4

1124 Words
งานปาร์ตี้จัดขึ้นในบ้านของคีธ เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเดือนดารา ที่เปิดบ้านของตนเป็นสถานที่ปลดปล่อยความตึงเครียดที่สะสมมาหลายเดือน ให้เพื่อนๆ ได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่ คีธเป็นหลานชายมหาเศรษฐีชื่อดังชาวอังกฤษ เอเดน คลิฟฟอร์ด คีธจึงเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่สาวๆ หลายคนหมายปอง รวมทั้งมยุรีที่หลงรักเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ เพราะรู้ดีว่า ไม่คู่ควรกับคีธ “เดน่า” คีธยิ้มกว้าง เดินมาหาเดือนดาราที่มาถึงบ้านตนพร้อมกับมยุรี ทว่าในสายตาของคีธมองเห็นเพียงเดือนดาราคนเดียว “คืนนี้เธอสวยจัง” คีธกล่าวชมสตรีที่ครองใจเขาตั้งแต่แรกเห็น ยิ่งได้รู้จักเขายิ่งรักเธอมากขึ้น จนสายตาของเขาไม่เคยแลหญิงใดนอกจากเดือนดารา คนถูกชมยิ้มเขิน แต่อีกหญิงหนึ่งรู้สึกเสียใจ และมีความริษยาเพื่อนสาวควบคู่ ทว่ามยุรีก็เก็บกลั้นความรู้สึกไว้ไม่แสดงออกมาทั้งสีหน้าและแววตา “มาสองคนชมคนเดียวได้ไง ฉันน้อยใจนะเนี่ย” มยุรีพูดเย้า แสร้งทำเป็นหน้างอ “ก็สวยทั้งสองคน แต่เดน่าสวยกว่าไง” คีธปากตรงกับใจ “ขอบใจมากนะสำหรับคำชม” เดือนดารากล่าวเสียงหวาน ด้วยรอยยิ้มแสนสวย “เข้าไปในงานกันเถอะ เราจะได้ไปสนุกกับเพื่อนๆ” จบคำพูดของคีธ ทั้งสามจึงพากันเดินไปยังห้องปาร์ตี้ที่อยู่ทางด้านปีกซ้ายของบ้าน มยุรีนั่งดื่มกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยสีหน้าซังกะตาย งานปาร์ตี้คืนนี้เธอน่าจะสนุกสนานกับเพื่อนมากกว่า มานั่งทำหน้าเช่นนี้ แต่เธอก็ฝืนความรู้สึกตัวเองไม่ไหว เมื่อเห็นคีธเอาอกเอาใจเดือนดาราตลอดเวลา ราวกับว่าทั้งงานมีเดือนดารามาร่วมงานคนเดียว แล้วยิ่งเห็นสายตาของคีธมองเดือนดาราด้วยแล้ว ย่ำเตือนให้เธอรู้ว่า เขาไม่มีวันมองเห็นหญิงสาวคนใดอีก ความเจ็บปวดพุ่งเข้าสู่จิตใจต่อเนื่อง มยุรีจึงใช้แอลกอฮอล์ดับความปวดร้าวในใจ “มาร์จี้ ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษา” คีธเดินมานั่งข้างมยุรี “ถ้าไม่มีเรื่องจะปรึกษาฉัน คุณก็คงไม่มาหาฉันใช่ไหม” เธอพูดด้วยความน้อยใจ “ฉันเห็นคุณเอาใจแต่เดน่า คนอื่นในงานคุณแทบมองไม่เห็นหัว” “ฉันขอโทษ” คีธรู้ตัวว่าตัวเองผิด “มีอะไรก็ว่ามา คุณจะได้ไปเอาใจเดน่าต่อ” เธอพูดกึ่งประชด “ฉันรักเดน่า รักมานานแล้ว” แค่เริ่มต้นเรื่องที่คีธอยากจะคุยด้วย หัวใจมยุรีเจ็บหนึบ อยากจะลุกหนีไปเสียตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่า จะทนกับความรู้สึกได้มากน้อยแค่ไหน “ฉันรู้ว่าคุณรักเดน่า แล้วคุณมาบอกฉันทำไม ทำไมไม่ไปบอกเดน่าล่ะ” ยิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บ “ฉันอยากบอกใจจะขาด แต่ฉันมาปรึกษาเธอก่อนว่า จะบอกเดน่ายังไงดี ฉันกลัวว่าเดน่าจะไม่รับรักฉันน่ะสิ” คีธกังวลว่า เดือนดาราอาจจะไม่มีความรู้สึกเดียวกับตน เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาและเธอคบกันฉันท์เพื่อน หากตนบอกความรู้สึกที่แท้จริงไป ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอาจจะไม่เหมือนเดิม มยุรีอยากจะบอกคีธว่า เดือนดาราไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับเขา เดือนดาราเห็นคีธเป็นเพื่อนคนหนึ่ง เป็นมิตรภาพที่ไม่มีวันแปรเปลี่ยนเป็นอื่น แต่เธอไม่พูดเพราะต้องการให้คีธรู้ความรู้สึกนั้นด้วยตัวเอง เขาจะได้ตัดใจแล้วหันมามองหญิงสาวคนอื่นบ้าง “ไม่เห็นจะยากคุณรู้สึกยังไงก็บอกไปตามนั้น ส่วนผลออกมายังไงเธอก็ต้องยอมรับ” “เธอสนิทกับเดน่า เธอพอจะรู้ไหมว่า เดน่ารู้สึกยังไงกับฉัน เดน่ารักฉันเหมือนกับที่ฉันรักเขาหรือเปล่า” “ฉันเป็นเพื่อนสนิทของเดน่าก็จริง แต่เรื่องนี้ฉันไม่รู้จริงๆ วันๆ ฉันเห็นเดน่าเอาแต่อ่านหนังสือ คร่ำเคร่งกับการเรียน เรื่องอื่นเดน่าไม่เคยสนใจ เรื่องนี้คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ” “ใช่ฉันรู้ ฉันถึงกลัวไงว่าเดน่าจะไม่รับรักฉัน” คีธกล่าวอย่างเป็นกังวล “อย่างที่ฉันบอกคุณไปว่า คุณต้องยอมรับในผลที่ออกมา เดน่าจะรักคุณหรือไม่ ขึ้นอยู่กับใจของเดน่าเอง แต่ถ้าคุณไม่บอกรักเดน่า คุณก็จะไม่มีวันรู้หัวใจเดน่าเลยว่า รู้สึกยังไงกับคุณ คุณต้องตัดสินใจเอาเองนะว่า จะทำยังไง” มยุรีไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้ เพราะยิ่งพูดเธอยิ่งเจ็บ เจ็บลามไปทั่วหัวใจ รักคนที่เขาไม่มีวันรักเรา ช่างเจ็บปวดรวดร้าวใจเหลือเกิน เธออยากจะร้องไห้ แต่ก็กลั้นน้ำตาไว้สุดฤทธิ์ “โอเค ฉันจะบอกความในใจกับเดน่าคืนนี้” คีธตัดสินใจในที่สุด “ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน ฉันก็จะยอมรับมัน ดีกว่าเก็บไว้คนเดียวในใจ ขอบใจมากนะที่ให้คำปรึกษา” คีธยิ้มให้มยุรี ก่อนจะลุกขึ้นยืน ก้าวเดินไปหาเดือนดาราที่นั่งคุยกับเพื่อน เขาตั้งใจและตั้งมั่นบอกความรักที่มีต่อเธอให้รับรู้ มยุรีมองตามร่างสูงใหญ่ด้วยหัวใจเจียนสลาย เธอต้องการจะทำเหมือนกับคีธบ้าง ปรารถนาจะบอกความในใจของตนให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แล้วไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน เธอก็จะยอมรับมัน ขอเพียงคีธรู้ว่า เธอรักเขาสุดหัวใจเป็นพอ ทว่ามยุรีรู้คำตอบดีแก่ใจว่า ผลจะออกมารูปแบบใด คีธไม่มีวันรักตน ไม่ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้า มยุรียอมรับความเจ็บปวดโดยดุษณี เสียงมือถือที่ดังขึ้น ทำให้มยุรีละสายตาจากคีธ หยิบมือถือที่ส่งเสียงร้องดังไม่หยุด พอรู้ว่า บุคคลใดเป็นคนโทรมา เธอรีบรับสายทันที “ค่ะ จะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” มยุรีวางสายหลังจากพูดคุยกับต้นสายไม่กี่ประโยค เธอหันมองคีธอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากงานอย่างตัดใจ มยุรีมาถึงผับแมรี่โรสในอีกสี่สิบนาทีต่อมา เธอก้าวเดินเข้าไปในผับไม่กี่ก้าว แมรี่ก็เดินปรี่เข้ามาหา ใบหน้าของสตรีวัยสี่สิบต้นๆ เจ้าของผับหรูเต็มไปด้วยความร้อนใจและมีความกังวลเคลือบแฝง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD