ฉู่หยางพาเธอเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะหยุดที่หน้าประตูห้องนอนฝั่งตะวันออก “เธอนอนห้องนี้นะ..."
"ค่ะ" จางหนิงพยักหน้าและพบว่าภายในห้องสะอาดสะอ้านดี ไม่มีตัวประหลาดอะไรให้เธอต้องกังวล
หลังจากช่วยวางกระเป๋าและข้าวของทั้งหมด ฉู่หยางก็เดินออกไป "พี่ต้องเอารถไปคืนที่กองบัญชาการ เธอพักผ่อนเถอะ” ชายหนุ่มใช้คำแทนตัวเองว่าพี่ เขาคิดว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะว่าตอนนี้เธอต้องอยู่กับเขา ดังนั้นก็ไม่ควรจะทำตัวห่างเหินกับอีกฝ่ายมากนัก
"ได้ค่ะ" จางหนิงสำรวจใต้โต๊ะ ใต้เตียง และตู้เสื้อผ้าอย่างละเอียด หลังจากพบว่าไม่มีตัวประหลาดหรือสัตว์มีพิษอะไร เธอก็จัดเก็บเสื้อผ้าของตัวเองเข้าไปในตู้และลงมือปูที่นอนใหม่อีกครั้ง
อันที่จริงเธอก็ไม่ได้กลัวพวกสัตว์มีพิษมากเท่าที่แสดงออก แต่ว่าอยู่ต่อหน้าของผู้ชายก็ต้องทำตัวอ่อนแอมากกว่าปกติบ้างเท่านั้นเอง
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นหญิงสาวก็เดินไปที่ห้องครัว บ้านของพวกเขามีสองห้องนอน ตรงกลางคือห้องนั่งเล่น ด้านหลังเป็นห้องครัวและห้องน้ำ หญิงสาวพอใจกับบ้านหลังนี้มาก ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีห้องใช้สอยแบ่งออกเป็นสัดส่วน
ตอนแรกเธอคิดจะปรุงอาหารแต่ว่าในครัวยังไม่มีฟืน จึงได้ทำเพียงแค่จัดข้าวของที่ซื้อมาในวันนี้ไปก่อน
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ ฉู่หยางก็กลับมาที่บ้านพอดี ในมือของเขาถืออาหารกลางวันมาด้วย "ช่วงบ่ายเดี๋ยวพี่จะไปเก็บฟื้นจากในป่ามาให้ ตอนนี้พวกเรากินข้าวในโรงอาหารไปก่อนเถอะ"
โดยปกติโรงอาหารในกองบัญชาการจะมีเนื้อสัตว์และผักสองวันต่อสัปดาห์ ส่วนวันอื่น ๆ จะเป็นผักและเต้าหู้ วันนี้โชคดีมีหมูตุ๋นเขาจึงซื้อมา นอกจากนี้เขายังซื้อน้ำแกงเต้าหู้ มะเขือเทศผัดไข่ และหมั่นโถวมาพร้อมกันอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าจางหนิงกินแค่น้ำแกงเต้าหู้และมะเขือผัดไข่ ฉู่หยางก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า "หมอบอกว่าร่างกายของเธอขาดสารอาหาร ควรจะกินเนื้อหมูตุ๋นบ้างนะ"
จางหนิงไม่ค่อยชอบที่เขามักสั่งเธอเหมือนกับเป็นลูกน้องนายทหาร "ฉันไม่กินเนื้อมัน ๆ ค่ะ"
ฉู่หยางคิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างเอาใจยาก เหลือเกิน เขาใช้ตะเกียบคีบเนื้อส่วนที่ติดมันออกไป และคีบเนื้อล้วน ๆ ให้กับเธอ “อย่างนี้ก็กินได้แล้วใช่ไหม”
จางหนิงเม้มริมฝีปากเธอปิดกั้นรอยยิ้มของตนเอง ก่อนจะคีบเนื้อหมูตุ๋นเข้าปาก ซึ่งรสชาติมันก็ดีจริง ๆ
……
หลังจากมื้อกลางวัน ชายหนุ่มนั่งพักสักครู่จนถึงเวลาบ่ายกว่า ๆ ก็ขึ้นเขาไปเก็บไม้ฟืนในป่า “พี่จะไปเก็บฟืน น่าจะทันได้ทำอาหารเย็นพอดี”
ฉู่หยางจัดการทุกอย่างได้รวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็หอบฟืนกองใหญ่มาไว้ที่เพิงหลังบ้าน
จางหนิงกำลังก่อไฟต้มน้ำอยู่ในครัวและเมื่อเงยมองออกไปตรงนอกหน้าต่างก็เห็นสามีทหารกำลังถอดเสื้อเลื่อยไม้อยู่ที่เพิงไม้หลังบ้าน ‘หุ่นของเขาช่างดีจริง ๆ ในเมื่อตอนนี้ยังสัมผัสไม่ได้ก็ขอมองเป็นอาหารตาไปก่อนแล้วกัน’
จางหนิงเป็นฝ่ายอาบน้ำก่อน จากนั้นก็ผสมน้ำร้อนที่เหลือให้กับเขาได้อาบ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งพักอยู่ตรงหลังบ้านเธอก็เดินไปบอก “พี่หยางฉันผสมน้ำร้อนไว้ให้พี่แล้ว มาอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ”
“ได้” ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธเพราะรู้สึกเหนียวตัวแล้วเหมือนกัน
......
วันนี้จางหนิงลงมือทำอาหารง่าย ๆ คือข้าวต้มกุ้งกับไข่ต้ม ทั้งสองคนกินด้วยกันโดยไม่มีอะไรจะพูดมากนัก
หลังจากที่ฉู่หยางล้างชามเสร็จเรียบร้อย เขาก็ชงนมมอลต์หนึ่งแก้วแล้วเอาไปให้เธอ "ดื่มสิ"
นมรสมอลต์มีกลิ่นหอมหวานรสชาติก็อร่อย จางหนิงรับมาแล้วยกขึ้นดื่มอย่างเต็มใจ “ทำไมพี่หยางไม่ดื่มล่ะค่ะ”
“พี่ไม่ชอบดื่ม” ฉู่หยางมองเห็นว่ามีคราบน้ำนมติดอยู่รอบปากของเธอ เขาก็ยื่นมือออกไปเช็ดให้เธออย่างไม่รู้ตัว “โตขนาดนี้แล้วยังดื่มนมเปื้อนปากอีก…ร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวดี หลังจากนี้ต้องดื่มนมทุกเช้าและก่อนนอน”
จางหนิงรู้สึกร้อนวูบวาบตรงบริเวณที่นิ้วของเขาสัมผัส เธอพยายามตั้งสติไม่คิดไปไกลกับท่าทางของเขา "นมเป็นของดี...ถ้าอย่างนั้นพี่หยางก็ต้องดื่มกับฉันด้วย” พูดแล้วเธอก็เดินไปชงนมอีกแก้วและยื่นไปให้เขา
เมื่อเห็นใบหน้าจริงจังของเธอ ฉู่หยางก็ไม่หลบเลี่ยง เขาดื่มนมแก้วนี้ลงไปซึ่งรสชาติก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด
หลังจากดื่มนมแล้ว คนทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับห้องนอนของตัวเอง จางหนิงนอนอยู่ในห้องทางฝั่งตะวันออก ส่วนฉู่หยางนอนห้องทางฝั่งตะวันตก พวกเขาทั้งคู่ใช้ชีวิตโดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน