บทที่1 เข้าทางเสือร้าย

2248 Words
"ยายกวาง กลับมาจากโรงเรียนพอดี มานี่มา มาหาตาหน่อย" เสียงเรียกหลานสาวของคุณประพล เรียกให้หลานสาวเดินมาหาตัวเองและแขกที่นั่งอยู่ข้างๆ ตนเอง "ค่ะ สวัสดีค่ะคุณตาคุณยาย วันนี้กวางมีนัดถอดเหล็กดัดฟันที่คลินิกเลยกลับมาช้าค่ะ" ชมพูแพรเดินเข้าไปหาตายายยกมือไหว้ทักทายแล้วส่งยิ้มหวานประจบ แม่นมจันทร์ก็เดินเข้ามารับกระเป๋านักเรียนพาขึ้นไปเก็บบนห้องนอนให้เจ้านายสาว "ยายรู้แล้ว แม่จันทร์เขาบอกยายแล้วว่ากวางจะกลับมืด เลยให้นายมั่นไปรอรับที่โรงเรียนและพาไปคลินิกหมอฟัน เห็นตาเขาบอกว่ากวางอยากเรียนขี่ม้าให้ตาช่วยหาครูสอนให้อยู่ วันนี้ยายถามเพื่อนๆ ตอนไปกินโต๊ะแชร์มาให้กวางแล้วนะ เดี๋ยวกวางลองเลือกครูดูแล้วกันมีอยู่สองสามคนนะลูก" คุณนายรัศมีบอกกับหลานสาว น้ำเสียงฟังดูจะรักใคร่ เอ็นดูหลานคนนี้เป็นที่สุด "อ้าว คุณรัศมีก็มัวแต่ชวนหลานคุย ยายกวางแขกนั่งอยู่ด้วยไม่สวัสดีทักทายอาพยัคฆ์เขาล่ะลูก" คุณประพลพูดท้วงติงขึ้นแล้วรีบหันไปสั่งหลานสาว "สวัสดีค่ะอาพยัคฆ์ แต่กวางคิดว่าอาพยัคฆ์ไม่น่าจะใช่แขกแล้วนะคะคุณตา กวางเห็นอาพยัคฆ์มาบ้านเราแทบจะทุกวันเลย แต่ก็ดีนะคะ คุณตาคุณยายจะได้ไม่เหงามีคนมานั่งคุยด้วย พูดไปแล้วอาพยัคฆ์นี่ก็ทุ่นแรงกวางในการอยู่คุยเป็นเพื่อนกับคุณตาคุณยายไปได้เยอะเลยนะคะ" ชมพูแพรกล่าวสวัสดีแล้วส่งยิ้มหวานให้คมพยัคฆ์พร้อมกับพูดกึ่งล้อเลียนคมพยัคฆ์ว่า มากินข้าวเย็นมาคุยกับตาและยายของตัวเองทุกวันแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของบ้านตัวเองไปแล้ว "ยายกวาง เสียมารยาทแล้วนะเราน่ะ" คุณประพลพูดดุหลานสาวของตัวเองเบาๆ ทำให้ชมพูแพรยิ้มหวานแล้วพูดอ้อนขึ้นว่า "แหม กวางก็พูดล้อเล่นเหย้าอาพยัคฆ์เขาไปแบบนั้นแหละค่ะคุณตา อาพยัคฆ์เขาไม่ถือสากวางหรอกจริงมั้ยค่ะอาพยัคฆ์ขา" ชมพูแพรพูดอ้อนแล้วส่งยิ้มหวานที่วันนี้ดูสวยหวานแปลกตาไปจากเดิมมาก เพราะปกติชมพูแพรจะใส่เหล็กดัดฟันแต่พอถอดเหล็กดัดฟันแล้วชมพูแพรยิ่งดูสวยขึ้นไปอีก "ครับ ผมไม่ถือสาหรอกครับ กวางถอดเหล็กดัดฟันแล้วน่าจะอ้วนขึ้นนะ" คมพยัคฆ์พูดแก้เขิน "ถอดเหล็กดัดฟันแล้วทำไมต้องอ้วนด้วยละคะอาพยัคฆ์ กวางชักจะงง" ชมพูแพรพูดถามแล้วค่อยๆ นั่งลงข้างๆ คุณยายของตัวเอง "อ้าว ไม่มีฟันเหล็กก็เคี้ยวข้าวได้ดีขึ้น กินอาหารอร่อยขึ้นน่ะสิครับ" คมพยัคฆ์พูดขึ้นสีหน้ายิ้มแย้ม "อุ๊ย งั้นเริ่มไม่ดีแล้วค่ะ กวางกลัวอ้วนค่ะ เชิญอาพยัคฆ์คุยกับคุณตาคุณยายไปก่อนนะคะ กวางขอตัวก่อน" "อ้าว แล้วจะรีบไปไหนเล่ายายกวาง ยายให้เด็กจัดโต๊ะอาหารแล้วไปกินข้าวกันก่อน คุณพยัคฆ์เขารอกวางให้กลับมาก่อนจะได้กินข้าวพร้อมกัน นี่มันเลยเวลามื้อค่ำมาแล้ว ให้แขกนั่งรอกวางนานแล้วนะลูก" คุณนายรัศมีพูดบอกหลานสาว "อ๋อ ได้ค่ะคุณยายกวางเข้าใจว่าคุณตาคุณยายรับประทานกันเสร็จแล้ว กวางจะขึ้นไปอาบน้ำ ตั้งใจว่าจะให้ป้าจันทร์ทำแกงจืดให้ กวางยังไม่กล้าเคี้ยวอะไรแรงๆ ยังเสียวฟันอยู่เลยค่ะ งั้นเราไปทานข้าวกันเลยนะคะ กวางขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ผู้ใหญ่รอ" ชมพูแพรบอกกับยายของตัวเอง พูดขอโทษตามมารยาทของเด็กที่ได้รับการอบรมมาดี หลังจากนั้นก็ได้ไปนั่งทานข้าวด้วยกัน บนโต๊ะกินข้าวคมพยัคฆ์ได้ตักอาหารเอาอกเอาใจคุณประพลกับคุณนายรัศมี "เนื้อปลาครับคุณลุงคุณป้า" คมพยัคฆ์ตักอาหารใส่จานให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน เสร็จแล้วก็ตักเต้าหู้ในชามแกงจืดให้ชมพูแพร "เต้าหู้ของกวาง กินเยอะๆ นะ" คมพยัคฆ์พูดบอกชมพูแพรแววตาเป็นประกายฉ่ำรัก ชมพูแพรยังเด็กมองไม่ออกหรอกว่าตัวเองเป็นลูกกวางที่กำลังเป็นที่ต้องตาต้องใจของเสือหนุ่มอยู่ แต่คุณยายของชมพูแพรดูรู้ว่าคมพยัคฆ์แอบมีใจให้หลานสาวของตัวเองอยู่เป็นแน่แท้ ในใจลึกๆ ก็ห่วงหลานสาวตัวน้อยว่ายังเด็กเกินไป ตอนนี้เพิ่งจะ 18 ปีเต็มแต่ฝ่ายชายนั้นตอนนี้อายุปาเข้าไป 31 ปีแล้ว แต่เมื่อได้มองความสามารถและความร่ำรวยของคมพยัคฆ์แล้วคุณนายรัศมีก็ถือว่าวางใจให้ผ่านได้ ก็ได้แต่เฝ้าดูท่าทีของคมพยัคฆ์และเฝ้าระแวดระวังภัยให้หลานสาวไว้อยู่ เหลืออีกไม่กี่เดือนชมพูแพรก็จะเดินทางไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพแล้ว ถ้าหลานสาวเรียนจบกลับมาแล้วถึงตอนนั้นหากคมพยัคฆ์ยังไม่มีใครไปเสียก่อน คุณนายรัศมีก็ไม่ขัดข้องอะไรหรอก "ขอบคุณค่ะ พอแล้วกวางกินเต้าหู้ไปหลายชิ้นแล้วค่ะ เดี๋ยวได้อ้วนจริงๆ เหมือนอาพยัคฆ์ว่า" ชมพูแพรพูดแล้วส่งยิ้มสดใสมาให้คมพยัคฆ์ "ไม่อ้วนหรอก กำลังโต เห็นคุณตาคุณยายบอกว่ากวางอยากเรียนขี่ม้า ให้ผมสอนให้เอามั้ย ที่ฟาร์มมีม้าอยู่หลายตัว ถ้ากวางไม่รังเกียจผมสอนให้ได้นะ" คมพยัคฆ์พูดถามขึ้นทำให้ชมพูแพรหันไปมองตากับยายอย่างต้องการขอความเห็น "เออ จริงๆ ด้วยคุณพยัคฆ์เขามีฟาร์มเลี้ยงม้านี่น่า ตาก็ลืมไปเลย ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณพยัคฆ์จนเกินไปยังไงผมฝากสอนยายกวางเขาหน่อยนะ ว่ายังไงยายกวางอยากไปเรียนหรือเปล่า ฟาร์มม้าของคุณพยัคฆ์เขาอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเราด้วย" คุณประพลพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้แล้วหันไปถามความสมัครใจของหลานสาว "ถ้าคุณตาคุณยายเห็นสมควรและไม่เป็นการรบกวนเวลาของอาพยัคฆ์กวางก็อยากไปเรียนค่ะ" ชมพูแพรพูดแล้วส่งยิ้มหวานให้ตายายและคมพยัคฆ์ "ไม่ได้ลำบากอะไรเลยครับ งั้นเอาเป็นว่าวันเสาร์ผมมารับกวางที่บ้านนะครับคุณลุงคุณป้า" คมพยัคฆ์รีบพูดสรุปยิ้มรับคำทันที สายตาเจ้าเล่ห์แพรวพราว ครุ่นคิดว่าเข้าทางตัวเองจนได้ จะได้ถือโอกาสนี้ทำความรู้จักสนิทสนมกับชมพูแพรให้มากขึ้นด้วย ตอนสายของวันเสาร์ต่อมาคมพยัคฆ์ก็ได้ขับรถมารับชมพูแพรถึงบ้าน เอาขนมและผลไม้ที่แม่ของตนเองจัดใส่ตะกร้ามาฝากตาและยายของชมพูแพรด้วย คุณนายรัศมีจึงได้ฝากขนมที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ให้ชมพูแพรเอาไปเยี่ยมแม่ของคมพยัคฆ์เป็นการตอบแทนด้วย "ยายจัดขนมใส่ขวดโหลไว้แล้วนะลูกยายกวาง หนูเอาไปฝากสวัสดีคุณแม่ของคุณพยัคฆ์เขาด้วยนะ" คุณนายรัศมีสั่งหลานสาวซึ่งตอนนี้แต่งตัวเสร็จแล้วลงมายืนรอขึ้นรถออกไปกับคมพยัคฆ์ วันนี้ชมพูแพรใส่กางเกงยีนขายาวรองเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อแขนยาวคอดเอวพับชายเสื้อไว้ในกางเกงยีนแบบเอวสูงเรียบร้อย เผยให้เห็นสัดส่วนต้นขาเรียวยาวและสะโพกสวยงอนงามแห่งวัยสาวแรกแย้มอย่างชัดเจน ผมยาวสวยถูกรวบขึ้นมวยเคล้าสูงดูแปลกตาไปจากเวลาปกติตอนใส่ชุดนักเรียนที่ชมพูแพรต้องถักเปียสองข้างและผูกโบสีน้ำเงินเรียบร้อยตามระเบียบของโรงเรียน คมพยัคฆ์พิศมองแล้วมองอีกว่าสาวน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาช่างสวยจับใจ "ได้ค่ะคุณยาย กวางจะเอาไปให้คุณย่า คุณแม่ของอาพยัคฆ์กับมือของกวางเองเลยค่ะ" ชมพูแพรยิ้มรับคำของยายในทันทีแต่คมพยัคฆ์ที่ยืนฟังอยู่กลับพูดแย้งขึ้นว่า "กวางเรียกแม่ผมว่าคุณลุงคุณป้าก็พอครับ คือพ่อกับแม่ผมอายุยังไม่เยอะมาก เรียกคุณย่าเดี๋ยวท่านจะเขินเอาได้ครับ" "อ๋อ ได้ค่ะ อาพยัคฆ์ งั้นเราไปกันเลยมั้ยคะเดี๋ยวแดดจะร้อน" ชมพูแพรรับคำแต่ก็ไม่วายเรียกคมพยัคฆ์ว่า อา ทำให้คมพยัคฆ์สะอึกไปเล็กน้อย "เรียกแม่กูว่าป้า แต่ก็ยังเรียกกูว่าอา ยายลูกกวางเอ๊ย" คมพยัคฆ์คิดในใจ หันไปยกมือไหว้ลาคุณนายรัศมีแล้วเดินตามคนสวยไปขับรถพาไปฟาร์มม้าของตัวเอง แต่ก่อนจะไปฟาร์มม้าก็ได้พาชมพูแพรไปสวัสดีพ่อแม่ของตัวเอง "สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า คุณยายของกวางฝากขนมมาให้คุณป้าค่ะ" ชมพูแพรยกมือไหว้พ่อแม่ของคมเดชอย่างอ่อนช้อยน่ารักแล้วส่งยิ้มหวานให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน พ่อแม่ของคมพยัคฆ์เพิ่งได้เห็นตัวจริงของชมพูแพรใกล้ๆ ก็ในวันนี้แหละ หลังจากที่เคยเห็นไกลๆ บนเวทีประกวดนางนพมาศงานการกุศลหาเงินสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลเมื่อปีที่แล้ว เห็นแล้วก็ไม่แปลกใจเลยที่ลูกชายของท่านจะขยันไปบ้านคุณประพลแทบจะทุกวัน ก็ชมพูแพรคนนี้สวยหวาน ยิ้มสวย สวยไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว ไม่แปลกเลยที่ลูกชายของท่านเพ้อหาตาลอยอยู่บ่อยๆ "ไหว้พระเถอะลูกหนูกวาง ได้เห็นตัวจริงใกล้ๆ กันเสียทีนะลูก หนูกวางนี่สวยมากจริงๆ ไม่น่าล่ะ....." นางพริ้มเพรารับไหว้พูดชมยังไม่ทันจบพ่อลูกชายตัวดีก็รีบพูดขัดขึ้นเพราะไม่อยากให้แม่พูดอะไรออกมา แล้วจะเป็นแหวกหญ้าให้กวางตื่นเสียก่อน "แม่ วันนี้ผมจะพากวางเขาไปเรียนขี่ม้าที่ฟาร์ม มื้อกลางวันแม่ให้คนจากบ้านใหญ่เอาอาหารไปส่งให้ผมกับกวางที่บ้านพักในฟาร์มด้วยนะครับ"  "อ๋อได้สิลูก เดี๋ยวแม่ให้เด็กมันจัดการให้" นางพริ้มเพรายิ้มรับคำลูกชาย "เดี๋ยวคุณก็เตรียมชากุหลาบด้วยสิคุณพริ้ม ตอนบ่ายลูกจะได้จิบชากินขนมน่าจะเข้ากันดีนะ" คุณอาคมพ่อของคมพยัคฆ์หันไปบอกภรรยา "เอ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะคุณลุง จะเป็นการรบกวนคุณป้าท่านเปล่าๆ คือกวางรบกวนให้อาพยัคฆ์สอนกวางขี่ม้าแล้ว มาถึงแล้วต้องรบกวนคุณป้าให้เตรียมชากุหลาบอีก เดี๋ยวคุณยายรู้เข้ากวางจะโดนคุณยายดุค่ะ" ชมพูแพรรีบพูดขัดขึ้นด้วยความเกรงใจ คมพยัคฆ์หันไปยิ้มน้อยๆ ให้พ่อกับแม่ของเขา ประมาณว่าส่งสายตาไปถามพ่อกับแม่ว่า เป็นยังไงบ้างล่ะครับว่าที่เมียของผม "เอาอย่างนั้นเหรอ งั้นก็พาน้องไปฟาร์มม้าเถอะพยัคฆ์ เดี๋ยวแดดมันจะร้อน" พ่อของคมพยัคฆ์พูดขึ้น "นั่นสิ พาน้องไปเถอะ อาหารเที่ยงแม่จะให้คนจัดการไปส่งให้นะลูก" นางพริ้มเพราพูดบอกลูกชาย  หลังจากที่พาชมพูแพรมาไหว้สวัสดีพ่อแม่ของเขาแล้วคมพยัคฆ์ก็พาชมพูแพรไปที่ฟาร์มม้า ที่ฟาร์มม้าของคมพยัคฆ์มีม้าสวยๆ หลายตัวมาก และหนึ่งในนั้นคือเจ้าสีนิล เป็นม้าที่คมพยัคฆ์รักและหวงมาก เจ้าสีนิลเองก็ไม่เคยยอมให้ใครขี่มันนอกจากคมพยัคฆ์ แต่สำหรับชมพูแพรดูเหมือนเจ้าสีนิลมันจะชอบชมพูแพรมาก เอาจมูกมาดมแขนชมพูแพร ยอมให้ชมพูแพรจับคอของมันได้ไม่แสดงอาการว่าจะดีดพยศใส่ชมพูแพรเลย "เจ้าสีนิลมันคงชอบกวางแล้วแหละ ปกติถ้าผิดกลิ่นหรือมีคนใส่น้ำหอมมา เจ้าสีนิลมันจะไม่ชอบและไม่ยอมให้ใครโดนตัวมันเลยนอกจากผม" "เหรอคะ กวางไม่ได้ฉีดน้ำหอมมาหรอกค่ะ แค่ทาแป้งเด็กมาเอง เจ้าสีนิลมันคงชอบกลิ่นแป้งเด็กมั้งคะ ถ้ามันชอบกวางแบบนี้แล้ว ก็หมายความว่ากวางสามารถขี่มันได้แล้วใช่มั้ยคะ" ชมพูแพรหันไปยิ้มให้คมพยัคฆ์ด้วยท่าทางสดใสไร้เดียงสา โดยไม่รู้เลยว่าท่าทางแบบนี้มันยิ่งทำให้ความอดทนของเสือหิวใกล้ขาดสะบั้นลงไปทุกที "เจ้าสีนิลมันชอบกลิ่นแป้งเด็กนั้นก็ท่าจะจริง เพราะพี่เองก็ชอบกลิ่นเด็กเหมือนกัน" คมพยัคฆ์คิดในใจ  "ขี่ได้ มันชอบกวางแล้ว งั้นเราเริ่มกันเลยมั้ย" คมพยัคฆ์พูดแล้วพาเจ้าสีนิลเดินออกมาจากคอก เพื่อสอนให้ชมพูแพรขี่มันได้ ก่อนอื่นก็เริ่มที่ทักษะการสื่อสารกับม้าให้เข้าใจ ทำให้มันยอมให้เราขึ้นขี่มันได้ก่อน ก่อนที่จะฝึกทักษะการขี่บังคับม้าเป็นลำดับต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD