หลายวันต่อมาร่างกายของจางหนิงก็กลับมากระฉับกระเฉงเหมือนเดิม เธอตั้งใจจะทำแปลงผักที่สนามหญ้าข้างบ้าน
เนื่องจากวันนี้คือวันอาทิตย์ ฉู่หยางไม่ต้องไปทำงาน แต่เขาออกไปรับพัสดุที่คุณพ่อคุณแม่ของเขาส่งมาให้ตั้งแต่เช้า
จางหนิงลงมือจัดการถอนหญ้าและก้อนหิน แต่ในตอนที่เธอกำลังจะขุดดินก็ถูกฉู่หยางเข้ามาห้ามเอาไว้
“เดี๋ยวพี่จะเป็นคนขุดดินให้เอง เธอมาดูพัสดุที่คุณแม่ของพี่ส่งมาให้ดีกว่า” ในมือของชายหนุ่มถือหีบไม้หวายขนาดใหญ่เข้ามา
จางหนิงมองหีบไม้หวายขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า “ด้วยฐานะลูกสะใภ้แต่ยังไม่เคยไปยกน้ำชาคาราวะ แต่คุณแม่ก็ยังส่งของมาให้ท่านช่างใจดีเหลือเกินค่ะ”
“เธอไม่ต้องคิดมากหรอก คุณแม่ทราบสถานการณ์ของพวกเราดี รอช่วงเทศกาลวันหยุดยาว พวกเราค่อยไปยกน้ำชาคารวะพวกท่านก็ได้” ฉู่หยางพูดปลอบใจอีกฝ่าย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “ลองเปิดดูสิว่าท่านส่งอะไรมาให้”
เมื่อจางหนิงเปิดหีบไม้หวายออกมาก็เพราะว่าข้างในมีสิ่งของมากมาย ทั้งผ้าทอผืนยาว นมผง เนื้อกระป๋อง เนื้อตากแห้ง และพวกครีมบำรุงผิวพรรณต่าง ๆ”
หญิงสาวหยิบผ้าในหีบไม้หวายทั้งสองผืนขึ้นมา มันคือผ้าลินินสีน้ำเงินและสีเทา ผ้าเหล่านี้มีความยาวไม่ต่ำกว่าสิบเมตร
"ผ้าเนื้อดีมากเลยค่ะ เราสามารถเอาไปตัดเสื้อกับกางเกงได้อย่างละสองชุดเลยนะคะ”
เขามองดูผ้าเหล่านั้นแล้วก็พยักหน้า “ได้สิ แล้วแต่เธอจะจัดการ"
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะตัดชุดให้พี่ด้วย” หลังจากพูดจบ หญิงสาวก็ไม่ได้รอให้เขาตอบรีบวิ่งกลับไปในห้องทันที
เมื่อเธอกลับมาอีกครั้งในมือก็มีสายวัดยาว ๆ ติดมือมาด้วย “เริ่มจากวัดแขนเสื้อก่อนเลยแล้วกันค่ะ”
ฉู่หยางคว้าสายวัดมาไว้ในมือของตนเอง “พี่จะวัดเองเธอจดตามที่บอกก็แล้วกัน” ชายหนุ่มกลัวว่าเมื่อเธอวัดตัวให้ เดี๋ยวเจ้าท่อนลำกลางกายมันจะผงาดขึ้นมา เพราะทนความตื่นเต้นไม่ไหว
“พี่ดูสายวัดเป็นเหรอคะ ถ้าหน่วยคลาดเคลื่อนตอนที่ตัดเสื้อออกมาจะไม่พอดีตัวนะคะ” จางหนิงเงยหน้าขึ้นจ้องเขาด้วยดวงตาใสซื่อ
เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉู่หยางก็ไม่อาจปฏิเสธเธอได้อีก “ถ้าอย่างนั้นก็รีบวัดเถอะ”
"พี่ถอดเสื้อออกสิคะ ฉันจะวัดตัวให้" จางหนิงพูดด้วยใบหน้านิ่ง ๆ
“ต้องถอดเสื้อด้วยเหรอ” ฉู่หยางถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เพื่อความแม่นยำที่สุดของขนาดตัวค่ะ” น้ำเสียงของเธอจริงจัง
ฉู่หยางนึกสงสัยแต่เขาก็ยอมถอดเสื้อออก
จางหนิงเดินอ้อมไปด้านหลังเธอแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยที่เห็นกล้ามเนื้อของเขาในระยะประชิดอย่างชัดเจนเช่นนี้
มือเรียวจับสายวัดตัวขึ้นมาวางทาบไปที่ท้ายทอย แล้วก็ค่อย ๆ ลากผ่านแผ่นหลังของอีกฝ่ายไปจนถึงบั้นท้าย และวัดช่วงหัวไหล่ซ้ายไปหัวไหล่ขวา
หลังจากนั้นก็หันไปจดบันทึกขนาดเอาไว้
คราวนี้จางหนิงเดินอ้อมไปข้างหน้า โอบโอบกอดเขาเพื่อสอดสายวัดไว้จากใต้แขนมาทางด้านหน้า ด้วยท่าทางนี้มันยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอแทบจะแนบชิดกับหน้าอกของชายหนุ่ม
ฉู่หยางหน้าแดงขึ้นเรื่อย ๆ ชุดทหารที่เขาใส่เป็นแบบสำเร็จมาตรฐาน เขาจึงไม่เคยได้วัดตัวแบบนี้มาก่อน
จางหนิงเห็นเขาเริ่มกระวนกระวายก็พูดเสียงดุ "ยืนอยู่นิ่ง ๆ สิคะ ยังวัดไม่เสร็จเลย"
ฉู่หยางได้ฟังก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึกและปล่อยให้เธอวัดร่างกายของเขาต่อไป
หลังจากบันทึกขนาดส่วนบนเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็เลื่อนลงมาวัดที่ส่วนล่าง เธอทาบสายวัดตั้งแต่ช่วงเอวไปจนถึงข้อเท้า และจดบันทึกขนาดสำหรับตัดกางเกงให้กับอีกฝ่าย
“กางขาออกหน่อยค่ะ ฉันจะวัดรอบต้นขาให้พี่” จางหนิงบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ
ฉู่หยางก้มลงมองและเห็นว่าในเวลานี้ ใบหน้าของเธออยู่ใกล้กับจุดกึ่งกลางกายของเขามาก! ชายหนุ่มพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกและกางขาออกเล็กน้อยตามที่เธอบอก
หลังจากนั้นไม่นาน จางหนิงก็ยืนขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เขา “เรียบร้อยค่ะ อีกไม่เกินสามวันพี่ก็น่าจะได้ใส่ชุดใหม่ที่ฉันตัดแล้ว"
“อืม” ในที่สุดร่างกายของเขาก็ผ่อนคลายลง ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์
จางหนิงมองตามอีกฝ่ายไปด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เธอคิดในใจว่าคืนนี้จะเผด็จศึกเขาให้ได้!