บทที่ 3 หรือหมอจะไม่มองหญิง (1)

1455 Words
วันต่อมารัมภาสิริขับรถพาน้องสาวออกไปสัมภาษณ์งานและต้องขับผ่านหน้าโรงพยาบาล เธอบังเอิญหันไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินลงมาจากรถของคุณหมอปอร์เช่แล้วยื่นถุงบางอย่างให้แต่ดูเหมือนชายหนุ่มไม่ค่อยอยากรับ น้องสาวก็หันไปเห็นเหมือนกันจึงสะกิดถามพี่สาวที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นสงสัย “พี่ดนผู้หญิงคนนั้นใครกัน” เธอถามพลางใช้ความคิด ผู้หญิงคนเมื่อสักครู่ดูดีไม่น้อย ถ้าเทียบกับรัมภาสิริดูแล้วผู้หญิงคนนั้นกินขาด ทั้งความสวย รูปร่าง ผิวพรรณ รวมถึงการแต่งตัว ระวีรำไพหันกลับมามองพี่สาวตั้งแต่หัวจดเท้า ทำไมถึงได้แตกต่างราวฟ้ากับเหวแบบนี้ รัมภาสิริเป็นคนแต่งตัวสบาย ๆ ชอบใส่เสื้อยืดหลวม ๆ กับกางเกงยีน ม้วนผมเอาไว้บนหัวลวก ๆ ทำให้บางครั้งดูไม่เหมือนผู้หญิงออกแนวทอมบอยมากกว่า “นั่นสิ พี่ไม่รู้จักเขา” หญิงสาวส่ายหน้าในขณะจดจ่อกับการจราจร แต่สมองยังคิดถึงเรื่องของว่าที่สามีกับผู้หญิงคนนั้น เธออยากรู้เหลือเกินนางเป็นใคร มีความสัมพันธ์อะไรกับว่าที่สามีมโนของตัวเอง “ดูเหมือนเขาจะชอบว่าที่พี่เขยเหมือนกันนะ” ความรู้สึกมันบอก ผู้หญิงคนเมื่อสักครู่ต้องคิดเกินเลยกับคุณหมอปอร์เช่อย่างแน่นอน ดูได้จากรอยยิ้มและแววตามองจากดาวอังคารก็ยังรู้ แล้วทำไมพวกเขาถึงมาด้วยกันได้ หรือว่านั่นคือแฟนตัวจริงของหมอ ระวีรำไพคิดไปไกล “ไม่แปลกหรอกคุณหมอโสด แถมหล่อ ต้องเนื้อหอมเป็นธรรมดา” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ในใจหวั่นไหวไม่น้อย ถ้าปอร์เช่มีคนที่ชอบแล้วเธอจะทำอย่างไรดี แต่เท่าที่สืบมาเขายังไม่มีใคร แล้วตกลงผู้หญิงคนเมื่อสักครู่คือใครกัน ทำไมถึงไม่คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะเธอเทียวไปเทียวมาโรงพยาบาลนานเกือบเดือนเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอกัน แต่ก็ไม่แน่โรงพยาบาล AMS มีขนาดใหญ่อาจจะเดินคลาดกันไปมาทำให้ไม่เจอ หรือเจอแต่จำไม่ได้เพราะไม่เคยสังเกต “จริง ๆ พี่ดนไม่ต้องไปส่งเพลงก็ได้ เพลงไปเอง” “ไม่เป็นไร พี่อยากไปเที่ยวด้วย นานแล้วไม่ได้ไปไหน” “ถ้าเพลงหางานทำไม่ได้ เพลงจะกลับมาดูแลตลาดช่วยพี่ดนกับแม่นะ” “งั้นก็ไม่ต้องไปสัมภาษณ์ มาช่วยงานเลย พี่ดูงานหลายอย่างแทบจะไม่ไหวแล้ว ถ้าได้เพลงมาช่วยพี่จะได้มีเวลาตามจีบคุณหมอ” เรื่องนี้เธอคุยกับน้องแล้วแต่ระวีรำไพลังเลอยากลองหางานทำด้วยตัวเองก่อน หากหางานไม่ได้จริง ๆ จะยอมกลับมาดูแลกิจการของครอบครัวซึ่งนี่ก็ไปสัมภาษณ์มาหลายบริษัท แต่ยังไม่มีบริษัทไหนรับเพราะไร้ประสบการณ์ แล้วเธอจะมีประสบการณ์ได้อย่างไรในเมื่อเพิ่งจะเรียนจบ รัมภาสิริอยากแบ่งเวลาไปตามจีบคุณหมอด้วย ถ้าได้น้องสาวมาช่วยงานจะดีมาก “แบบนั้นก็ได้นะคะ เรากลับรถไปที่โรงพยาบาลดีไหมพี่ดน เพลงอยากรู้ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใคร” คิดไปคิดมาเธอก็ตอบตกลง อย่างไรเสียกิจการของแม่ก็ต้องตกเป็นของเธอกับพี่เพราะน้องชายประกอบอาชีพแพทย์ ไม่ทำวันนี้วันหน้าก็ต้องทำอยู่ดี สู้เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า พี่สาวจะได้มีเวลาไปเต๊าะผู้ชาย ไม่อย่างนั้นรัมภาสิริต้องแต่งงานกับเฮียชิงแค่คิดก็ขนลุก “ไปตอนนี้แล้วจะรู้เหรอ” “เพลงว่าเขาต้องเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลนี้แน่นอน” “รู้ได้ไง เดาเอาเหรอ” “ความรู้สึกมันบอก” “ตกลงจะมาทำงานกับพี่ใช่ไหม แน่ใจนะ” “แน่ใจค่ะ ไปที่โรงพยาบาลเลยพี่ดน” สองสาวหันมายิ้มให้กันมองตาก็รู้ใจ รัมภาสิริเลี้ยวกลับรถแล้วขับไปยังโรงพยาบาลทันที ไม่นานก็มาจอดอยู่ที่ลานจอดรถ พวกเธอกำลังจะกดปิดลิฟต์แต่มีคนจะเข้ามาด้วยจึงรอ ก่อนจะทำตาโตหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ หลังจากได้ยินผู้ชายคนนี้คุยโทรศัพท์พูดชื่อคุณหมอปอร์เช่ “กูมาถึงโรงพยาบาลมึงแล้วนะไอ้เช่ ว่าไงนะหมออิงค์ซื้อของมาฝากอีกแล้วเหรอ เห็นไหมกูบอกแล้วไง มึงต้องหาแฟนเป็นตัวเป็นตน เขาจะได้เลิกยุ่งกับมึง” ดาวินแนะนำก่อนจะบอกเพื่อนสนิทว่าตัวเองจะไปรอที่ศูนย์อาหารในโรงพยาบาล จากนั้นก็ก้าวเท้าฉับ ๆ เดินออกจากลิฟต์โดยไม่หันไปมองหน้าสองสาวแม้แต่น้อย “ผู้ชายคนนั้นพูดถึงคือหมอปอร์เช่ ว่าที่สามีของพี่ดนใช่ไหม” น้องสาวหันมาถามพี่สาวในขณะที่เจ้ากล่องยักษ์ยังเคลื่อนไปตามชั้นต่าง ๆ พวกเธอจะขึ้นไปยังชั้นทำงานของคุณหมอปอร์เช่ “ใช่โรงพยาบาลนี้มีหมอชื่อปอร์เช่แค่คนเดียว” รัมภาสิริพยักหน้าหงึก ๆ เท่าที่รู้ชื่อนี้มีแค่เขาเท่านั้น รับรองผู้ชายคนเมื่อกี้ต้องพูดกับคุณหมอปอร์เช่ว่าที่สามีของเธอ “แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังจีบคุณหมอจริง เหมือนที่เพลงคิด” “เมื่อกี้เขาบอกว่าจะไปไหนนะ” “ศูนย์อาหารค่ะ เราไปกันไหมพี่ดน” “ไป เราต้องไปแนะนำตัวกับผู้ชายคนเมื่อกี้หน่อย” ความคิดซุกซนวิ่งวนเข้ามาในหัวหญิงสาว ไม่รอให้เสียเวลารัมภาสิริกดตัวเลขชั้นที่มีศูนย์อาหาร รอไม่นานลิฟต์ก็พาสองสาวมาถึงจุดหมาย พวกเธอกวาดสายตาไปมองรอบ ๆ เห็นดาวินนั่งอยู่ที่โต๊ะตามลำพังแต่ยังไม่ทันจะเข้าไปทักทายก็เห็นผู้หญิงที่ชื่ออิงค์มานั่งตรงข้ามพลางส่งยิ้มหวาน ออร่าความงามของคุณหมอสาว ทำเอาสองพี่น้องตะลึงไม่น้อย ขนาดมองไกล ๆ ยังรู้สึกได้ถึงความสวย พอมาเจอตัวจริงบอกเลยสวยมาก ตากลม ผมยาว ยิ้มหวาน รูปร่างสูงโปร่ง ถ้าไม่รู้ว่าเป็นหมอนึกว่านางสาวไทย คนอะไรจะสวยได้ทุกองศามองไม่เบื่อเลย รัมภาสิริหน้าหงอยเล็กน้อยเมื่อได้ยลโฉมศัตรูหัวใจ หากปอร์เช่จะลงเอยกับคุณคนสวยคนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก “พี่ดนเอาไงดี ไปนั่งใกล้ ๆ ไหม” “ไป อย่าทำตัวมีพิรุธนะ” “โอเค” สองพี่น้องเดินไปนั่งโต๊ะที่อยู่ด้านหลังดาวินก่อนแกล้งจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แต่กลับเงี่ยหูฟังบทสนทนาของสองคนนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจจึงไม่ทันสังเกตว่าปอร์เช่เดินมาทางนี้ ปอร์เช่ชะงักไปนิดเมื่อเห็นรัมภาสิริกับระวีรำไพนั่งอยู่ข้างหลังดาวินกับคุณหมออิงค์ หรือ แพทย์หญิงอังคณา คุณาระกร หมอทางด้านดวงตาเหมือนกัน แต่เขาทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินไปนั่งกับเพื่อนอยากรู้เหมือนกันสองสาวมาทำอะไร แต่ดูทรงแล้วน่าจะมาจีบตนเองเหมือนเดิม ว่าแต่พวกเธอรู้จักดาวินเหรอ “ไหนว่าเช้านี้ยังไม่มีตรวจไง ทำไมมาช้าจังวะ” “ไม่มีตรวจแต่มีงานอื่น แล้วมึงมาทำไม” “กูมาตรวจสุขภาพแต่ลืมงดข้าวงดน้ำ ค่อยมาตรวจใหม่” “ส่วนอิงค์มาซื้อข้าวค่ะ เห็นคุณดาวินนั่งอยู่ก็เลยเข้ามาทักทาย” “ครับ แล้วคุณเสียงเพลงกับคุณดนตรีมาทำไมครับ” คราแรกเขาจะไม่ทักแล้ว แต่มันอดไม่ได้เพราะอยากรู้วัตถุประสงค์ของสองสาว ปากมันทักไปอย่างลืมตัว ลืมไปว่าดาวินกับอังคณาไม่รู้จักรัมภาสิริกับระวีรำไพ สองสาวถึงกับสะดุ้งหลังจากได้ยินเสียงเข้มของคุณหมอจึงค่อย ๆ หันมามอง จากนั้นพวกเธอก็ย้ายโต๊ะมานั่งด้วยกันกับสองหนุ่มและหนึ่งสาวที่กำลังอยู่ในอาการงุนงง ผู้หญิงสองคนนี้เป็นใครกัน รัมภาสิริลากเก้าอี้ไปนั่งใกล้กับปอร์เช่อย่างไม่เกรงกลัวสายตาไม่พอใจของคุณหมออังคณา ส่วนระวีรำไพไปนั่งใกล้กับดาวินเพราะไม่อยากนั่งติดกับคุณหมอศัตรูหัวใจของพี่สาว ดาวินประสานสายตากับเพื่อนแล้วถามในใจว่า สองสาวเป็นใครกัน นายรู้จักเหรอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD