ฉู่หยางจ้องมองคู่หมั้นที่อยู่บนเตียงด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วยนั้นช่างเป็นคนใจกล้าถึงเพียงนี้
ก่อนที่พ่อของจางหนิงกำลังจะจากโลกนี้ไป อีกฝ่ายได้ส่งจดหมายมาขอความช่วยเหลือจากพ่อของเขา ชายหนุ่มเคยโทรมาบอกว่าให้เธอรออยู่ที่บ้านและจะรีบมารับ
แต่เมื่อมาถึงสิ่งที่เขาพบนั้นกลับเป็นเพียงจดหมายที่เขียนบอกว่าเธอไม่ต้องการแต่งงานกับเขา เพราะว่ามีคนรักอยู่แล้วและพวกเขากำลังจะไปใช้ชีวิตด้วยกันในเมืองหลวง!
แน่นอนว่าการที่เธอทำเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเสียหน้า แต่ด้วยคำสัญญาที่เคยมอบไว้ให้กับสหายของผู้เป็นพ่อ เขาจึงไม่อาจละทิ้งเธอได้
โชคดีที่ฉู่หยางทำเรื่องขอใช้รถจิ๊ป ดังนั้นชายหนุ่มจึงรีบตามเธอไปที่ตัวเมืองได้ทันที เขามีรูปถ่ายที่พ่อของเธอเคยส่งมา จึงพอจะรู้จักหน้าตาของอีกฝ่าย
จุดหมายแรกที่เขาไปหาก็คือโรงงานเหล็กกล้าที่คนรักของจางหนิงทำงานเป็นช่างอยู่ที่นั่น
เขาถามกับผู้รักษาความปลอดภัยตรงประตูหน้าโรงงานและขอให้ช่วยเรียกคนที่ชื่อ ‘หวังฉี’ ออกมาพบ
หวังฉีเห็นผู้ชายในชุดทหาร ก็พอจะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เนื่องจากจางหนิงเคยเขียนจดหมายมาเล่าให้ฟังเช่นกัน ใบหน้าของเขาในเวลานี้จึงค่อนข้างซีดเซียว "คุณมาตามจางหนิงเหรอครับ ผมเคยคบหากับเธอก็จริง แต่เมื่อสองวันก่อนผมพึ่งแต่งงาน ในอนาคตก็คงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเธออีกแล้วล่ะครับ!”
ฉู่หยางคิดว่าจางหนิงหนีมาอยู่กับหวังฉี แต่เขาก็ต้องรู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดเช่นนี้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเอ่ยถามออกไป “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“เมื่อสองวันก่อนผมลาไปเตรียมงานแต่งงาน เธอเคยมาที่นี่แล้วฝากจดหมายเอาไว้โดยบอกว่าตอนนี้พักอยู่ที่ตรอกเซิ้งอี้ครับ” หวังฉีกลืนน้ำลายแล้วรีบพูดว่า “ผมเพิ่งรู้ตอนมาทำงานวันนี้ ยังไม่เคยไปหาเธอตามลำพังเลยนะครับ!”
สายตาที่คู่หมั้นของจางหนิงจ้องมองเขานั้นค่อนข้างน่ากลัว หวังฉีจึงพูดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง เขานึกดีใจที่วันนี้เพิ่งได้รับจดหมายและยังไม่ทันได้ไปหาจางหนิง ถ้าอีกฝ่ายเจอพวกเขาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ชีวิตเขาคงได้จบสิ้นแน่!
ฉู่หยางจ้องมองคนตรงหน้าอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
หวังฉีเห็นเช่นนั้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แม้จะนึกเสียดายอยู่บ้างที่ยังไม่ทันได้แตะต้องอดีตคนรัก แต่เพื่อเอาชีวิตรอดเขาจึงได้แต่ทำใจเท่านั้น
แต่จู่ ๆ อีกฝ่ายที่เดินออกไปแล้วก็หันหลังกลับมาและต่อยเข้าที่หน้าอย่างแรง จนจมูกของหวังฉีมีเลือดออกมา!
“กำลังจะแต่งงานแต่ก็ยังเขียนจดหมายให้ความหวังผู้หญิงคนอื่นไปเรื่อย โดนแค่นี้มันยังน้อยไป!” ฉู่หยางพูดจบก็เดินออกไป
เมื่อออกจากโรงงานเขาก็มุ่งตรงไปยังตรอกเซิ้งอี้ และก็พบเธออยู่ในห้องเช่าแห่งนี้จริง ๆ เป็นเพราะหญิงสาวไม่มีจดหมายแนะนำตัว ห้องที่เธอเช่าจึงอยู่ในสภาพค่อนข้างแย่ อากาศภายในห้องก็ไม่ค่อยถ่ายเทจึงทำให้มีกลิ่นเหม็นอับ
เมื่อได้มองดูอย่างชัด ๆ ก็เห็นว่าผู้หญิงตรงหน้าตัวผอมยิ่งกว่าในรูปภาพเสียอีก
ในใจของฉู่หยางเต็มไปด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนี้หลงใหลผู้ชายคนอื่นจนละเลยสุขภาพของตัวเอง เธอคงใช้สมองไปกับการเรียนหนังสือหมดแล้วกระมัง!
……
เมื่อจางหนิงฟื้นคืนสติกลับมาอีกครั้ง ข้างหูก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเสียงผู้หญิงกำลังพูด
"หลังจากเธอฟื้นก็หาอะไรดี ๆ ให้กินด้วยนะคะ ดูสิ…เธอตัวผอมไปหมดแล้ว!”
พยาบาลวัยกลางคนบอกกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ฝั่งข้างเตียง
"ครับ” ชายหนุ่มตอบรับและสัญญาว่าจะทำตามที่อีกฝ่ายบอก
หลังจากที่พยาบาลเดินออกไป จางหนิงก็ลืมตาขึ้น เป็นจังหวะที่ฉู่หยางหันมามองเธอพอดี เวลามีคนทั้งคู่จึงสบตากัน
ฉู่หยางเป็นฝ่ายละสายตาออก ก่อนจะเอ่ยถาม “อยากลุกขึ้นมานั่งหรือเปล่า”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า
เขาช่วยปรับเตียงให้เธอและพยุงให้ลุกขึ้นนั่งพิงเตียง
เขาดึงเก้าอี้ใต้เตียงออกมานั่ง “ตอนนี้ร่างกายรู้สึกเป็นยังไงบ้าง”
“ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วค่ะไม่ได้เวียนหัว เท่าเมื่อวานแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี คุณรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวผมจะไปซื้ออาหารมาให้” เขาพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปโดยไม่รอให้จางหนิงปฏิเสธ
หญิงสาวรออยู่สักพักเขาก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าทหารสีเขียว
“ในโรงอาหารมีของเหลืออยู่ไม่มากนัก…วันนี้กินเกี๊ยวไปก่อนแล้วกัน” ฉู่หยางพูดพลางหยิบกล่องข้าวอลูมิเนียมในกระเป๋าออกมายื่นให้เธอพร้อมกับตะเกียบ
จางหนิงรับกล่องข้าวมา ในนั้นมีเกี๊ยวอยู่ประมาณสิบตัว
แม้ว่าผู้ชายตรงหน้าจะมีท่าทางดุดัน และดูเหมือนว่าเขาจะติดนิสัยชอบสั่งเหมือนทหาร แต่อีกฝ่ายก็พยายามดูแลเธออย่างดี จางหนิงคิดว่าคู่หมั้นของร่างเดิมหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มยิ่งกว่าอดีตคนรักน่าจืดนั่นเสียอีก
แต่ก็นะ…ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เจ้าร่างเดิมไม่ต้องการแต่งงานกับฉู่หยาง แต่จางหนิงคนนี้ต้องการเป็นอย่างมาก!
"ขอบคุณค่ะ” จางหนิงเอื้อมมือออกไปหยิบกล่องอาหารกลางวัน ในนั้นมีเกี๊ยวอยู่เกือบสิบตัว
“หมอบอกว่าเธอขาดสารอาหาร…เพราะฉะนั้นเกี๊ยวพวกนี้จะต้องกินให้หมด” ฉู่หยางสั่งเสียงเข้มและหยิบกล่องข้าวของตัวเองขึ้นมาเช่นกัน คนทั้งสองกินเกี๊ยวด้วยกันอย่างเงียบ ๆ
ฉู่หยางเป็นฝ่ายกินหมดก่อน และเฝ้ามองดูเธอกินเกี๊ยวในกล่องอาหารจนหมด
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็หยิบกล่องอาหารออกไปล้าง ก่อนจะเก็บมันเข้าไปในกระเป๋าทหารสีเขียวตามเดิม
ฉู่หยางจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าอยู่สักพักก่อนที่จะเอ่ยถามขึ้นมา "จางหนิง...ผมจะให้โอกาสคุณได้เลือก จะอยู่ที่เมืองนี้ต่อไป…หรือจะกลับไปแต่งงานกับผม”