หลังจากที่กลุ่มของคุณดารารายกลับไปแล้ว อานนท์ขอตัวไปบ้านแม่ เขาบอกกับปรางทิพย์ว่ามีโปรเจคใหม่ที่จะต้องทำ และต้องไปคุยรายละเอียดกับทั้งพ่อและแม่ พ่อของเขามากรุงเทพฯเพื่อมาคุยงาน ปรางทิพย์ไม่มีปัญหาอะไร เพราะตัวเองก็เหนื่อย หลังกินข้าวเสร็จหญิงสาวเข้าห้องนอนทันที
วันนี้นางปวีณารับแขกทั้งวัน วันนี้นางลงมือทำอาหารเอง ต้อนรับกลุ่มของปราโมทย์ โดยมีมารตีเป็นลูกมือ ปล่อยให้ก้องภพอยู่กับพ่อและย่า หลังจากทุกคนกลับแล้ว ทำให้นางปวีณาเองก็เข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ
สรุปว่าทุกคนนอนเร็ว พยาบาลเองก็ได้พักผ่อน ก้องภพหลับตั้งแต่หัวค่ำ ทั้งบ้านเงียบสนิท
“พี่ปราง”
“ปรางทิพย์ได้ยินเสียงเรียก จำได้ว่าเป็นเสียงของอุสาวดี”
“มีอะไรเหรออุสา ทำไมวันนี้กลับบ้านดึกจัง แล้วไปงานอะไรมา ทำไมแต่งตัวสวยจัง”ปรางทิพย์เห็นน้องสาวใส่ชุดเหมือนไปทำบุญ ใส่ชุดเดรสสีขาวยาวคลุมเข่า สวมรองเท้าคันชูสีขาว มัดผมรวบไปข้างหลังด้วยโบว์สีขาวเรียบร้อย แต่งหน้าบางๆ ปกติอุสาวดีก็สวยอยู่แล้ว ยิ่งแต่งตัวแบบนี้ยิ่งสวยมาก ผิวพรรณขาวออร่า
“ใช่อุสาไปวัดมา เลยกลับบ้านดึก อุสาไปไกลมาก แต่ไม่ต้องห่วงนะ ทุกอย่างราบรื่น”
“แล้วนี่ยังไงจะนอนกับพี่เหรอ ถ้าจะนอนก็ไปอาบน้ำอาบท่า มาเหนื่อยๆกินอะไรมาหรือยัง ถ้ายังเดี๋ยวพี่หาอะไรให้กิน”
“ไม่ต้องหรอกพี่ปราง อุสาอิ่มแล้ว แม่ทำให้กินทุกวันเลย มีแต่ของชอบ”
“ดีแล้ว รีบไปอาบน้ำเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน พี่จะทำงานต่อสักหน่อย”
“พี่ปราง อุสาดีใจนะที่พี่ปรางเจอคนดีๆแบบพี่อานนท์ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นนะ พี่ปรางตัดสินใจไม่ผิดหรอก วางใจปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติ อย่ายึดติด”
“ขอบใจนะอุสา เรื่องของคุณอานนท์ พี่จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ไม่สนใจเขานะ พี่ว่าเขาเป็นคนใจดี”
“ดีแล้วพี่ปรางทำถูกแล้ว เรื่องมารตีวางใจเขานะ มารตีเป็นคนดีและน่าสงสารมาก ”
“อุสาดีใจที่พี่ปรางไปหาพ่อ ดีใจกับทุกคน แต่สำหรับอุสา ถึงเวลาจะหมดไปแล้ว แต่เดี๋ยวเราจะได้เจอกันนะพี่ปราง”
“ยังไงพี่ไม่เข้าใจเลย เราก็อยู่ด้วยกันปกติดี เวลาอะไรหมด คืออะไรพี่ไม่เข้าใจ”
“พี่ปรางไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องหมดแล้ว อุสาแค่มาลา แต่เราจะได้เจอกันอีกในไม่ช้านี้ อุสาต้องไปก่อน รักพี่ปรางนะ ชาติหน้าถ้ามีจริงอุสาขอให้ตัวเองเข้มแข็งได้สักครึ่งหนึ่งของพี่ปรางก็พอ“
“ยังไงอุสาพี่ไม่เข้าใจ อุสา....อุสา....เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป จะไปไหน
ปรางทิพย์สะดุ้งตกใจ เหงื่อออกเต็มตัว ฝันไปหรอกเหรอ หญิงสาวมองไปที่ปลายเตียง เหมือนไม่ใช่ความฝัน เมื่อคืนก่อนนอนเธอสวดมนต์และนั่งสมาธิ จากนั้นหลับทันที นาฬิกาบอกเวลาตีสาม หญิงสาวนั่งคิดทบทวนเรื่องราวในความฝัน เป็นเรื่องดีทั้งนั้น นอนคิดโน้นคิดนี่แต่นอนไม่หลับ ในใจยังวนเวียนคิดถึงแต่เรื่องของความฝัน มันเหมือนความจริงมากกว่า
“แม่คะ ลุกมาทำอะไรแต่เช้านี่ยังไม่ตีห้าเลยนะคะแม่”
“แม่ก็ตื่นเวลานี้ทุกวันนั่นแหละลูกพอรู้สึกตัวจะนอนต่ออีกก็นอนไม่หลับแล้ว เลยลุกขึ้นมาทำกับข้าวเตรียมไว้ใส่บาตร”
“งั้นวันนี้ปรางใส่บาตรด้วยนะคะแม่ เมื่อกี้ปรางฝันว่าน้องมาหาค่ะแม่ น้องสวยมาก”
“เหรอ ดีแล้วลูก คิดถึงน้อง เขาก็มาหา อีกไม่นานก็คงจะได้เจอกัน”
“ยังไงคะ แม่พูดคล้ายๆกับที่น้องพูดในความฝันเลยค่ะ”
“แม่ก็ไม่รู้นะลูกว่าต่อไปวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่คิดว่าคงจะมีแต่เรื่องดีๆแน่นอน แม่รู้สึกว่าเหมือนน้องอยู่กับเราตลอดเวลา ”
“แม่ว่ามารตีเขาจะรักและเอ็นดูตาก้องจริงไหมคะ”
“แม่ว่าเขาเป็นคนดีนะลูก น่าสงสารด้วยซ้ำไป ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้รักปราโมทย์ได้ขนาดนี้ ถ้าหลังจากนี้ปราโมทย์มองไม่เห็นความดีของมารตี แม่ก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงแล้วนะ”
“เสียดายนะคะ ไม่แน่นะคะแม่ บางทีถ้าเขารับตาก้องไปเลี้ยง อาจมีลูกอิจฉาก็ได้ “
“ถ้าเป็นอย่างที่หนูปรางว่าจริงๆแล้วเราจะทำยังไงกับตาก้องล่ะลูก “นางปวีณาใจเต้น ลูกสาวคนโตพูดเหมือนยอมให้ปราโมทย์รับก้องภพไปเลี้ยงเอง และนางเองรู้สึกใจหาย ถ้าบ้านนี้จะไม่มีหลานน้อยอยู่
“ถ้ามันจะเป็นอย่างที่เราพูดกัด ถ้าเขารักตาก้องน้อยลงกว่าลูกเขา ปรางก็ขอเอาหลานมาเลี้ยงเหมือนเดิม”
“หนูปราง แม่ดีใจนะลูกที่หนูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก”
“พอได้คุยกับมารตี มันทำให้ปรางปลงหลายๆอย่างค่ะแม่ เมื่อก่อนปรางเครียด คิดว่าการคิดในแบบของตัวเอง มีความสุข แต่ไม่ใช่เลย พอปล่อยวางทุกอย่าง อะไรๆก็ดูเบาลงไม่เครียดเลยค่ะ แถมมีความสุขมากด้วย”
สองแม่ลูกพูดคุย ช่วยกันทำกับข้าว และใส่บาตรพระด้วยกัน ปรางทิพย์นึกถึงที่อุสาวดีบอกกับเธอเมื่อคืน น้องบออกว่ากินอิ่มได้กินแต่ของที่ชอบ หญิงสาวน้ำตาไหล ถ้าเวลาปกติพูดคุยกัน เธอมักโอบกอดน้องสาวเสมอ แต่ตอนนี้เวลานี้ทำได้เพียงระลึกถึงเท่านั้น แบบนี้ซินะ ถึงมีคำพูดที่ว่า เวลาที่มีโอกาสอยู่ด้วยกัน ให้ทำดีต่อกันให้มาก เวลาที่ต้องจากกันจริๆจะได้ไม่เสียใจมาก
หลังกินข้าวเช้า ปรางทิพย์เข้าไปเล่นกับหลานชาย ก้องภพโตขึ้นมาก หน้าตาเหมือนแม่ โตขึ้นต้องหล่อมากแน่ๆปราโมทย์เองก็หน้าตาดี รวมๆแล้วหลานชายของเธอหล่อตั้งแต่เด็ก ปรางทิพย์ใช้เวลาอยู่กับหลานชาย จนอานนท์โทรหา
“ปราง อยู่ไหนครับ”
“อยู่บ้านค่ะ เล่นกับตาก้อง”
“ดีจัง พี่กำลังกลับ เดี๋ยวเจอกันนะครับ คิดถึงมาก”
“อานนท์กำลังมาเหรอลูก”
“ค่ะแม่ น่าจะใกล้ถึงแล้ว “
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพ่อเขาจะขึ้นมา บอกว่าจะเอาพวกผักผลไม้มาให้ ขากลับแม่ว่าจะไปกับพ่อเขานะลูก จะไปดูบ้านสวนเขาสักหน่อย เห็นถ่ายโน้นนี่ส่งมาให้แม่ดู ทำให้เกิดอาการอยากเห็น”
“แม่ไปแล้ว แม่จะไม่อยากกลับเลยค่ะ เพราะน่าอยู่มาก ร่มรื่น อากาศบริสุทธิ์ ปรางไปนอนมาแล้ว ยังไม่อยากกลับเลย”
“นี่ไงโทรมาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าจะส่งอะไรมาให้ดูอีก “
นางปวีณารับสายสามี นายองอาจโทรไลน์มาหาภรรยา สองแม่ลูกพูดคุยกับคนในสาย สักพักปรางทิพย์ปล่อยให้แม่คุยกับพ่อ เพราะดูเหมือนว่า น่าจะคุยกันนาน พ่อกับแม่คุยกันเหมือนจีบกันใหม่ๆ เธอเองดีใจกับแม่ และถ้าพ่อกับแม่จะกลับมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยินดี รุ่นนี้แล้วคงอยู่ดูแลกัน ไม่น่าทะเลาะกันแล้ว
“จ๊ะเอ๋ “ปรางทิพย์ตกใจ เธอกำลังเดินสำรวจรั้วบ้าน อยู่ๆอานนท์ก็โผล่หน้าข้ามรั้วมา
“โอ้ย....ตกใจจังเลย “ปรางทิพย์ไม่ได้ตกใจ แต่ตลกและขำมากกว่า เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยตกใจอะไรง่ายๆ ขำอานนท์
“ขอบใจนะที่อุตสาห์ตกใจ”
“ทำไมมาเงียบๆคะ “
“ใครบอกว่าเงียบ พี่ทั้งเปิดประตูรั้ว ทั้งปิดประตูรถ เสียงดังจะตาย ปรางนั่นแหละที่ใจลอย”
“แม่ไปไหนครับ ทำไมบ้านเงียบจังเลย”
“แม่คุยกับพ่อค่ะ พ่อโทรไลน์มา อวดผักอวดต้นไม้กันใหญ่ นี่เดี๋ยวพ่อจะขึ้นมาหาแม่นะคะ บอกว่าจะเอาผัก ผลไม้ปลอดสารมาให้ ส่วนตาก้องหลับค่ะ”
“นี่...มาบ้านพี่หน่อย มีของฝากเยอะแยะเลย แม่ฝากมาให้ปราง”
ปรางทิพย์ตามใจอานนท์ แวะเข้าไปบอกนางปวีณาในบ้าน แล้วเดินออกหน้าบ้านเลี้ยวเข้าบ้านของอานนท์ เห็นจะจริงอย่างที่เขาว่า ถ้าทำประตูเปิดหากันได้ ก็ไม่ต้องเดินอ้อม อานนท์รออยู่ที่ประตูหน้าบ้าน สายตาเขาแสดงออกว่าคิดถึงมาก
“คิดถึงจังเลย สบายดีใช่ไหมครับ”
“ดีค่ะ ดีมากเลย คุณป้าสบายดีไหมคะ”
“สบายดีครับ ไม่น่าห่วง พี่ไม่อยู่มีอะไรจะเล่าให้ฟังไหม”
“มีค่ะ เรื่องประตูตกลงปรางไม่มีปัญหานะคะ ทำได้เลย เพราะปรางก็ขี้เกียจเดินอ้อมเหมือนกัน”
“มีเรื่องอะไรอีกครับ”
ปรางทิพย์เล่าเรื่องความฝันให้อานนท์ฟัง เขาตื่นเต้นแค่เขาไม่อยู่ มีเรื่องน่ายินดีหลายอย่าง เขาเองก็มีเรื่องให้ดีใจหลายอย่างเหมือนกัน อยากเล่าให้ปรางทิพย์ฟัง แต่ก็กลัวว่าจะได้คำตอบไม่ตรงกับใจ เลยขออุบไว้ก่อนดีกว่า รออีกสักระยะให้หลายๆอย่างคลี่คลาย ค่อยคุย
“ตกลงหนูเขียนใบลาออกหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ อย่าคืนคำนะคะ สัญญาแล้วว่าจะให้ปรางทำงานด้วย”
อานนท์ยิ้มอย่างถูกใจ มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความรัก ผู้หญิงคนนี้ที่เคยก้าวร้าวกับเขาและทุกคน แต่ตอนนี้เหมือนไม่เคยมีอาการแบบนั้น เวลาน่ารักก็น่ารักเหลือเกิน บอกสอนง่าย มีเหตุผล
"เห็นไหมพี่บอกแล้ว เราจะได้ไม่ต้องเดินอ้อม เอ....หรือว่าเราจะทุบกำแพงออกให้หมดเลย บ้านเราจะได้อยู่ภายในรั้วเดียวกัน ดีไหม"
“ไม่ดีกว่าค่ะ เป็นสัดส่วนแบบนี้ดีแล้ว เปิดหมดมันจะเยอะเกินไปค่ะ”
“ครับก็ได้ แต่พี่ขอทำกว้างหน่อยนะ เผื่อเวลาที่เราเดินคู่กัน”
ปรางทิพย์ยิ้มขำอานนท์ เขาปฏิบัติต่อเธอดีมาก ให้เกียรติ ไม่เคยฉวยโอกาส รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา ที่สำคัญเขาชอบทำกับข้าว ถึงเธอจะทำกับข้าวเป็นทุกอย่าง แต่พอมีคนที่ชอบทำมากกว่า เธอก็ยอมไม่แย่งทำ ปล่อยให้เขาทำไป
“เย็นนี้พี่ทำกับข้าวให้กินนะ รับรองพี่ไม่ใส่เสน่ห์แน่นอน”
“ทำไมคะ พี่มีสูตรยาเสน่ห์เหรอ”
“พี่ไม่มีหรอก มีแต่ความรักความจริงใจ ความปรารถนาดี “
อานนท์จูงมือปรางทิพย์เข้าไปภายในบ้าน เลยเข้าไปในบริเวณห้องครัว วัตถุดิบสำหรับทำอาหาร วางอยู่เต็มโต๊ะ
“ปรางนั่งเฉยๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง”
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ ปรางเป็นผู้หญิงให้ผู้ชายทำกับข้าวให้กิน เดี๋ยวคนอื่นมารู้มาเห็น เขาจะว่าปรางใช้งานพี่เยอะไปไม่ดี”
“ไม่หรอก พี่เต็มใจ ก็พี่ชอบ ไม่ใช่ว่าปรางทำไม่อร่อยนะ แต่พี่อยากทำให้กิน”
“งั้นปรางช่วยเตรียมพวกวัตถุดิบดีกว่า นี่พี่เคยทำให้ใครกินมาก่อนไหมคะ”ปรางทิพย์นั่งเท้าคางมองอานนท์ที่กำลังวุ่นวายเตรียมวัตถุดิบ ในใจเธออยากรู้ว่าเขาเคยทำให้ใครกินไหม เธอหมายถึงแฟนๆของเขา
“คิดอะไรอยู่ครับ มานี่มา อยากรู้อะไรอีกนอกจากเรื่องนี้ ถามพี่มาเลย ยินดีให้สอบสวนทุกอย่าง” อานนท์วางมือจากทุกอย่าง เดินตรงมาหาคนที่นั่งเท้าคางมองเขาอย่างตั้งใจ ความสุขที่ได้อยู่กับคนรัก มันเป็นแบบนี้เอง