หลังจากคนทั้งสองกินอาหารเช้าเรียบร้อย ฉู่หยางก็ชงนมให้เธอดื่มอีกหนึ่งแก้ว และพูดขึ้นว่า "วันนี้พี่จะพาเธอไปที่กองบัญชาการด้วยกัน”
จางหนิงพยักหน้าเห็นด้วย เธอควรจะต้องออกไปให้คนอื่นเห็นหน้าบ้าง
ฉู่หยางเป็นคนล้างจานเหมือนกับเมื่อวาน จางหนิงจึงเดินเข้าไปในห้องเพื่อหวีผมและถักเปียใหม่ให้ดูสุภาพ ก่อนจะเลือกเปลี่ยนชุดใหม่เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงลายดอกไม้
เมื่อเห็นเธอออกมาจากห้องด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ฉู่หยางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย "ทำไมถึงได้เปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะ"
"พี่หยางเป็นถึงผู้กอง ฉันที่อยู่ในฐานะภรรยาของพี่ก็ต้องแต่งตัวให้ดูดีหน่อยสิคะ" จางหนิงอธิบาย
ฉู่หยางได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
คนทั้งสองเดินเคียงคู่กันไปที่กองบัญชาการ
พวกเขาใช้เวลาราวห้านาทีก็เดินมาถึงหน้าประตูค่ายทหาร ฉู่หยางลงทะเบียนรายชื่อให้เธอ ก่อนจะพาอีกฝ่ายเดินเข้าไปด้วยกัน
เมื่อเข้ามาถึงบริเวณค่ายทหาร จางหนิงก็รู้สึกประหลาดใจที่มีทหารหญิงอยู่หลายคนอยู่ในค่ายแห่งนี้ พวกเธอยังดูอายุน้อยและหน้าตาน่ารัก
“ที่นี่มีทหารหญิงเยอะไหมคะ” จางหนิงถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ไม่มากหรอก มีไม่ถึงร้อยคน ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยประชาสัมพันธ์ แล้วก็พวกแพทย์และพยาบาล” ฉู่หยางตอบกลับ
เมื่อจางหนิงมองไปที่พวกเขาอีกครั้ง แววตาของทหารหญิงเหล่านั้นก็มักจะมองมาที่ฉู่หยางบ่อย ๆ
นี่มันสายตาอะไรกัน!
ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง จางหนิงก็รีบคว้าแขนของสามีในนามมาจับไว้ แล้วพูดอย่างไม่พอใจ "ทหารหญิงพวกนั้น ดูไม่เป็นมิตรกับฉันเท่าไหร่เลยนะคะ"
ในกองบัญชาการแห่งนี้พวกทหารหญิงมีทั้งเกลียดชังและชื่นชมฉู่หยาง เพราะเขาเป็นผู้กองที่อายุน้อยที่สุดของหน่วยนาวิกโยธิน อนาคตตำแหน่งของเขาจะต้องพุ่งสูงมากยิ่งกว่าเดิม แต่ไม่กี่วันก่อนพวกเธอก็ได้ข่าวว่าเขาแต่งงานและจู่ ๆ ก็พาภรรยาเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย
ทหารหญิงเหล่านี้จึงรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างและอยากจะมองภรรยาของฉู่หยางให้ชัด เพราะอยากจะเห็นว่าอีกฝ่ายจะสวยขนาดไหนถึงสามารถครอบครองหัวใจของฉู่หยางได้
จางหนิงเห็นสายตาของผู้หญิงเหล่านั้นก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เธอจับแขนของเขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัวเพื่อประกาศอธิปไตยของตนเอง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ของเธออย่างแท้จริงก็ตาม!
ฉู่หยางรู้สึกได้ว่ามือของเธอเย็นมากกว่าปกติ ชายหนุ่มจึงดึงแขนของตัวเองออก
เมื่อจางหนิงเห็นว่าเขาดึงแขนของตัวเองออกไป เธอก็เบิกตากว้างคิ้วเรียวขมวดแน่น
เขาดึงแขนออกไปอย่างนั้นหรือ!
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้โวยวาย ฉู่หยางก็เป็นฝ่ายคว้ามือเธอไปกุมเอาไว้แทน ถ่ายเทความร้อนจากฝ่ามือของเขาให้เธอ
จางหนิงแอบยิ้มออกมาเล็กน้อย หญิงสาวไม่คาดคิดว่าปกติผู้ชายที่ชอบทำหน้าดุดัน จะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย
หญิงสาวกระชับมือของตนเองให้แน่นขึ้น ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น
ทหารหญิงเหล่านั้นต่างจ้องมองมือของพวกเขาที่เกาะกุมกันแน่นด้วยดวงตาอิจฉา
จางหนิงเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกว่าตนเองได้รับชัยชนะ!
ฉู่หยางอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวกับท่าทางราวกับเด็กน้อยของเธอ แต่เมื่อเห็นทหารชายอีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คราวนี้เขาก็เริ่มที่จะอารมณ์ไม่ดีแล้วเช่นกัน
ค่ายบัญชาการติดทะเลแห่งนี้ ทหารผู้ชายพบเจอผู้หญิงน้อยมาก และเมื่อได้เจอกับผู้หญิงพวกเขามักจะมีอารมณ์พลุ่งพล่านมากกว่าปกติ ไม่ต้องพูดถึงเวลานี้ภรรยาในนามของเขานั้นทั้งน่ารักและแต่งตัวดี
เมื่อเขาเห็นดวงตาของผู้ชายหลายคู่ที่จ้องมองมายังจางหนิง ชายหนุ่มก็รู้สึกเสียใจภายหลังที่พาเธอมายังกองบัญชาการด้วย
"กลับหลังหัน!" ฉู่หยางออกคำสั่งเสียงดัง
ทหารกลุ่มนั้นต่างหมุนตัวกลับหลังหันกันไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก คราวนี้ทหารกลลุ่มนั้นก็ไม่สามารถมองเห็นจางหนิงได้แล้ว
ฉู่หยางรีบจูงมือเธอไปยังห้องทำงานของเขา เมื่อคนทั้งคู่ปล่อยมือออกจากกันฝ่ามือของพวกเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อเนื่องจากจับมือกันนานเกินไป
ชายหนุ่มชี้ไปที่เก้าอี้ตัวเล็กที่อยู่ข้าง ๆ เก้าอี้ทำงานของเขา "เธอนั่งตรงนี้ไปก่อนนะ หนังสือด้านหลังอ่านได้ตามสบายเลย”
หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงที่โต๊ะของตนเอง และเริ่มจัดการงานที่กองท่วมอยู่บนโต๊ะมาหลายวัน
จางหนิงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากอีกฝ่าย ก่อนจากมองสำรวจห้องทำงานของเขา ในห้องนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่าย นอกจากโต๊ะทำงานและชั้นหนังสือ ยังมีตู้เสื้อผ้าที่เขาเอาไว้เปลี่ยนเวลาต้องออกไปทำภารกิจจะได้ไม่ต้องกลับไปที่บ้านให้เสียเวลา ข้างฝาผนังยังมีแผนที่หมู่เกาะต่าง ๆ ที่อยู่นอกชายฝั่งของเมือง
หญิงสาวเดินไปที่หน้าชั้นหนังสือก่อนจะเลือกหาอะไรสักอย่างมาอ่านฆ่าเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับทหาร ซึ่งเธอก็เลือกเล่มที่ไม่หนามากออกมาอ่าน
ฉู่หยางยุ่งอยู่กับงาน นอกจากงานเอกสารแล้วก็ยังต้องรับโทรศัพท์ ในบางครั้งก็มีทหารใต้บังคับบัญชาเข้ามารายงาน
ซึ่งจางหนิงก็นั่งอ่านหนังสือโดยไม่รบกวนอะไร และได้ยินเพียงแค่เสียงพลิกหน้ากระดาษมาจากโต๊ะที่เธอนั่งเท่านั้น