น้องอายเป็นของพี่

1533 Words
อารยาหน้าตึงเมื่อก่อนขึ้นเครื่องแม่บอกว่าฝากตัวเองไว้กับพี่ชายหื่นข้างบ้าน ทั้งๆ ที่เธอบอกท่านแล้วว่าดูแลตัวเองได้ แต่ท่านก็บอกว่ายังไงก็ดีกว่าอยู่คนเดียว ให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนดีกว่า เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอยู่บ้านกับคนใช้ผู้หญิง ยังไงมันก็ไม่ปลอดภัย “ทำไมแม่แววถึงทำอะไรไม่ปรึกษาไม่ถามน้องอายสักคำเลยว่าอยากให้มีคนมาอยู่ด้วยไหม” หล่อนบ่นขณะเดินเข้ามาในบ้าน “ทำไมกลับมืดแบบนี้น้องอาย” เท้าเล็กที่เดินเข้ามาในบ้านถึงกับหยุดทันทีเมื่อเสียงที่ดังขึ้นจากข้างหน้ามันคุ้นหูคุ้นเคยเหลือเกิน และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครมานั่งรอตัวเอง “พอดีติดทำรายงานกับเพื่อนค่ะ” “แน่ใจว่าติดทำรายงาน ไม่ใช่ติดไอ้หน้าอ่อนนั่น” “อะไรของพี่หมอเนี่ย น้องอายเหนื่อย ขอไปอาบน้ำนอนพักผ่อนก่อนนะคะ” พูดจบก็ตั้งใจจะเดินตรงไปยังบันไดบ้าน แต่ก็ต้องหยุดเท้าไว้เหมือนเดิมเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยดังขึ้นมาอีก “เดี๋ยวก่อนสิ จะไปอาบน้ำนอนแล้วกินข้าวกินปลามารึยัง” “ไม่หิวค่ะ” “แต่พี่หิว และพี่ก็รอน้องอายกลับมาทานมื้อเย็นด้วย พี่ทำสปาเกตตีผัดขี้เมาไว้รอ” เขาบอกเธอ “แต่น้องอายไม่หิว พี่หมอหิวก็ทานคนเดียวเถอะค่ะ” “อย่าให้พี่ต้องใช้กำลังบังคับนะน้องอาย” เขาขู่เธอ “ทำไมต้องบังคับน้องอายด้วย แล้วนี่พี่หมอก็กลับบ้านพี่ไปได้แล้ว น้องอายอยู่บ้านกับพี่ๆ ในบ้านได้ค่ะ” “คืนนี้พี่จะนอนที่นี่ พี่ขอน้าแววแล้วและน้าแววก็ตกลงแล้วด้วย ไปกินข้าวกับพี่ พี่ไม่ชอบกินข้าวคนเดียว” เขาเดินไปคว้าข้อมือเล็กแล้วออกแรงดึงลากให้เดินตามตัวเองไปยังห้องรับประทานอาหาร ส่วนอารยาก็ได้แต่เม้มปากแน่นเมื่อทำอะไรไม่ได้ เพราะแรงของชายหนุ่มเยอะเหลือเกิน “น้องอายโตแล้วนะคะพี่หมอ อยู่คนเดียวได้ พี่หมออยู่ด้วยน้องอายเกรงว่าน้องอายจะไม่ปลอดภัยค่ะ” หึหึ “ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ ไปกินข้าวเถอะพี่หิวแล้ว รอน้องอายนานมากเลยรู้ไหม” เขารู้ว่าความนัยในประโยคของอารยาคืออะไร และนั่นคือสิ่งที่เขาอยากทำที่สุดในตอนนี้ “คนใจร้าย น้องอายไม่ชอบที่พี่หมอเป็นแบบนี้เลย” หล่อนบอกแล้วบิดข้อมือตัวเองออกจากอุ้งมือใหญ่แล้วเดินนำหน้าไปทางห้องรับประทานอาหารของบ้าน โดยมีแขกของบ้านจอมเผด็จการเดินตามไปติดๆ อารยานั่งเขี่ยสปาเกตตีไปมา ก็หล่อนไม่หิว แต่ทัพพ์ยังคงบังคับให้มานั่งทานด้วย หล่อนนั่งเขี่ยไปเขี่ยมาจนคนร่วมโต๊ะด้วยสังเกตเห็นแล้วละมือจากจานของตัวเองมาจับมือเล็กของคนที่นั่งตรงข้ามพร้อมกับเอ่ยถามเสียงทุ้มแต่แฝงไปด้วยอำนาจ “ทำไมไม่ทานล่ะ หรือไม่อร่อย” “ก็น้องอายไม่หิว แต่พี่หมอบังคับแล้วจะให้กินลงได้ยังไงคะ” พูดพร้อมกับดึงชักมือตัวเองกลับมาหาตัวเอง “ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก” “ก็เป็นไปแล้ว เป็นโรคกระเพาะก็แค่หาหมอกินยาเดี๋ยวก็หาย” “ดื้อ กินเลยนะ พี่อุตส่าห์ตั้งใจทำให้กิน” “ถ้าถึงขั้นอุตส่าห์แบบนั้นต่อไปพี่หมอไม่ต้องทำแล้วนะคะ น้องอายเกรงใจ อีกอย่างน้องอายอยู่บ้านคนเดียวได้ พี่หมอไม่ต้องมาอยู่ด้วยหรอก บ้านเราก็อยู่ติดกันแค่นี้เอง เดี๋ยวน้องอายจะบอกแม่แววเองค่ะว่าอยู่คนเดียวได้ ไม่อยากรบกวนพี่หมอ” อารยารู้สึกน้อยใจกับคำพูดของเขา และใจมันเจ็บแปลกๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ชอบหมอหนุ่ม “ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก พี่เต็มใจทำทุกอย่างเพื่อน้องอาย” “ถ้าเต็มใจงั้นก็กลับไปบ้านพี่สิคะตอนนี้ น้องอายขอตัวนะคะ เพลีย เหนื่อย ง่วง” พูดจบก็ลุกขึ้นทันที แต่ยังไม่ทันได้เดินหนี เสียงทุ้มเข้มก็ดังขึ้นก่อน “พี่ให้ไปรึยังถึงจะไป” “เอ๊ะ! พี่หมอคะ” “ครับ” “ทำไมพี่หมอถึงเป็นคนเข้าใจยากแบบนี้คะ น้องอายก็บอกแล้วว่าไม่หิวแต่แรก และตอนนี้ก็ง่วงมากด้วย ขอตัวนะคะ ถ้าพี่หมออยากกินก็กินคนเดียวเลย อยากอยู่ก็อยู่ต่อเลยค่ะ น้องอายเหนื่อยจะพูดกับคนไม่ฟังความคนอื่นแบบพี่หมอแล้ว” อารยาพูดจบก็รีบเดินเร็วๆ ออกจากห้องรับประทานอาหารไปทันที ส่วนทัพพ์ก็ได้แต่กัดฟันแน่นแล้วมองจานสปาเกตตีของตัวเองที่ตั้งใจทำไว้รอน้องน้อยก็ต้องลุกขึ้นเก็บจานแล้วเทมันทิ้ง ก่อนจะล้างจานเช็ดจานเก็บไว้ที่เดิมแล้วเดินกลับไปยังบ้านของตัวเองเพื่ออาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วค่อยมาใหม่ คืนนี้เขาจะนอนห้องที่อยู่ติดกับห้องอารยา เพราะเขาให้เด็กรับใช้จัดไว้ให้ตั้งแต่กลางวันแล้ว หัวใจของอารยาเต้นแรงเมื่อรู้ว่าคนที่นอนห้องข้างๆ ติดกับห้องตัวเองคือทัพพ์ ไม่รู้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ มือเล็กแตะริมฝีปากของตัวเองแล้วกลิ้งบิดตัวไปมาบนเตียง หัวใจก็ยิ่งสูบฉีดเลือดแรงจนต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัวตัวเองไว้ แต่แล้วเสียงประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “น้องอายหลับรึยัง” คนที่เคาะไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าคือทัพพ์ เขามาเคาะห้องเธอ แล้วเธอก็ตั้งใจจะไม่ตอบกลับ เงียบ! หล่อนเม้มปากเงียบไม่ยอมขานรับ ทำให้คนหน้าห้องร้องเรียกอีกครั้ง แล้วเคาะห้องดังกว่าเดิม ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! “หลับรึยังน้องอาย” เงียบ! หล่อนไม่ตอบกลับเหมือนเดิม ทำให้คนหน้าห้องพูดต่ออีก “พี่รู้นะว่าน้องอายยังไม่หลับ ไฟในห้องเปิดอยู่ น้องอายไม่เคยเปิดไฟนอน เปิดประตูให้พี่หน่อย หรืออยากให้พี่ไปขอกุญแจกับเด็กรับใช้มาไขเข้าไปเอง” นั่นแหละสิ้นเสียงทุ้มของคนบ้าอำนาจทำให้เธอต้องรีบลุกเดินเร็วๆ ไปปลดล็อกประตูห้องแล้วกระชากเปิดออกพร้อมถามคนเผด็จการ “มีอะไรคะพี่หมอ” “ขอเข้าไปในห้องหน่อยได้ไหม” “ไม่ได้ค่ะ และไม่ดีด้วย พี่หมอเป็นผู้ชายและคิดไม่ซื่อกับน้องอายด้วย ฉะนั้นมีอะไรก็คุยกันหน้าห้องนี้แหละค่ะ” อารยาพูดดักทางไว้อย่างรู้ทันความคิดของหมอหนุ่ม ก็ตอนนี้พี่ชายข้างบ้านทำตัวหื่นตลอดเวลา ยิ่งสายตาของเขาที่กำลังจ้องมองมาทางเธอตอนนี้มันยิ่งไม่ปลอดภัยจนต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้แน่น ทั้งๆ ที่ใส่ชุดนอนเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาวมิดชิดก็ตามแต่ แต่สายตาของทัพพ์มันทำให้หล่อนกลัวและคิดแบบนั้นจริงๆ “ถ้ารู้ว่าพี่คิดไม่ซื่อแล้วน้องอายจะทำอะไรได้ พี่จูบน้องอายสองครั้ง ถือว่าพี่จูบจองไว้แล้ว ฉะนั้นน้องอายก็เป็นของพี่ พี่จะเคลมตอนไหนก็ได้ และไอ้หน้าอ่อนนั่น ถ้ายังไม่เลิกกับมันอีกเจอดีแน่ พี่จะไม่ทำแค่จูบแบบสองครั้งนั่นแล้วนะ แต่พี่จะทำให้น้องอายเป็นเมียพี่ทุกซอกทุกมุมของร่างกาย พี่จะจูบตั้งแต่โคนหูถึงเล็บเท้าเลยคอยดู” คำพูดของทัพพ์ไม่มีแววล้อเล่นเลยสักนิด ดวงตาของเขามันบอกชัดว่าจริงจังและทำจริงอย่างที่พูด ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เดินจากไปทิ้งให้คนฟังได้แต่นิ่งอึ้งกับคำพูดของเขา ตึก! ตัก! ตึก! ตัก! เสียงหัวใจของอารยาดังแรงรัวในอกจนแข้งขาแทบอ่อนแรง มือเล็กคว้าจับขอบประตูห้องรั้งตัวเองไว้ไม่ให้ทรุดไปกับพื้น เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทัพพ์นั้นเดินกลับห้องไปตอนไหน เพราะคำพูดประโยคก่อนหน้ามันยังคงดังก้องในหูและโสตประสาทอยู่เลย “ให้ตายสิ คนบ้า ไอ้พี่หมอบ้า” อารยาปิดประตูล็อกห้องแล้วเดินกลับไปยังเตียงนอนนุ่มของตัวเองด้วยใจที่เต้นแรง ก่อนหน้าว่าเต้นแรงแล้ว แต่ตอนนี้เต้นแรงกว่า เต้นแรงจนได้ยินถึงข้างนอก มือเล็กยกขึ้นกุมแก้มทั้งสองข้างที่มันร้อนแปลกๆ คล้ายจะไม่สบาย แต่เธอไม่ได้ป่วยเธอรู้ แล้วเพราะอะไรล่ะ เธอเป็นอะไรไปกันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD