“คืนนี้ก็ทำให้หายงอนดิ เธอรู้ดีไม่ใช่เหรอว่า จะ-ต้อง-ทำ-ยังไง หึหึ” นัมเน้นคำจนฉันผลักศีรษะของเขาอย่างแรง เสียงหัวเราะดังขึ้นทำให้ฉันใจชื่นได้บ้างว่าเขาไม่โกรธฉันแล้ว นัมแวะจอดร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าคอนโดซึ่งเวลาหิวฉันกับเขามักจะลงมากินด้วยกันประจำ
“ใส่น้ำตาลเยอะขนาดนี้ ให้พี่ไก่เจ้าของร้านเอามาให้เป็นถุงเลยมะ”
“อย่าบ่นมากเลยน่า คนชอบกินแบบนี้”
“ใช่ๆ กินหวานแบบนี้ไง เวลาฉันกินนมเธอมันถึงได้หวานนัก”
“ทะลึ่ง! พูดไรเกรงใจคนอื่นบ้างนะ” ฉันเอาตะเกียบตีมือเขาก่อนจะคนไปมาในถ้วยบะหมี่เกี๊ยวของโปรด ส่วนนัมจะกินบะหมี่แห้งไม่ใส่ถั่วงอก พริกไทย เรื่องมากเนาะว่ามะ
“แล้ววันนี้อยู่กับไอ้เถื่อนทำไม?”
“เปล่าอยู่ด้วยกัน วันนี้มีงานประจำวิชาทำโมเดลฉันได้คู่กับเถื่อน”
“ดาวก็จับคู่ได้ โยก็ได้ ทำไมต้องมัน ไม่เข้าใจ” นัมคีบเส้นบะหมี่เคี้ยวหน้าตาย
“ฉันกับเถื่อนเราเป็นบัดดี้กัน อาจารย์ก็เลยให้จับคู่กันมันง่ายดี”
“โคตรไม่ชอบอะ”
“ทำไมถึงไม่ชอบเถื่อน ขอเหตุผลหน่อยได้ไหม ฉันว่าเถื่อนก็ไม่ได้ทำอะไรนายเลยนะนัม” ถามนัมด้วยสีหน้าจริงจัง เขาไม่ตอบอะไรหยิบน้ำขึ้นดื่มพร้อมกับเบนสายตาออกไปนอกถนนที่เริ่มจะเงียบสงัดเพราะว่าดึกมากแล้ว
“พูดไปก็ไม่เชื่อหรอก เพื่อนรักกันนี่” เขาประชดฉันด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ และเป็นอีกครั้งที่ฉันไม่ได้คำตอบจากเขาและเถื่อน
ว่ามันสองตัวเนี่ย เกลียดขี้หน้ากันเพราะอะไร?!
เมื่อกลับมาถึงห้องฉันก็ไล่นัมไปอาบน้ำก่อน และตัวฉันก็เปิดเพลงของบีทีเอสฟังเพื่อเรียกกำลังใจตัวเองกลับมา แค่ได้เห็นหน้าของวี เลือดลมก็สูบฉีด อาการเหนื่อยล้าจากการเรียนหายเป็นปลิดทิ้ง เห็นหรือเปล่าว่าการที่เราคลั่งเกาหลี ไม่ได้ทำให้เราต้องเสียการเรียนไปด้วยนี่นา การได้ดูพวกเขาก็เป็นกำลังใจอย่างหนึ่ง ฉันแอบฝันนะว่าถ้าเรียนจบทำงานฉันจะไปเกาหลี! ใช่จะไปเกาหลี ฉันจะไปหาวี บีทีเอส ไปโดยไม่บอกนัม เพราะถ้าบอกนะเขาจะต้องว่าและห้ามฉันแน่นอน ซึ่งฉันจะไม่ให้เขามาว่าแน่ๆ (อย่าบอกเขานะ ขอร้อง รู้แล้วเหยียบไว้เลย) นัมออกมาจากห้องน้ำด้วยร่างกายแกร่งเต็มไปด้วยรอยสัก ฉันไม่เคยรังเกียจรอยสักของเขาเลยนะ เว้นแต่ของคนอื่นแต่ของผัวเกลียดไม่ลงหรอก
“เปิดมันดูอีกล่ะ”
“กำลังใจอย่างดี ทำให้หายเหนื่อย”
“พูดยังกับว่าอยู่กับฉันแล้วเหนื่อย?”
“จริงปะล่ะ อาบน้ำเสร็จเดี๋ยวก็ต้องเหนื่อย” นัมยกยิ้มก่อนจะเอาผ้าขนหนูที่เช็ดผมตีศีรษะของฉัน “ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวนวดให้”
“นวดอย่างเดียวเหรอ”
“อ่อย”
“เปล่า แค่ถาม...” ฉันลุกขึ้นหนีเขาไปยังตู้เสื้อผ้า แต่ทว่าก็ถูกกอดรัดจากด้านหลัง ริมฝีปากร้อนบรรจงจูบลงบนแก้มของฉัน
“วันนี้ให้อภัยก็ได้ พรุ่งนี้หยุด ทำพรุ่งนี้ได้”
“ยังไงก็ไม่รอดสินะ”
“อือ ห้ามไปไหนด้วย งานมหาลัยหรืองานกลุ่ม”
“รู้แล้วๆ” นัมกัดไหล่ฉันอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะดันหลังฉันให้เข้าไปอาบน้ำ ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่อย่างน้อยเราก็เข้าใจกัน สายตาของฉันเหลือบไปเห็นรูปของวี บีทีเอสซึ่งแปะอยู่ตรงกระจกอ่างล้างหน้า รู้สึกร้อนขึ้นมาทันที ถึงแม้จะเป็นรูปภาพแต่รู้สึกอายชะมัดที่ต้องมาถอดเสื้อผ้าอาบน้ำต่อหน้าเขาแบบนี้ คงจะบ้าไปแล้วสินะฉันเนี่ย!
เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ฉันได้ยินเสียงคุยกันเบาๆ แต่รู้ว่านัมคงคุยโทรศัพท์เพราะเขาหันหลังอยู่และฉันก็ออกมาจากห้องน้ำเบาด้วยไม่งั้นร่างสูงคงรู้
“อะไรเล่า เฮ้พี่เองก็ใช่ว่าจะไม่อยากเคี้ยวเธอนะ แต่เมียพี่ต้องมาก่อน” รู้ล่ะว่าคุยกับใคร ฉันกระโดดขึ้นไปบนเตียงจนนัมตกใจ เพราะฉันกำลังกอดลำคอเขาพรมจูบไปตามแก้มเขาอย่างเบาๆ จนนัมจับมือฉันไปจูบบ้าง
“แค่นี้นะ เมียพี่มาตามล่ะ” นัมกดวางสายและตวัดฉันให้นอนลงกับเตียงนอน ก้มใบหน้าลงจูบตามลำคอฉัน “ไหนบอกว่าจะนวดให้ไง”
“แล้วใครอ่อยก่อนอะ”
“เปล่าอ่อยสักหน่อย แค่เรียกร้องความสนใจเพราะผัวคุยกับกิ๊ก”
“หมากฝรั่ง ไม่ใช่กิ๊ก”
“เหมือนกันปะล่ะ”
“คิดยังไงก็คิด แต่ฉันไม่มีใครนอกจากเธอ” มันก็เหมือนมีนั่นแหละ เพราะสำหรับเขาคงจะคิดว่าเคี้ยวเสร็จก็คายทิ้งตามคอนเซปของเขาที่เคยบอกฉันก่อนจะคบกัน แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่แบบนั้นไง นัมเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปยังทรวงอกฉันอีกครั้ง ฝ่ามืออุ่นกอบกุมมันบีบเค้นเบาๆ พอให้ฉันได้รู้สึกวาบหวิว
“นวดหลังให้หน่อย พรุ่งนี้ต้องทำความสะอาดห้องอีก ซักผ้าด้วย”
“ฉันทำเองก็ได้ พักผ่อนไปเหอะ”
“ไม่เอา นายแพ้ฝุ่นฉันจะปล่อยให้นายทำได้ไงเล่า” นัมนวดแผ่นหลังให้ฉันอย่างดีเลย ฮ้า ทำให้หายเมื่อยเลยนะเนี่ย ฉันหยิบมือถือมากดเปิดข้อความซึ่งถูกส่งมาในไลน์กลุ่มที่มีฉัน เถื่อน ดาวและโย
ดาวเหนือ : เฮ้โฟม ถึงคอนโดยังอะ
โยเย โยชอบเย : นั่นดิวะ ห่วงนะเว้ยเฮ้ย รู้งี้ขี่จักรยานไปส่งมันก็ดี
ดาวเหนือ : ปัญญาอ่อนไงไอ้โย รถเปิดประทุนแกคือจักรยานเหรอไง!
ฉันหัวเราะออกมาเมื่อเข้ามาอ่านกลุ่มไลน์เนื่องจากเพื่อนๆ กำลังเป็นห่วงฉันสินะ เพราะนั่งแท็กซี่ไปตามผัวกลับดึกดื่นแบบนั้น นัมชะโงกหน้ามาดูแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรกระทั่งอีกหนึ่งข้อความเด้งขึ้นมา
โวยเถื่อน : อ่านแล้วก็ตอบด้วย โฟมล้างหน้า
“คิก” เสียงหัวเราะของฉันเรียกให้นัมนอนทับลงมาพร้อมกับเกยคางบนไหล่ “นัม จะทำอะไร?”
“ก็เพื่อนเธอถามไม่ใช่หรือไง ตอบไปสิ” เขายิ้มมุมปาก ก่อนจะกดเลื่อนไปตามหน้าจอมือถือของฉัน สักพักนัมก็กดถ่ายภาพและกดส่งไปทันที จนฉันกำลังมึนงงกับการกระทำอันรวดเร็วของเขา