บทที่ 2

1133 Words
ฮาริย่าสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับอาการโมโห พร้อมกับทำใจให้เย็นลงอีกนิดหนึ่ง หญิงสาวลืมไปว่าหากเมื่อใดที่เธอใจร้อน อยากรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากตาเฒ่าผู้นี้ เธอจะไม่มีทางได้รับคำตอบกลับมา แต่หากเธอเย็นลง ตะล่อมถามทีละนิด ทุกสิ่งที่อยากรู้ก็จะพร่างพรูหลุดออกมาจากปากของตาเฒ่ากาติย์เป็นชุด “ก็ได้ค่ะ ฮาริย่าจะถามทีละคำถาม แต่สิ่งแรกที่ท่านผู้เฒ่าต้องตอบฮาริย่าคือ พ่อค้าเร่คนนี้เขาขายสินค้าอะไร” ตาเฒ่ากาติย์ผู้มีสาลิกาลิ้นทอง ไม่ว่าค้าขายที่ไหนก็ทำกำไรได้มากมายมหาศาล ได้หันหลังให้ผู้ถาม แสร้งทำเป็นยกผ้าใบที่ปกคลุมสินค้าของตนเองออก ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างไม่ตรงกับคำถามสักเท่าไร “เขาก็ขายสินค้าทั่วๆ ไปนั่นแหละ นายหญิงฮาริย่าไปถามเขาเองเถอะ อยู่เกวียนสุดท้ายของขบวน” “ฮาริย่าไปแน่ค่ะ” ฮาริย่าบอกอย่างโมโห ก่อนจะกระแทกเท้าก้าวตรงไปยังท้ายขบวนกองเกวียน ความแปลกใจระคนสงสัยได้แล่นเข้ามาในหัวสมองของหญิงสาว ตาเฒ่ากาติย์มีท่าทีผิดสังเกตอย่างมาก จากที่ไม่เคยรับใครเข้ากองเกวียนง่ายๆ มานานนับสิบปีแล้ว จู่ๆ ก็ได้รับคนแปลกหน้าเข้าร่วมกองคาราวานด้วย พอถามชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายตาเฒ่ากาติย์ก็หลบหน้า ด้วยการแสร้งทำเป็นไปจัดสินค้าเพื่อเตรียมวางขาย “เดี๋ยวก็ได้รู้ว่า นายเป็นใครกัน” ฮาริย่าพึมพำกับตนเอง พอเดินไปถึงกองเกวียนลำสุดท้าย ก็ได้เห็นเจ้าของเกวียนซึ่งสวมชุดคลุมยาวรุ่มร่ามสีมอซอ แต่ทว่าดูสะอาดสะอ้านกำลังให้อาหารม้าพันธุ์ดีที่ใช้สำหรับเทียมเกวียน “เจ้าคือพ่อค้าเร่คนใหม่ใช่ไหม” ผู้ที่ถูกทักเสียงดังได้ยกผ้าคลุมศีรษะ เพื่อกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ลูกใหญ่ แผดเผาร่างกายตนเองออกจากศีรษะ ก่อนจะหันหน้าช้าๆ มาตามต้นเสียง ซึ่งแม้จะเปล่งออกมาอย่างทรงอำนาจ แต่ผู้ที่ได้ยินก็ยังรู้สึกว่าน้ำเสียงของสาวเจ้าไพเราะเสนาะหูยิ่งนัก “สวัสดีนายหญิงฮาริย่า” ผู้ค้าเร่คนใหม่กล่าวทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง พลางแอบมองหัวหน้าเผ่าแสนสวยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า จากนั้นก็นึกสบถอยู่ในใจคนเดียว เมื่อดวงตาคมกริบได้พานพบกับความงดงามที่ซ่อนความเซ็กซีไว้อย่างร้ายกาจ ‘ให้ตายเถอะ ทำไมตาเฒ่ากาติย์ไม่บอกเราสักคำว่า เผ่าอัยรีนมีหัวหน้าเผ่าที่น่าฟัดน่ากินเช่นนี้’ ฮาริย่าผงะถอยหลังด้วยความตกใจ เมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ ความสงสารแล่นพล่านเข้าสู่หัวใจดวงเล็ก ขณะทอดสายตามองไปยังรอยแผลเป็น ที่นูนขึ้นขนาดใหญ่และค่อนข้างยาวตรงแก้มซีกซ้าย! “เจ้าชื่ออะไรและขายสินค้าอะไร” หญิงสาวถามเสียงแข็ง แล้วจู่ๆ ก็เกิดอาการร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งตัว เมื่อมองสบตากับดวงตาคมที่จ้องมองแน่นิ่งราวกับจะเปลื้องผ้าเธอออก พ่อค้าเร่คนใหม่คลี่ยิ้มกว้างไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่กลับเดินไปดึงผ้าใบสีเทาออก เพื่อให้เห็นสินค้าที่บรรทุกอยู่บนกองเกวียน “นี่คือสินค้าที่เราเอามาขายในดินแดนของท่าน” ฮาริย่าเดินสำรวจรื้อค้นสินค้าด้วยตนเอง เมื่อไม่เห็นสิ่งผิดปกติจึงได้เค้นเสียงถามอีกฝ่ายอีกครั้ง “เจ้าตอบคำถามเรายังไม่หมด เหลืออีกหนึ่งคำถาม” “แล้วท่านฮาริย่าล่ะ ชื่อเสียงเรียงนามเต็มๆ มีว่าอย่างไร ได้โปรดบอกเราสักนิดเถอะ เผื่อว่าเดินทางไปขายสินค้าในเผ่าอื่น จะได้บอกได้ถูกต้องว่าหัวหน้าเผ่าอัยรีนผู้นี้งดงามยิ่งนัก” แทนที่จะตอบคำถามของอีกฝ่าย พ่อค้าเร่หน้าบากกลับเล่นลิ้นเป็นฝ่ายเอ่ยถามหัวหน้าเผ่าแสนสวยเสียเอง “เราจะมีชื่อเสียงเรียงนามอะไรก็ช่าง หากเจ้าไม่ตอบคำถามเราภายในหนึ่งนาทีเจ้าก็อย่าได้หวังว่าจะมีโอกาสได้อยู่ขายสินค้าในดินแดนของเรา” ฮาริย่ากระชากเสียงต่อว่าอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนจะหันหลังเดินหนีกลับไปที่บ้าน พักของตนเอง แต่เท้าเล็กก้าวเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกมือใหญ่ของพ่อค้าเร่รวบไว้ แล้วออกแรงบังคับให้หันกลับมาคุยกันเหมือนเดิม “โธ่...นายหญิงฮาริย่า” อานีสต์เรียกหญิงสาวตามที่เคยได้ยินตาเฒ่ากาติย์เรียก องครักษ์หนุ่มแสร้งทำตาละห้อย น่าสงสารแล้วออดอ้อนขอร้องอีกฝ่าย “อย่าเพิ่งใจร้อนเดินหนีเลย หากนายหญิงฮาริย่าไม่ให้เราค้าขายที่นี่ เราคงได้อดตายแน่” ฮาริย่าหยิบกริชมาจากซอกเอว พร้อมกับสั่งเสียงห้วน “ปล่อยมือเรา! ก่อนที่กริชเล่มนี้จะปักที่หัวใจของเจ้า” อานีสต์ ดามาสต์ ซาบิลซ์ ผู้เป็นองครักษ์เอกของเจ้าชายฮารีฟร์ ซึ่งได้รับมอบภารกิจมาสอดแนมตามหาเสือลำบากอย่างจิ้งจอกเฒ่าอาดีบ ยอมทำตามสั่งของอีกฝ่ายด้วยดี แต่หาใช่เพราะกลัวกริชเล่มเล็กไม่ ถึงฮาริย่าจะเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวมามากเพียงใด ก็ไม่อาจสู้กับบุรุษเพศ ผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็นองครักษ์อารักขาความปลอดภัยให้กับเจ้าแผ่นดิน ที่ได้เข้าฝึกฝนการเป็นองครักษ์ ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกแขนง ฝึกการใช้อาวุธทุกประเภทจนช่ำชองอย่างเขาได้ แต่ด้วยอยากผูกมิตรและไม่อยากให้ฮาริย่าโกรธไปมากกว่านี้ องครักษ์หนุ่มจึงได้ปล่อยมือจากต้นแขนเนียนนุ่มอย่างแสนเสียดาย ก่อนจะเอ่ยบอกชื่อกลางของตนแทน ไม่ยอมบอกชื่อจริง เพื่อป้องกันและเกรงว่าจะมีคนอื่นรู้จักเขา ในฐานะของหัวหน้าเหล่าองครักษ์ของเจ้าชายฮารีฟร์ “เรายอมแพ้แล้วนายหญิงฮาริย่า ได้โปรดเมตตา ‘ดามาสต์’ สักครั้งเถอะ” องครักษ์หนุ่มเอ่ยบอกเพียงชื่อกลาง ไม่ต้องการให้ฮาริย่ารู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา จนกว่าเขาจะลากคอจิ้งจอกเฒ่าอาดีบกลับไปลงโทษในเมืองหลวงได้แล้ว เวชภัณฑ์รวมทั้งอาหารที่บรรทุกอยู่บนลำเกวียน ล้วนเป็นสิ่งที่คนในเผ่ากำลังต้องการอย่างมาก ซึ่งเป็นใบเบิกทาง ที่ทำให้ฮาริย่าจำเป็นต้องเอ่ยอนุญาตให้อีกฝ่ายอยู่ในเผ่าของเธอต่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD