์คเลิกตอแยเบนทันที
เบนรู้สึกโล่งอกที่มาร์คไม่ทำอะไรต่อจากนี้ เพราะขืนทำมีหวังเขาถีบมาร์คกระเด็นแน่ ส่วนมาร์คก็กลุ้มใจอย่างที่สุด เพราะเขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ นอกจากพยายามรื้อฟื้นความจำตามคำแนะนำของหมอระบบประสาท
“ถ้าอย่างงั้นเรามารื้อฟื้นความจำกันก่อนดีไหม”มาร์คเอ่ยขึ้น
“ดีๆ”ความจริงแล้วเบนก็ไม่ได้อยากรู้ความสัมพันธ์ มันนี่เจ้าของร่างกับมาร์คเท่าไรนัก แต่เพื่อยื้อเวลาไปเรื่อยๆเขาจึงต้องจำยอมฟังแต่โดยดี
“ความรักของพวกเราเกิดเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัย”
“เกิดได้อย่างไง”
“ก็เราตามจีบนายไง นายเรียนคณะบริหารธุรกิจ ส่วนเราเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เราเห็นนายตอนเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เพียงเห็นครั้งแรกนายก็ต้องตาต้องใจเราเลยแหละ เราเป็นนักฟุตบอลทีมมหาลัย ตั้งแต่เจอนายครั้งแรกเราก็ชอบนายเลย เราก็เลยตามจีบนาย พูดแล้วตลกตัวเองเหมือนกัน”
“เหรอ”เบนรู้สึกตกใจที่มันนี่เป็นลีดเดอร์ แต่ก็รู้สึกดีใจที่มาร์คชอบเล่นฟุตบอลเหมือนกับเขา เพราะในช่วงเวลาที่เขายังอยู่ในร่างมันนี่ จะได้มีกิจกรรมแบบลูกผู้ชายทำกัน
“ใช่สิ แต่นายก็เล่นตัวเหลือเกิน”
“ฮ่ะ”เบนมองไปที่มาร์ค ซึ่งมาร์คจัดว่าเป็นหนุ่มหน้าตาดีมาก หุ่นก็บึกบึนเขาเลยสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมันนี่จึงเล่นตัว
“นอกจากนายเล่นตัวแล้วนะ อีกอย่างนายมีคนที่ชอบอยู่ด้วย เป็นหนุ่มคณะเศรษฐศาสตร์”
“นายจีบมันนี่ติดได้อย่างไง”
“ยังคิดว่าตัวเองไม่ใช่มันนี่อีกเหรอ”มาร์คมองหน้าเบนตรงอีกครั้ง
“ใช่”เบนตอบแบบงง
“ถ้างั้นเราเล่าต่อเลยนะ”
“อือ”เบนพยักหน้า
มาร์คจึงเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆตั้งแต่ครั้งแรกที่เขากับมันนี่เจอกัน ในงานกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย มาร์คนั้นได้เป็นนักฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัย โดยมีมันนี่และเพื่อนหนุ่มสาวอีกหลายคน ได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้กับมหาวิทยาลัยที่ทั้งสองได้เรียน
ผลการแข่งขันทีมมหาวิทยาลัยของมาร์คและมันนี่เป็นทีมชนะ หลังจากรับรางวัลและเปลื่ยนเสื้อผ้า มาร์คก็ได้ออกมานอกสนาม และเขาก็ได้พบมันนี่ที่อยู่ในชุดปกติทั่วไป การแต่งตัวของมันนี่ออกแนวน่ารักมากกว่าเท่ห์ เพียงมาร์คเห็นครั้งแรกเขาก็ถูกตาต้องใจอย่างมาก มาร์คจึงเดินเข้าไปหามันนี่ทันที
“ขอบคุณมากนะครับที่มาเชียรพวกผม”มาร์คยิ้มให้มันนี่ที่กำลังยืนอยู่คนเดียว
“เอ่อ จำได้แล้วนายทำประลูกสุดท้ายที่ทำให้มาหวิทยาลัยของเราชนะ เราก็ต้องขอบใจนายเหมือนกัน ที่สร้างชื่อเสียงให้กับทีมมหาวิทยาลัยของเรา”
“ถือว่าเราสองคนทำเพื่อมหาวิทยาลัยทั้งคู่ แล้วนายเรียนคณะอะไรล่ะ”มาร์คถามทันทีเพื่อจะสานต่อความสัมพันธ์
“บริหารธุรกิจและนายล่ะ”
“วิศวะ”
“ว้าว ถึงว่าเล่นฟุตบอลเก่งขนาดนี้”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แล้วนายชื่ออะไร”
“มันนี่ นายล่ะ”
“มาร์ค”
“ยินดีที่รู้จักกัน ได้เป็นเพื่อนหนุ่มวิศวะ ถ้าเพื่อนของเราได้รู้อิจฉาเราแย่ เห็นไหมมองกันตาเป็นมันเลย ทั้งเรียนก็เก่งนักกีฬาก็เลิศรูปร่างหน้าตาก็เพอร์เฟค เพื่อนของเราคงอกหักเป็นแถบแน่”
“เรายังไม่มีแฟนหรอก”
“แหม รีบออกตัวเลยนะ ไม่เป็นไรหรอกเพื่อนเราเยอะ นายชอบคนไหนบอกเราได้นะ”
“ถ้าเป็นนายล่ะ”มาร์ครุกทันทีไม่รอเวลาให้เสียเปล่าไป
“นายนี่ชอบพูดเล่นเนาะ ถ้างั้นเราไปแล้วนะ เพื่อนรออยู่”
“เดี๋ยวก่อน ขอไลน์ เฟสบุ๊ค ได้ไหม”
“เอาไปทำอะไร”
“เอาไว้ดูเพื่อนนายไง เผื่อชอบคนไหน”
“แหม ร้ายนะ ก็ได้”มันนี่จึงบอกทุกอย่างที่มาร์คขอ
“ขอบใจมาก เดี๋ยวเราทักไปหานะ ถ้าเจอคนถูกใจ”
“ได้เลย”
มันนี่ยิ้มให้มาร์คก่อนที่จะเดินไปหากลุ่มเพื่อนๆของเขา ก่อนที่จะถึงกลุ่มเพื่อนมันนี่หันมามองมาร์ค ที่กำลังยืนยื้มโบกมือให้เขา มันนี่จึงยิ้มตอบและโบกมือกลับให้มาร์คอีกครั้ง
วันรุ่งขึ้นมาร์คไม่รอช้ารุกต่อทันที หลังเลิกเรียนมาร์คจึงเดินมาที่คณะบริหารธุรกิจ เขามองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นมันนี่ มาร์ครู้สึกเศร้าใจนิดหน่อย จนมีเพื่อนของมันนี่เดินเข้ามาหา
“มาหามันนี่เหรอ”เอ็มเพื่อนที่คณะของมันนี่ ที่เขาสงสัยตั้งแต่เมื่อวาน เพราะเห็นสายตามาร์คมองมันนี่นั้นมีนัยแฝงไว้อยู่
“ใช่ นายเห็นมันนี่ไหม”มาร์คหันมายิ้มให้เอ็ม
“เห็น แต่เราต้องถามนายก่อนนะ นายชอบมันนี่เหรอ”เอ็มถาม
“เอ่อ”มาร์คอ้ำอึ่ง
“ไม่ต้องปิดบังเราหรอก เราเห็นนายมองมันนี่ตั้งแต่เมื่อวานเราก็รู้ได้ทันที ว่านายต้องแอบชอบมันนี่”
“ใช่”
“นั่นไง เราว่าแล้ว เราชื่อเอ็มนะ เป็นเพื่อนของมันนี่”
“ยินดีที่รู้จัก”มาร์คยิ้มให้เอ็มด้วยความจริงใจ
“เช่นกัน แต่นายต้องเหนื่อยหน่อยนะ”
“ทำไม หรือว่า มันนี่มีแฟนอยู่แล้ว”
“ไม่เชิงหรอก มันนี่เขามีคนที่ชอบอยู่แล้วเป็นหนุ่มเศรษฐศาสตร์”
“จริงเหรอเนี่ย”
“จริงซิ เราจะไปโกหกนายทำไม”
มาร์คมีสีหน้าที่เศร้าลงทันที แต่สีหน้าคนยืนตรงหน้านั้นตรงข้ามสิ้นเชิง เอ็มแอบยิ้มเพราะเขาก็แอบชอบมาร์คตั้งแต่แรกเห็น
“แล้วหนุ่มเศรษฐศาสตร์คนนั้นชอบมันนี่หรือเปล่า”
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้านายอยากเห็นเราจะพาไปที่คณะเศรษฐศาสตร์ เพราะตอนนี้มันนี่อยู่ที่นั่น”
“ถ้าไม่รบกวนกันมากเกินไป พาเราไปด้วยได้ก็ดี”
“ได้ ตามมาเลย”
“ขอบใจนายมากนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
มาร์คเดินตามเอ็มไปยังคณะเศรษฐศาสตร์ เพราะในช่วงเวลานี้มันนี่นั้นไปนั่งรอเอฟหนุ่มเศรษฐศาสตร์อยู่หน้าคณะ มาร์คและเอ็มยังเดินไปไม่ถึงมันนี่เลย ทั้งสองต้องหยุดเดินชั่วขณะ เพราะมันนี่ลุกขึ้นยืนและเดินไปหาเอฟที่พึ่งเลิกเรียน
“เอฟ”มันนี่ยิ้มให้เอฟด้วยสายตาเว้าวอน
“มีอะไรเหรอ”น้ำเสียงของเอฟนั้นราบเรียบมาก
“วันนี่นายว่างไหม เราไปเดินเที่ยวห้างกัน”
“เราไม่ว่างนะเพราะใกล้ชอบแล้ว เราต้องอ่านหนังสือ ไม่มีเวลาไปเดินเล่นที่ไหนหรอก”
“ฮือ เราเข้าใจ ถ้างั้นไปกินข้าวเย็นก่อนกลับบ้านก็ได้”
“คงไม่ได้ เพราะแม่เราทำกับข้าวไว้รอที่บ้านแล้ว”
“ไปกินไอศกรีมหรือไม่ก็อาหารว่างก็ได้”
“เราบอกแล้วไงว่าไม่ว่าง ถ้านายอยากไปก็ไปคนเดียว หรือไม่ก็ชวนคืนอื่นไปก็ได้ แค่นี้แหละเรากลับก่อนนะ”
“อือ”มันนี่พยักหน้ายืนนิ่งด้วยความเศร้าและผิดหวังเล็กน้อย
มาร์คและเอ็มยืนมองมันนี่อยู่ห่างๆ ในส่วนของมาร์คถึงไม่รู้ว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน แต่ที่เขารู้แน่ๆว่ามันนี่โดนปฏิเสธ ส่วนเอ็มนั้นสะใจเพราะเขาแอบอิจฉามันนี่มาพักใหญ่นอกจากเรียนเก่งกิจกรรมก็เลิศ หน้าตาก็เด่นเกินหน้าเกินตาเอ็ม
“เราเดินไปหามันนี่กันไหม”มาร์คเอ่ยขี้น
“ไปสิ ไปปลอบใจซะหน่อย”เอ็มยิ้มด้วยความสะใจ
มาร์คและเอ็มรีบเดินไปหามันนี่ทันที เพราะกลัวว่ามันนี่จะเดินไปที่อื่นก่อน เมื่อไปถึงทั้งสองจึงเรียกมันนี่
“มันนี่ ดูสิ เราพาใครมาหา”เอ็มเอ่ยขึ้น
เมื่อมันนี่ได้ยินเสียงเอ็ม เขาจึงหันหน้ามาทันที มันนี่ก็พบกับมาร์คที่ยืนยิ้มให้เขาอย่างเบิกกว้าง
“อ้าวมาได้ไง”
“มาร์คเขาอยากมาหานายไง”เอ็มเอ่ยขึ้น
“อยากมาหาเราหรือว่ามาหาคนอี่น”
“มาหานายนั่นแหละ”มาร์คพูดพร้อมยิ้มด้วยสายตาหวานฉ่ำ
“ไม่ใช่มั้ง”
มันนี่หันไปมองหน้าเอ็มที่ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ภายในใจนั้นเจ็บลึกเคียดแค้นและแอบเคือง แต่พยายามทำเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เป็นไงบ้าง”เอ็มแกล้งถาม
“ก็ไม่มีอะไรหรอก ช่างมันเถอะวันหลังยังมี เอาเป็นว่าวันนี้มาร์คมาหาพวกเราแล้ว อย่างงั้นเราไปเที่ยวห้างหาอะไรกินกันดีกว่าไหม”
มาร์คและเอ็มนั้นยินดีเป็นอย่างยิ่ง มาร์คคิดว่าไปครั้งนี้ จะได้ใกล้ชิดมันนี่มากขึ้น ส่วนเอ็มไม่ต่างกันเท่าไรเพียงแต่สลับคนกันแค่นั้น มีเพียงแต่มันนี่ที่ไปเดินห้างในครั้งนี้ ด้วยความเจ็บปวดใจในส่วนลึก