“นายท่าน..มีข่าวจากหอประมูลขอรับ” หลุนคุนเมื่อได้รับข่าวที่คิดว่านายของตนจะต้องรู้สึกพอใจแน่ ๆ ก็รีบเข้ามารายงานทันที
“อืม..ว่ามาสิ”
“มีสมุนไพรวิเศษและสัตว์อสูรเข้าประมูลขอรับ นายท่านจะเข้าไปที่หอประมูลหรือไม่ขอรับ”
“สัตว์อสูรยังงั้นหรือ เป็นชนิดไหนกันและแคว้นใดนำมาประมูลทำไมเขาไม่เก็บไว้เอง”
“เหยี่ยวเหมันต์มีคนจากแคว้นวารีนำมาประมูลและไม่ใช่ผู้ฝึกปราณ ซ้ำสัตว์อสูรก็มีอาการบาดเจ็บมากด้วยขอรับ”
“คงจะหาทางใช้งานไม่ได้จึงต้องเอามาประมูล คนแคว้นเหมันต์คงต้องการไว้ครอบครองเป็นแน่ แล้วสมุนไพรวิเศษล่ะเป็นชนิดใดแล้วแคว้นใดนำมาประมูล”
“ท้ออัคคีสองผล ท้อทิพย์มรกตสองผลแล้วยังมีกล้วยไม้เหมันต์อีกสองดอก ผู้นำประมูลคือแม่นางคนนั้นขอรับนายท่าน”
‘เป็นนางหรือแล้วนางเกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลไป๋กันแน่’ เทียนหรงรู้สึกสงสัยเพราะสมุนไพรวิเศษทั้งหมดที่กล่าวมาเขาคุ้นเคยกับมันดีคงมีแค่ตระกูลไป๋เท่านั้นแหละที่มีไว้ในครอบครอง
“นางได้บอกนามไว้หรือไม่”
“ไม่ได้บอกขอรับ แต่นางบอกว่านางเป็นแค่แม่ค้าขายสมุนไพรธรรมดา ๆ ขอรับ”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ แม่ค้าหรือ..สมุนไพรธรรมดาหรือ หากว่ามันธรรมดานางคงจะมีเป็นสวนกระมัง” เขาอยากสบถต่อหน้านางยิ่งนักแต่ก็เกรงใจความงามของนางซึ่งเขาทำไม่ลงแน่ ๆ มารดามันเถอะ! ในที่สุดเขาก็อดที่จะสบถในใจไม่ได้อยู่ดี...
ที่หลงเทียนหรงพูดไม่ผิดเลยสักนิด นางไม่ได้แค่มีเป็นสวนหรอกแต่นางอยู่มีเต็มมิติต่างหากล่ะ
“นางช่างอารมณ์ขันยิ่งนักเจ้าว่าไหมหลุนคุน”
“ขอรับนายท่าน แล้วยังมีอีกขอรับ นางฝากสิ่งนี้ไว้ให้ท่านด้วย” หลุนคุนบอกกับเจ้านายแล้วจึงหยิบหีบหยกใบเล็กออกมายื่นให้ต่อหน้า
“สิ่งใดกันที่นางฝากไว้ให้ข้า นางรู้จักข้าเช่นนั้นหรือ” เทียนหรงถามอย่างสงสัย เพราะมั่นใจว่าเขาและนางยังไม่เคยพบเจอกันแน่นอนแต่ไม่นับที่เขาแอบดูนางในวันนี้ เทียนหรงเปิดหีบหยกออกช้า ๆ หยก..ใช่มันคือหยกนางมอบของแทนใจให้เขาเช่นนั้นหรือ
“หลุนคุน เจ้าว่ามันคือสิ่งใดกัน”
“หยกขอรับนายท่าน มันคือหยก”
“ข้ารู้ว่ามันคือหยก เจ้าไม่คิดว่ามันคือของแทนใจจากนาง ที่มอบให้ข้าหรอกหรือ”
“ข้าคิดว่ามันดูประหลาดเกินกว่าจะเป็นของแทนใจขอรับ” โธ่..นายท่านช่างคิดได้ ของแทนใจแบบไหนกันจะอัปลักษณ์เช่นนี้เล่า ดูก็รู้ว่าเจ้านายของเขากำลังเข้าข้างตัวเองเห็น ๆ
“เพราะนางไม่เหมือนใครอย่างไรเล่า ของแทนใจธรรมดาสามัญเช่นผู้อื่นนางจะเอามาให้ข้าทำไมกันล่ะ” นางไม่ธรรมดาและไม่เหมือนใครจริง ๆ นั่นแหละ ขนาดอยู่ในชุดที่มิดชิดยังน่ามองและดูยั่วยวนขนาดนั้น หลงเทียนหรงกล่าวพลางในใจก็คิดเห็นใบหน้านวลผ่องนั้นอย่างเลื่อนลอย
‘นายท่าน ท่านคิดไปไกลเกินไปแล้ว’ จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา
‘หืม..เสี่ยวเสอเจ้าตื่นแล้วหรือ’
‘ข้าตื่นได้สักพักแล้วขอรับนายท่าน’
เสี่ยวเสอคืองูอัสนีม่วงลายดำตัวจิ๋วที่เทียนหรงและไป๋จวิน พบเจอในหุบเขาหมื่นวิญญาณ ตอนนั้นพวกเขาเห็นมันลอยมากับสายน้ำด้วยอาการบาดเจ็บหนักจึงได้ช่วยขึ้นมา แต่อาการของเจ้างูน้อยนั้นหนักเกินไปเกรงว่าจะไม่รอด มีทางรอดเดียวคือต้องมีคนทำพันธะเป็นผู้ครอบครองสัตว์อสูรเพื่อสัตว์อสูรจะได้เข้าไปพักและรักษาตัวภายในตราพันธะสัญญาและจะได้รับปราณจากเจ้านายช่วยรักษา สหายของเทียนหรงจึงได้ขอให้เขาและเจ้างูทำพันธะสัญญาต่อกันซึ่งเทียนหรงและงูน้อยก็ยินยอม สหายของเทียนหรงที่เป็นผู้ใช้อักขระได้วาดอักขระพันธะสัญญาขึ้นมาและเหตุนี้เองเทียนหรงจึงเป็นคนเดียวในตระกูลหลงที่มีสัตว์อสูรในพันธะสัญญา
“หลุนคุน ทำทุกวิธีให้นางได้พักที่ชั้นบนของโรงเตี๊ยมฝูหยาง รีบไปได้แล้วเร็วเข้า”
“ขอรับนายท่าน” หึ ๆ พวกเขาคงจะมีนายหญิงเร็ว ๆ นี้แน่ เรื่องนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านผู้นำตระกูลจะต้องรับรู้
‘นี่ข้าพลาดสิ่งใดบ้างนายท่าน’
‘ตื่นขึ้นมาเจ้าก็สอดรู้สอดเห็นทันทีเลยนะเจ้างูน้อย’
‘ตอนนี้ตัวข้าไม่น้อยแล้วนะขอรับ นายท่านให้ข้าออกไปได้หรือไม่ ข้าอยากจะเห็นหน้านายหญิงแล้ว’
‘นางยังไม่ได้เป็น’
‘เดี๋ยวก็เป็นขอรับ’
‘รู้ดีเสียจริง เจ้ายังไม่ต้องออกมานะเสี่ยวเสอ ข้าจะต้องเข้าประชุมสำนัก’
เวลาเดียวกันในตัวเมืองหลง...
“เรามาช้าไปใช่หรือไม่โรงเตี๊ยมทั้งหมดถูกจองไม่มีเหลือแล้ว”
“ยังมีอีกที่หนึ่งนะขอรับที่เรายังไม่ได้ไป โรงเตี๊ยมฝูหยางยังไงล่ะนายหญิง”
“ท่านคิดว่ามันจะเหลือหรือ โรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งขนาดนั้นคงเต็มตั้งแต่วันแรกแล้ว” นางต้องการที่พักถึงจะเล็กเท่ารูหนูก็เอา นางขอแค่นั้นแล้วค่อยเข้าไปนอนในมิติก็ได้ หรือจะวาปไปหุบเขาหมื่นวิญญาณดี อา..ไม่ได้ ๆ
“ไปเถอะขอรับไม่ลองไม่รู้”
โรงเตี๊ยมฝูหยางเป็นโรงเตี๊ยมสาขาของตระกูลหยาง ผู้เป็นเจ้าของคือนายหญิงตระกูลหลง หยางจี และยังเป็นเจ้าของเหลาอาหารอวี้หยางสาขาเมืองหลงอีกด้วย
“นั่นนางมาแล้ว หลงจู๊ท่านจำที่ข้าบอกได้หรือไม่”
“อืมอืม..ข้าจำได้ ๆ ท่านหลุนคุนโปรดวางใจ”
หลังจากออกจากหอประมูลไป๋ลี่หลินก็ตระเวนหาที่พัก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีห้องเหลือสักที่แม้แต่ห้องที่ว่าเล็กเท่ารูหนูก็ยังไม่มีให้นางได้เข้าพัก นางเหนื่อยมากและต้องการที่พักเหลือเกินนี่คงเป็นที่สุดท้ายแล้วกระมัง ถ้าไม่ได้อีกนางจะวาปไปหุบเขาหมื่นวิญญาณให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยคอยดู
ลี่หลินเงยหน้าขึ้นมองป้ายของโรงเตี๊ยมอย่างทำใจเอาไว้แล้วว่าต้องชวดแน่ ๆ โรงเตี๊ยมระดับนี้จะเหลือรึ แต่ก็ต้องลองดูอย่างที่ต้าฝูแนะนำ เพียงแค่นางและอสูรหนุ่มหนุ่มย่างก้าวเข้ามาข้างในเสียงสนทนาอื้ออึงก็พลันหยุดลง หลายคนที่เคยเห็นนางที่เหลาอาหารมาแล้วก็ได้แต่เพียงหวังว่าจะได้เห็นใบหน้านางภายใต้หมวกผ้าโปร่งสีดำนั่น
“ช่างเป็นสตรีที่น่าค้นหา” คุณชายท่านหนึ่งเอ่ยออกมา
“ข้าจะไปเสนอที่พักให้กับนาง” บุรุษอีกคนลุกขึ้นพร้อมกับเดินตรงรี่เข้าไปหาสตรีที่เขาหมายปอง
หมับ!!!
“แม่นาง...อั๊ก อ๊ากกก แขนของข้า!!!” ผู้ใช้ธาตุเหมันต์ไม่ผิดแน่ แม้จะเจ็บปวด ชายหนุ่มยังมีเวลาคิดถึงผู้ใช้พลังธาตุ
“ปล่อยมือ!” นางสั่งเสียงเย็นเยียบ
“แม่นาง ข้า..ข้าขออภัยข้าปล่อยแล้ว ท่านเป็นคนแคว้นเหมันต์หรือ”
“.......” ไป๋ลี่หลินไม่ตอบแต่แค่สงสัย ‘อะไรกันแค่ใช้ธาตุเหมันต์ได้ จำเป็นจะต้องเป็นคนของแคว้นเหมันต์ด้วยหรือ’
“แล้วแขนข้าล่ะแม่นางมันยังเป็นน้ำแข็งอยู่ ท่านจะไม่ช่วย…”
“หาผู้ใช้ปราณธาตุอัคคีช่วยสิ ให้ไวเข้าล่ะ หึ ๆ”
“ข้าบอกแล้วว่านางไม่ธรรมดา” คุณชายอีกโต๊ะหันหน้าไปพูดกับสหายหลังจากนั่งมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างสนุกสนาน
“เจ้าพูดเมื่อใดกัน” แล้วเสียงซุบซิบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
หลังจากเหตุการณ์ได้สงบลงไม่ถึงสิบลมหายใจด้วยซ้ำ เพราะมันเกิดขึ้นไวและจบลงไวเหลือเกิน
“แม่นาง..ข้าเป็นหลงจู๊ของที่นี่ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น คุณชายท่านนั้นคงจะไม่ได้ตั้งใจแม่นางอย่าได้ถือสาเลยนะขอรับ”
“หลงจู๊ท่านอย่ากังวลไป ข้าเพียงแค่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้น”
‘โชคดีของข้าจริง ๆ ที่ข้ายังไม่เคยทำให้ท่านตกใจนายหญิง’ เป็นเสียงครวญในใจของต้าฝูที่มักจะถูกนางขู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยโดนแช่แข็งซักที
“ที่นี่ยังพอมีห้องพักเหลือให้ข้าบ้างหรือไม่ ข้าไม่เกี่ยงขนาดของห้องหรอก”
“มีแน่นอนขอรับ เพื่อเป็นการขอโทษจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ ทางเรายินดียกห้องบนสุดของโรงเตี๊ยมให้ท่านพักโดยไม่คิดเงินขอรับ” หลงจู๊ตอบอย่างยินดีจนออกนอกหน้า อย่างน้อยเขาก็มีข้ออ้างที่จะยกห้องของคุณชายรองให้นางไปโดยไม่ให้ผิดสังเกตแล้วล่ะ
“ทำไมล่ะโรงเตี๊ยมท่านไม่ได้ผิด หากข้าเข้าพักโดยไม่จ่ายเงินมันคงไม่ดี ท่านคิดเงินไปเถอะข้ามีเงินและพาข้าไปดูห้องได้เลย”
“ขอรับ เชิญตามข้ามา” หรงจู๊พานางขึ้นไปชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยมฝูหยาง ซึ่งด้านบนจะมีห้องพักเพียงแค่สองห้องเท่านั้น
ครืดดด…
“ท่านแน่ใจนะว่าเป็นห้องนี้ มันดูกว้างขวางและหรูหราเอาการ ข้าแปลกใจที่มันยังเหลืออยู่ แล้วท่านคิดข้ากี่ตำลึงล่ะ ข้าจะพักอยู่ที่นี่สามวันจนกว่าจะจบงานประมูล”
“เป็นห้องนี้แน่นอนขอรับ มันเป็นห้องพิเศษจะเปิดใช้เมื่อจำเป็นข้าคิดคืนละหนึ่งตำลึงทอง ท่านพอใจหรือไม่ขอรับ”
“แน่นอนข้าย่อมพอใจ” ห้องดีเลิศถูกขนาดนี้มีที่ไหนไม่เอาก็บ้าแล้ว
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน แล้วข้าจะส่งเด็กรับใช้มาให้”
“ไม่ต้อง ๆ ข้าไม่ต้องการเด็กรับใช้ข้าต้องการความเป็นส่วนตัว หวังว่าท่านจะเข้าใจ”
“ขอรับ ข้ารับรองได้ว่าจะไม่มีผู้ใดมารบกวนท่านบนนี้แน่นอน” นิสัยเหมือนคุณชายรองไม่ผิด ข้าจัดการให้ท่านสำเร็จแล้วนะขอรับคุณชายต่อไปท่านก็ต้องจัดการเองแล้ว
ภายในห้อง...
“ต้าฝูหากข้าจะวาปไปหุบเขาวิญญาณข้าต้องทำยังไงบ้าง”
“ท่านเข้ามิติไปก่อน แล้วให้นึกถึงจุดใดก็ได้ที่ท่านจดจำได้เพียงเท่านั้นเอง จะกลับมายังห้องนี้ท่านก็ทำเหมือนเดิมแค่นึกถึงสถานที่นั้น ๆ การเข้าออกผ่านมิติของท่านก็ใช้ได้แล้วขอรับ”
“มันง่ายดายปานนั้นเชียว แล้วถ้าข้านึกถึงสถานที่ที่ข้าจากมาล่ะข้าจะไปยังโลกโน้นได้หรือไม่” ลี่หลินคิดอยากจะลองดูสักครั้งมันน่าลองไม่ใช่หรือ
“ไม่ได้ขอรับ ห้วงของมิติมันห่างกันเกินไป ท่านไป๋จวินเคย ลองมาแล้ว นายหญิงมีสิ่งใดที่ยังห่วงอยู่ที่โน่นหรือขอรับ”
“ไม่มีหรอก ครอบครัวของข้าพ่อแม่ก็ไม่มีแล้ว พี่น้องที่ยังอยู่ก็แยกย้ายหายหน้ากันไปหมด ชีวิตข้าที่โลกโน้นมีแค่ยายหนูคนเดียวเท่านั้น ข้าแค่อยากกลับไปซื้อของอร่อย ๆ มาเก็บไว้น่ะ ถ้าข้ารู้ล่วงหน้าว่าจะได้มาที่นี่ ข้าจะซื้อของเข้ามาเก็บไว้ในมิติให้หมดเงินในธนาคารเลยเชียว”
“ข้าก็นึกว่าท่านกำลังคิดถึงคนทางโน้น นี่ท่านคิดถึงแค่ของกินหรือขอรับ”
“หรือท่านคิดว่าของกินพวกนั้นไม่อร่อย ข้าจะได้ไม่ต้องทำให้ท่านกินอีก เนื้ออย่างจิ้มแจ่ว ก้อยเนื้อ ซอยจุ๊ จิ้มจุ่มน่องลายเอย ท่านคงไม่ชอบใช่หรือไม่หื้อ...”
“โธ่..ข้ายอมท่านแล้ว ข้าพูดเพียงนิดแต่ท่านร่ายเสียยาวเลยนะขอรับ”
“คิก ๆ” ต้าฝูก็น่าแกล้งเช่นนี้แหละนางละชอบจริง ๆ ที่เห็นพ่ออสูรหนุ่มเกิดอาการนอยแบบนี้
จวนตระกลหลง...
“หลุนคุนเจ้าแน่ใจนะว่านายของเจ้าสนใจนาง ถึงขั้นสละห้องตัวเองเพื่อนางเช่นนั้นรึ ฮ่า ๆ ๆ” ท่านประมุขหลงฉีฟาหัวเราะชอบใจกับเรื่องที่ได้ยินจากปากองครักษ์คนสนิทของบุตรชาย เขายังถามเพื่อความแน่ใจอยู่หลายครั้ง ‘เฮ้อ…ในที่สุดเขาก็จะมีโอกาสได้อุ้มหลานในเร็ววันแน่ ๆ’
“ขอรับท่านประมุข ข้าน้อยมั่นใจเต็มสิบส่วนแต่ท่านอย่าเพิ่งพูดสิ่งใดออกไปนะขอรับ ไม่เช่นนั้นข้าน้อยตายแน่” ‘นายท่านอภัยให้ข้าด้วยข้าทำเพื่อตระกูลของท่านนะขอรับ’ หลุนคุนกล่าวขออภัยในใจที่บังอาจนำเรื่องส่วนตัวของเจ้านายมาเปิดเผย