สมยอม

2059 Words
หนึ่งสัปดาห์ถัดมาหลังจากที่มารตีจัดห้องรอต้อนรับก้องภพ วันที่ทุกคนรอคอยและตื่นเต้นก็มาถึง คุณดาราราย ปราโมทย์และมารตีเดินทางมารับก้องภพ ทุกคนตามมาส่งหลานชายที่บ้านหลังใหญ่ น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า เพราะรอบบริเวณบ้านกว้างขวางมาก โดยเฉพาะตัวบ้านสองชั้น ใหญ่โตเกินกว่าจะอยู่กันแค่สามคน รถตู้ของปราโมทย์วิ่งนำไปจอดที่หน้าบ้าน ตามด้วยรถตู้ของอานนท์ตามมาจอดติดๆ ปรางทิพย์อุ้มก้องภพไว้กับตัวตลอดเวลา “เชิญค่ะทุกคน ยินดีต้อนรับนะหลานชาย ที่นี่คือบ้านย่า บ้านพ่อ บ้านแม่ของหลานนะ ตอนนี้เรามีบ้านสองหลังแล้วนะลูก พวกเราจะช่วยกันดูแลหนูให้ดีที่สุด”คุณดารารายเข้ามาหอมแก้มหลานชายเบาๆทุกคนเห็นนำ้ตาของคุณย่า ปรางทิพย์ส่งก้องภพให้กับมารตี ก้องภพเหมือนรู้พอไปอยู่ในอ้อมแขน เด็กชายก็ซบลงบนไหล่ของมารตีทันที ทุกคนยิ้มกับภาพตรงหน้า หลังกินข้าวกลางวันร่วมกัน นายองอาจและนางปวีณาขอตัวกลับบ้านต่างจังหวัด นางปวีณาบอกกับทุกคนว่าจะไปอยู่บ้านสวนกับสามี เผื่อว่าอยู่กับธรรมชาติ ร่างกายและจิตใจจะได้แข็งแรงขึ้น ไม่มีกำหนดกลับกรุงเทพฯ ทุกคนเข้าใจเพราะนางปวีณาใกล้ชิดหลานชายมาก หากยังอยู่ที่บ้านคงคิดถึงหลานชายแน่ๆ “อานนท์ น้าฝากน้องด้วยนะลูก ว่างวันไหนก็ไปเที่ยวบ้านสวนกันนะ ไม่ต้องห่วงแม่ ไม่แน่ถ้าสบายใจแม่อาจอยู่ยาว” “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลน้องอย่างดี เดินทางปลอดภัยนะครับคุณน้า” ปรางทิพย์เข้าไปกอดพ่อกับแม่ ต่างคนต่างแยกย้าย นายองอาจพาภรรยากลับต่างจังหวัด ส่วนอานนท์พาปรางทิพย์กลับบ้าน ปรางทิพย์หันหลังกลับไปมองบ้านหลังใหญ่จน เธอไม่ได้ขึ้นไปบอกลาหลานชาย เพราะกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ มือข้างขวาของเธอถูกอานนท์กุมไว้แน่น ใจหวิว แต่ก็สบายใจที่หลานชายไปอยู่ในสถานที่อันเหมาะสม และปลอดภัย “อยากแวะที่ไหนไหมครับ “ “ไม่ค่ะ หรือพี่จะแวะก็ได้นะคะ แล้วแต่พี่เลย” “เย็นนี้อยากกินอะไรครับ เดี๋ยวพี่ทำให้กิน “ “อะไรก็ได้ค่ะ ปรางกินได้หมด” อานนท์เข้าใจทุกคน ในขณะที่บ้านหนึ่งกำลังตื่นเต้นและดีใจที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน แต่อีกบ้านกำลังเศร้า เขารู้ว่านางปวีณาเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อรักษาหัวใจตัวเอง แต่คนที่อยู่กับเขานี่ก็น่าสงสาร แล้วคืนนี้จะนอนยังไงคนเดียว บ้านเคยมีแม่ และหลาน แต่กลับต้องอยู่คนเดียว ปรางทิพย์ช่วยอานนท์หยิบจับทำโน้นทำนี่ แต่ก็ยังเศร้า กินข้าวได้แค่นิดหน่อย ท่าทางเหมือนคนตรอมใจ คิดถึงแม่คิดถึงหลาน แม่ไม่เท่าไหร่ เพราะแม่ยังมีพ่อคอยดูแล หลานก็ไม่ห่วงเท่าไหร่ ห่วงแต่ตัวเองที่ยังทำใจไม่ได้ นึกถึงตัวเองว่าคืนนี้จะอยู่ยังไง สองทุ่มนางปวีณาโทรหาลูกสาว บอกเล่าว่าที่บ้านพ่ออากาศดีมาก สองคนแม่ลูกไม่ได้พูดถึงหลานชาย ต่างคนต่างก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้คิด พยายามตัดใจ รู้ว่ายากแต่ต้องทำ สองแม่ลูกใช้เวลาคุยกันไม่นานนัก เพราะต่างคนก็ต่างรักษาน้ำใจกัน เพราะหากเผลอพูดยืดยาวออกไป ก็อาจเผลอพูดถึงหลานชาย “หนูไปอาบน้ำป่ะ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน แล้วคืนนี้จะนอนได้ไหม นอนที่นี่ได้นะบ้านพี่มีหลายห้อง พร้อมทุกอย่างเลย หนูแค่เอาเสื้อผ้ามา ถ้าไม่อยากนอนที่บ้าน” พออานนท์พูดแค่นั้น ปรางทิพย์พี่พยายามกลั้นน้ำตา ในที่สุดก็ไม่ไหว ร้องไห้ออกมาจนอานนท์ต้องเข้ามาปลอบ “งั้นก็ไปเอาเสื้อผ้า ของใช้ แล้วเปิดไฟรอบบ้านไว้สักหน่อย บ้านจะได้ไม่เหงานะ” ปรางทิพย์ทำตามที่อานนท์บอกอย่างว่าง่าย พอเปิดกำแพงทำประตูเชื่อมถึงกัน เดินไปเดินมาก็สะดวก ปรางทิพย์ไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็น เขาปล่อยให้หญิงสาวไปเก็บของ ส่วนตัวเองสำรวจรอบบ้าน เปิดไฟ ยิ่งเห็นห้องของก้องภพที่เคยนอนเคยเล่น เขาเองยังรู้สึกคิดถึง ก้องภพกำลังน่ารัก น่าหลง “เดี๋ยวหนูนอนที่ห้องพี่นะ แล้วเดี๋ยวพี่ไปนอนห้องเล็กเอง” ปรางทิพย์พยักหน้าแล้วหายเข้าไปในห้องนอนใหญ่ของอานนท์ หญิงสาวจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ่งได้เวลาเล่นกับหลานชายยิ่งคิดถึง เชื่อว่านางปวีณาก็ต้องมีอาการเดียวกัน หยิบโทรศัพท์ว่าจะโทรหาแม่ แต่ก็ต้องตัดใจ เธอต้องทำใจให้ได้ ต้องเข้มแข็ง หลานชายเธอไม่ได้ไปอยู่ลำบาก ในใจอยากโทรหามารตีว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ก็ต้องห้ามใจตัวเองไว้ อานนท์ปล่อยให้ปรางทิพย์นอนพักผ่อน ส่วนตัวเขาอยู่ในห้องทำงาน ทำงานที่ค้างต่อ เที่ยงคืนแวะไปดูว่าหญิงสาวหลับหรือยัง ตกใจกับภาพตรงหน้า แสงจากโคมไฟไม่สว่างนัก แต่ก็เห็นว่าปรางทิพย์นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง “หนู เป็นอะไร นี่เที่ยงคืนแล้วยังไม่นอนเหรอ พี่เข้าใจว่าหลับไปแล้ว เลยเข้ามาดูความเรียบร้อย โธ่...แล้วทำไมไม่เรียก ไม่เอาๆไม่ร้องนะคนดี “ อานนท์ขึ้นไปบนเตียงรั้งร้างบางเข้ามากอดไว้ นั่นยิ่งทำให้ปรางทิพย์ร้องไห้หนักกว่าเดิม อานนท์ไม่ค่อยเคยเห็นปรางทิพย์ร้อง คงหนักมากถึงได้ร้องไห้ออกมา ก็ดีถือว่าได้ปลดปล่อยทุกอย่าง “อยากร้องก็ร้องออกมาให้หมดนะ ร้องให้พอจะได้โล่ง แล้วหลังจากนี้จะได้ไม่ต้องร้องอีก “ ในใจของเธอตอนนี้รู้สึกเคว้งคว้าง อ้างว้าง รู้สึกตัวว่าลำแขนใหญ่แข็งแรงของอานนท์ ประคองกอดร่างของเธอไว้ ตัวเขาอุ่น มือเขาก็อุ่น หญิงสาวเบียดร่างเข้าไปหาแผงอกหนา เหมือนเป็นที่พักพิง ไม่นานก็เผลอหลับไปในอ้อมกอดของเขา ถึงปรางทิพย์จะหลับไปนานแล้ว ก็ยังสะอื้นเป็นระยะ นั่นทำให้อานนท์ไม่กล้าขยับตัว เพราะกลัวว่าคนในอ้อมแขนจะตื่น ปรางทิพย์กอดเขาแน่นมาก เพิ่งจะมาคลายอาการกอดรัดตอนหลับสนิท คนรักอยู่ในอ้อมกอดแถมหอม นุ่มนิ่มน่ากอดไปทั้งตัวแบบนี้ ทำเอาเขาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดดีไม่ได้เลย แต่เพราะให้เกียรติ พยายามหักห้ามใจตัวเอง ถึงจะแค่ได้นอนกอดอยู่บนเตียงเดียวกัน แค่นี้ก็เกินฝันแล้ว อดทนอีกหน่อยล่ะกัน กว่าเขาจะทำใจให้หลับลงได้ ก็สุดแสนจะทรมาน ปรางทิพย์ตื่นลำดับเหตุการณ์ เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น จำได้ว่าเธอนั่งร้องไห้อยู่บนเตียงนอนของอานนท์ คิดถึงพ่อแม่น้องสาวและหลานชาย จนอานนท์เปิดประตูเข้ามา และปลอบเธอจนหลับไปเพิ่งรู้สึกตัวว่านอนหนุนแขนของเขา มืออีกข้างของตัวเองกอดช่วงลำตัวเขาเอาไว้ ขาข้างซ้ายพาดอยู่บนตัวเขา “อุ้ย....”ปรางทิพย์ตกใจ เธอกำลังสำรวจใบหน้าของอานนท์เพลินๆอยู่ๆเขาก็ลืมตา ตวัดแขนอีกข้างมากอดรัดร่างบางไว้เต็มอ้อมกอด แถมจมูกของเขาวนเวียนอยู่ที่แก้ม ลามมาที่ริมฝีปากของเธอ ตอนนี้มือของเขาร้อนผ่าว ลูบไล้เรื่อยไปตามที่ใจต้องการ “ทรมานเหลือเกิน พี่จะทนไม่ไหวแล้ว ขอกอดได้ไหม“ ไม่มีเสียงตอบกลับมา หากแต่ร่างบางเบียดเข้ามาหาร่างกำยำแทนคำตอบ เสียงเขาพูดพึมพำอย่างถูกใจ ริมฝีปากของเธอถูกเขาครอบครองนานแสนนาน จนพอใจลมหายใจร้อนของเขาที่เป่ารดบริเวณซอกคอขาวนวลของเธอนั้นทำให้ขนลุก จมูกโด่งซุกไซ้อยู่แถวซอกคอลามเรื่อยอย่างช้าๆมาที่อกอวบ ชุดนอนบางเบาและเสื้อชั้นในเลื่อนหลุดออกไปจากตัวอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นอกอวบอิ่มชูสล้างสองข้างเคลื่อนไหวไปตามแรงหายใจที่ตื่นเต้นปนตื่นกลัว ลิ้นร้อนสากค่อยๆบรรจงราดรดลงไปที่ยอดอกอวบอิ่มสวย สองมือประคองจูบดูดดื่มทีละข้างอย่างหลงไหล ปากก็พร่ำแต่คำว่าสวยมากอยู่ตลอดเวลา ปรางทิพย์ใจเต้นแรง ติดขัด ห้ามใจและความต้องการไม่ได้ อานนท์ทำให้เธอเกือบขาดใจครั้งแล้วครั้งเล่า หญิงสาวแอ่นอกเลื่อนตัวไปตามปากและลิ้นร้อนของเขา ที่คอยพรมจูบดูดดื่มที่ยอดอกครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ยอมปล่อย เสียงครางและการตอบสนองของเธอ ทำให้เขาหยุดตัวเองไว้ไม่ได้ สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิดกัน อานนท์เฝ้าจูบเฝ้าหอมดอมดมเกือบทุกตารางนิ้วบนเนื้อตัวของเธอ สองมือกอดรัดเขาไว้แน่นยามที่เสียวซ่าน เผลอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้าง เมื่อยามเขาลากลิ้นร้อนไปตามเนื้อตัว เล็บยาวจิกลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่มอีกครั้ง เมื่อมีบางสิ่งสอดแทรกเข้าไปภายในร่างกาย เจ็บนิดเดียวเหมือนที่เขากระซิบบอก ในวินาทีนี้เธอยอมทุกอย่าง เขาจะพาเธอไปสวรรค์วิมานชั้นไหน ก็ยอม เธอยอมเจ็บเพื่อแลกกับความสุขที่เนิ่นนาน เขาปฏิบัติกับเธออย่างนุ่มนวล ความสุขที่มีกลบเกลื่อนความเจ็บไปจดหมดสิ้น เสียงครางของเธอเหมือนเร่งให้เขามอบความรักให้กับเธอเต็มที่ หยุดยั้งตัวเองไม่ได้ และเขาจะไม่หยุด ปรางทิพย์ตามใจคนรัก ตามใจตัวเองให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ สองร่างแนบชิดติดกันจนแทบจะกลายเป็นคนเดียวกัน หญิงสาวปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์และความปรารถนา ทุกสิ่งแปลกใหม่ อยากรู้อยากลอง ความสุขความรักที่เขามอบให้นั้นมันช่างแสนวิเศษสำหรับเธอ สงครามความรักผ่านพ้นไป สองร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายกันอยู่บนที่นอนกว้าง ชายหนุ่มเฝ้าพรมจูบปลอบประโลมไปทั่วร่างขาวสวย พร่ำขอโทษที่ทำให้ต้องเจ็บตัว และสัญญาว่าครั้งต่อไปจะไม่ทำให้เจ็บน้อยกว่านี้ หญิงสาวยิ้มรับอย่างมีความสุข เข้าใจและยอมรับความเจ็บที่เขามอบให้ สำหรับเธอมันช่างแสนวิเศษและมันทำให้เธอมีความสุขมาก ความสุขแบบที่ไม่เพิ่งเคยรู้จัก “รักเหลือเกิน เหนื่อยไหมคนดี ไปอาบน้ำก่อนนะ เพิ่งจะตีสามเอง แล้วเดี๋ยวค่อยมานอนต่อ ไหวไหมหรือจะให้พี่อาบให้” ไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบอะไร ร่างเปลือยของเธอก็ถูกเขาอุ้มขึ้นและพาเข้าไปในห้องน้ำ “ปรางอายค่ะ ขออาบเองดีกว่านะคะ” อานนท์จำต้องปล่อยตามใจคนรัก รู้ว่าเขินอาย ปล่อยให้หญิงสาวอาบน้ำชำระร่างกาย หยดเลือดที่อยู่บนผ้าปูที่นอน ทำให้เขาต้องจัดการ เปลี่ยนผ้าปูเตียงใหม่ ทั้งดีใจและภูมิใจ “อะไรคะปล่อยเถอะค่ะ ขอปรางใส่เสื้อผ้าก่อน”ปรางทิพย์สะดุ้ง หญิงสาวยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง อานนท์อาบน้ำเสร็จแล้วมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังเธอ สองมือเขาโอบใต้ฐานอกอวบ จมูกและปากวนเวียนอยู่แถวซอกคอ มือสองข้างเริ่มลูบไล้ขึ้นมาแถวอกอวบอีกครั้ง หญิงสาวใจเต้นแรง พายุที่เพิ่งสงบ กลับถูกปลุกด้วยจมูกและปากของเขาอีกครั้ง “พี่ไม่ไหวแล้วนะ”สิ้นเสียงร่างของหญิงสาวลอยขึ้นมาอยู่ในวงแขนแข็งแรง มารูสึกตัวอีกครั้ง แผ่นหลังของเธอก็แตะกับที่นอนนุ่ม ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเลื่อนหลุดออกไปจากตัวอีกครั้ง สงครามความรักได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และเป็นการสมยอมของทั้งสองฝ่าย ที่พร้อมจะพากันฝ่าฟันพายุรักอีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD