ตอนที่ 1 รักแท้ที่นางตามหา

1447 Words
ชาดอกไม้ส่งกลิ่นหอมกรุ่น ในถ้วยน้ำอุ่นสีสวยมีดอกไม้เบ่งบานเสริมความสดชื่นทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง ภายในห้องมีเงาของคนสองคนนั่งอยู่ด้านตรงข้ามกัน ฝ่ายหนึ่งสูงศักดิ์เป็นถึงรัชทายาทอีกไม่นานจะได้นั่งบัลลังก์ทองในฐานะชายผู้เรืองอำนาจที่สุดของแผ่นดิน อีกด้านคือพระชายาเพียงหนึ่งเดียว คู่รักแสนชื่นมื่นเหมาะสมกันทั้งรูปลักษณ์ ฐานันดร หญิงสาวในชุดคลุมหงส์ปักดิ้นทองนางเป็นบุตรสาวของแม่ทัพ แม้ครอบครัวทั้งคู่อยู่คนละฝ่ายของสนามการเมืองแต่พวกเขาก็ฝ่าฟันพิสูจน์รักจนได้มาอยู่เคียงข้างกัน วันนี้สามีที่นางรักสุดใจนำชาหอมที่นางชอบมาให้ หากเป็นเรื่องของนางแล้วไม่ว่าสิ่งใดเขาต่างใส่ใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหัวใจของหญิงสาวคงเต้นรัวด้วยความปลื้มปีติทุกครั้งจากการได้รับความรักตอบแทนความพยายามที่นางทุ่มเทกายใจให้ เพราะรัก…ไม่ว่าสิ่งใดที่ท่านต้องการ ข้าพร้อมจะบันดาลมาให้ ต่อให้ข้างกายข้าจะไม่เหลือผู้ใด มีเพียงท่านเท่านั้น ข้าก็มิต้องการสิ่งใดแล้ว “คงจะดีกว่าหากเจ้าดื่มตอนยังร้อน” เจ้าของนัยน์ตาอ่อนโยนส่งสายตาหวานซึ้งให้เฉกเช่นที่ผ่านมา หวงซีซวน ยื่นแก้วดินเผาใบสวยให้ภรรยา พวกเขาแต่งงานกันมาหลายปีแม้พระชายาจะยังไม่มีโอกาสทำหน้าที่มารดา ไร้ทายาทสืบทอดอำนาจ ความรักที่เขามีให้ก็ไม่ได้ลดทอนลงไปแต่อย่างใด “เสด็จพี่ข้าทำงานให้ท่านสำเร็จแล้วทุกสิ่ง แต่มีหลายเรื่องสงสัยอยากถามไถ่เพียงครู่ ไม่ทำให้ชาที่ท่านลงมือชงเย็นชืดหรอกเพคะ” มือน้อยกุมแก้วเอาไว้นางมองไปยังน้ำชาสีใส “ว่ามาสิ” สายตาคมจ้องมองสตรีซึ่งเป็นภรรยาของตนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ “ข้ามาอยู่ตรงนี้ตามเจตนารมณ์ของตนเองมิใช่คำสั่งของผู้ใดความรักที่มีต่อท่านทำให้ข้าตอบรับคำสู่ขอ คำสาบานรักที่เราให้กันข้าไม่เคยคิดจะทำผิดต่อท่าน เลือกจะหลับหูหลับตากับสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้ท่านได้ตามดั่งใจต้องการ” ความในมากมายพรั่งพรูออกมาพร้อมทั้งน้ำตาที่เกินกลั้น ไป๋เย่เซียว แม้ได้รับคำสั่งจากบิดาให้หมั้นหมายกับหวงซีซวนผู้มียศเป็นเพียงองค์ชายรอง นางยินดีรับคำแม้รู้ว่าตนจะต้องตกเป็นเครื่องมือดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของแคว้น ‘ติดตามเขาไป เงี่ยหูฟังทุกสิ่งที่เขาเอ่ย จับจ้องทุกก้าวที่เขาย่าง รายงานทุกสิ่งที่เราจำต้องรู้ เขาเป็นคนอันตราย หากเป็นเจ้าต้องทำได้แน่’ เย่เซียวในตอนนั้นแม้เฉลียวฉลาดแต่เด็กสาวก็ยังคงเป็นเด็กสาวหัวใจดวงน้อยติดปีกโบยบินทันที นางดีใจจนหุบยิ้มไม่ได้เพราะซีซวนคือรักแท้ที่นางตามหา ‘ข้าจะรักและปกป้องเจ้ายิ่งกว่าชีวิตของข้า’ คำสาบานของคู่หมั้นในคืนสมรส ก่อนที่หลังจากนี้สถานะของคนทั้งคู่จะแปรเปลี่ยนจากคนรู้จักไปเป็นคนรัก “น้องหญิง…” “ท่านสังหารครอบครัวข้า ถอนรากถอนโคนผู้คนไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรูทั้งที่เราสัญญากันแล้วมิใช่รึ…หากข้ายินยอมช่วยเหลือ ท่านจะทำเรื่องเลวร้ายนี้เพียงเพื่อขึ้นเป็นฮ่องเต้ ตอนนี้ท่านได้อำนาจล้นฟ้ามาไว้ในมือแล้วคนของข้าผิดอะไร! พวกเขามิได้ขวางเส้นทางของท่านเลยแม้แต่น้อย!!” “เจ้าใจเย็นก่อนเถิด ที่ข้าทำเพราะหากไม่ฆ่าพวกเขาก็คงเป็นเราทั้งคู่ที่ต้องดับสิ้น” ข้ออ้างที่นางได้ยินมาเป็นร้อยหนจนวันนี้ถึงได้รู้สึกตัวว่านางโง่เชื่อไปได้เช่นไร “เสด็จพี่ในความฝันของท่านที่ได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินสมดั่งใจ…วันนั้นมีข้าอยู่ข้างกายท่านหรือไม่เพคะ” “แน่นอน” เขายังคงรักษาท่าทางไว้เช่นเดิมราวกับสิ่งที่นางพูดหาใช่ความจริง “หากเป็นดังท่านว่าเหตุใดจึงหยิบยื่นยาพิษถ้วยนี้ให้หม่อมฉัน” ทำไมนางจะไม่รู้ถึงเจตนาของเขานางอดทนมากพอที่จะรอให้โอกาสเขาในทุกๆ วินาที ปฏิเสธความจริงตรงหน้าซึ่งมันชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาต้องการทำสิ่งใด แม้จนถึงจุดที่นางถอดเขาซึ่งผู้เป็นสามีสวมให้ เปิดโปงความจริงทั้งหมดกลับไร้สายตาลังเลใจจากคนตรงหน้า “ความรักของเราที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ท่านรักข้าบ้างเลยหรือตลอดเวลาคำพูดของท่านสิ่งใดจริงบ้าง” หยาดน้ำใสไหลรินเป็นสายประหนึ่งหยาดฝนโปรยปราย สิ่งที่อัดแน่นอยู่ด้านในพรั่งพรูออกมาจนหมด “ใจจริงข้าอยากเป็นชายที่เจ้ารักไปจนลมหายใจสุดท้ายของเจ้าแท้ๆ อยู่ให้ข้าเลี้ยงแบบเป็นสุนัขแสนเชื่องดังเดิมก็ดีอยู่แล้ว” สายตาคู่ที่เคยมองนางอย่างอ่อนโยนเปลี่ยนไป ใบหน้าของชายที่นางเคยเชื่อสนิทใจวันนี้มิเป็นเช่นนั้นอีกต่อไป ชายหนุ่มเท้าคางมองมายังโฉมสะคราญของเขา วันนี้หมากตัวน้อยหมดสิ้นประโยชน์ที่ผ่านมาการมีนางข้างกายนับว่าเป็นคุณอนันต์ไม่มีใครยอมถูกหลอกใช้โดยไม่ปริปากได้เท่านี้อีกแล้ว วันนี้ต่อให้นางจะรู้ความจริงไปก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนเขากลายเป็นชายซึ่งครองทั้งแคว้นแค่ผู้หญิงคนเดียวจะฆ่าเมื่อไหร่ก็ไม่ใช่ปัญหา “ท่านพี่รู้หรือไม่ สำหรับข้าแล้วหากท่านจะเดินลงเหวลึกแค่ไหนทะเลกว้างเพียงใดข้าจะติดตามไปไม่ห่างเพียงแค่ท่านเอ่ยเท่านั้นข้าพร้อมทำด้วยความเต็มใจ” “เจ้าก็เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอดเย่เซียว” เขาเป็นคนที่รู้ดีที่สุดเสมอ สุดท้ายสิ่งตอบแทนความภักดีมันคือยาพิษถ้วยนี้ใบหน้าของหญิงสาวซึ่งกำลังร่ำไห้สะท้อนบนผิวน้ำของชาถ้วยนั้นนั่นคือใบหน้าของคนโง่ “ข้ารักท่านมากจนครอบครัวหรือชีวิตก็สามารถอุทิศให้ได้ แต่ท่านกลับเลือกไขว่คว้าเพียงอำนาจหักหลังคำสาบาน ไม่ว่าท่านปรารถนาสิ่งใดข้าขออวยชัยไม่ให้ท่านได้มันไป!” เย่เซียวดื่มของเหลวลงคอความหอมหวานยังคงอบอวลในปากก่อนที่จะความแสบร้อนจะเพิ่มมากขึ้น น้ำสีใสแผดเผาลำคอจนร่างเล็กล้มลง ทุกเส้นทางที่มันไหลผ่านสร้างความเจ็บปวดเจียนตาย เลือดข้นตีย้อนขึ้นมาจากอวัยวะภายในซึ่งถูกทำลายจนแหลกเหลวหญิงสาวได้แต่ภาวนาให้ช่วงเวลาของความทรมานนี้จบลงโดยเร็ว พระชายาสำลักโลหิตสีแดงฉานออกมากองใหญ่ ภาพสุดท้ายที่เห็นยังเป็นชายผู้นั้นซึ่งเลือดเย็นมากพอจะมองนางเจ็บปวดจากไปโดยไม่มีความเวทนาสะท้อนออกมาเลยสักนิด ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตความทรงจำมากมายไหลวนเข้ามาในหัวดุจน้ำหลาก ทั้งพ่อแม่ พี่ชาย มิตรสหาย และเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง... ครั้งหนึ่งไป๋เย่เซียวได้มีโอกาสติดตามท่านพ่อเข้ามาในวังหลวงนางตื่นเต้นจนนอนไม่หลับกังวลว่าตนเองจะทำสิ่งใดไม่เหมาะไม่ควรหรือไม่ แต่เมื่อได้เห็นสิ่งปลูกสร้างยิ่งใหญ่โอบล้อมมวลบุปผานานาพันธุ์ ไม่ว่าหันไปทางใดล้วนงดงามก็บรรเทาความตื่นกลัวให้ลดทอนลงไปได้หลายส่วน ไป๋เย่เซียวแตกต่างจากหญิงสาวที่เดินขวักไขว่อยู่โดยรอบทั้งรูปโฉม กิริยาท่าทาง ฐานันดร แม้มีวัยเพียงสิบห้าปีความงามของนางก็ถูกเล่าลือไปไกล เด็กสาวเข้าวังมาพร้อมบิดาและพี่ชาย ตระกูลของพวกเขาผู้สืบทอดตำแหน่งแม่ทัพมายาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษสร้างเกียรติภูมิกึกก้องมากมายถวายความภักดีต่อราชวงศ์จนไร้สิ่งใดต้องพิสูจน์ ขณะที่เหล่าบุรุษเข้าไปคุยเรื่องการเมือง หญิงสาวถูกแนะนำตัวในฐานะบุตรีคนหนึ่งให้ฮ่องเต้ได้รู้จักก่อนจะได้รับคำสั่งให้นั่งรอยังศาลาริมน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ยิ่งสองเท้าเดินเข้าใกล้ปลายทางเท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงเพลงฉินขับขานลอยล่องมาตามลมชัดเจนยิ่งขึ้นมันช่างไพเราะเสียจนนางอยากเข้าไปฟังให้ใกล้ยิ่งไปกว่านี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD